อ่านจบแล้วความรู้สึกแรกคือนี่มันดีงามที่สุดในหกภพภูมิเลยนะ ไปค่ะ ไปอ่าน รออะไร (อ่านตรงนี้แล้วก็ลดทอนความเว่อทดไว้ในใจกันหน่อยหนึ่งละกันนะ เราอินมากน่ะ 55) ที่ตัดสินใจซื้อเรื่องนี้มาอ่านอย่างไม่ลังเลก็เพราะชื่อผู้เขียนนี่แหละ เจ้าของเดียวกับเรื่อง ปฐพีไร้พ่าย (與鳳行) ของสนพ. ห้องสมุด อ่านเรื่องย่อแล้วคิดว่าน่าจะฮาไม่แพ้กัน ซึ่งคุณจิ่วลู่เฟยเซียงก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ
แรกเริ่มซานเซิงเป็นเพียงก้อนหินซื่อ ๆ จึงทำเรื่องเปิ่น ๆ ด้วยสภาพไม่น่าดูต่อหน้าโม่ซี แต่คงเพราะความซื่อและความจริงใจ (และอาจบวกรวมกับอารมณ์นึกสนุก) เขาจึงยอมอนุญาตให้นางตามจีบเขาได้ 3 ชาติ ถึงแม้จะไม่เคยออกนอกปรโลกมาก่อน แต่ซานเซิงก็รู้ตัวชัดแจ้งว่านางต้องการสิ่งใด และไม่ลังเลที่จะคว้าโอกาสนั้นไว้ ถนอมทุกช่วงเวลาอันน้อยนิดไว้ดั่งสมบัติล้ำค่า นางมีโอกาสแค่เพียง 3 ชาตินี้เท่านั้น นับจากนั้นเขากับนางล้วนต่างต้องแยกกันตามทางด้วยแตกต่างกันอย่างยิ่ง ตลอดทางมีอุปสรรคและเรื่องราวมากมายให้ต้องเผชิญ ทว่าหัวใจของซานเซิงก็ไม่เคยยอมแพ้ รักของหินสามชาติก้อนนี้บริสุทธิ์และมั่นคงจนใจเราสั่นไหว (เอ่อ ถ้าไม่นับเรื่องที่คิดจะจับพระเอกกินก็เรียกว่าบริสุทธิ์ได้อยู่แหละเนอะ)
นิยายเรื่องนี้สร้างความประทับใจให้เราได้มากเพราะสไตล์การเดินเรื่องที่โดดเด่นแปลกตาของคุณจิ่ว การสอดแทรกมุกตลกเข้ามาก็ลงตัวดี ให้นางเอกเป็นฝ่ายมาเอ่ยปากขอจีบพระเอกแบบโต้ง ๆ นี่ก็ว่าฮาแล้ว แถมแต่ละชาติภพนี่พระเอกของเราก็อยู่ในช่วงวัยและสถานภาพต่างกัน มีอยู่ชาติหนึ่งที่นางเฝ้าประคบประหงมตั้งแต่โม่ซียังเป็นทารก โอ๊ยตาย ในความซื่อมีความร้าย และในความฮาก็มีความเศร้า ในความเศร้ามีความซึ้ง ออกจะหน่วง ๆ เป็นความรักที่ไม่ถึงกับสุข เป็นความทุกข์ที่ไม่ถึงกับเศร้า บางตอนที่ควรจะฮาเรากลับร้องไห้เพราะมองเห็นความเจ็บปวดของซานเซิง และขณะกำลังน้ำตาไหลเพราะสงสารก็ต้องเงิบกับความฮาของนางอีก ดูอย่างตอนโพล่งออกไปดื้อ ๆ ว่ากำลังเรียกร้องความสนใจจากพระเอกหลังจากโดนเขาเมินอยู่นี่ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ต่อดี ไม่น่าเชื่อว่าจะต้องมาเสียน้ำตาให้นิยายรักโรแมนติก-คอมเมดีอย่างมากมายขนาดนี้ ถ้าเปรียบกับเครื่องดื่มก็เป็นกรีนทีลาเต้เข้มข้นหอมมัน หวานกำลังดีติดปลายขมของชาเขียวนิด ๆ แม้บทสวีตของพระนางจะไม่ถึงอกถึงใจแม่ยกสายหื่นอย่างเรานัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้การอ่าน สามชาติผูกพันแม่น้ำลืมเลือน นี้สนุกน้อยลงไปเลย ชอบมากกว่าอ๋องไก่ (ปฐพีไร้พ่าย) อีก
ถ้ามองผิวเผินก็คงเป็นเคราะห์รักอย่างที่ซานเซิงคิด แต่หากมองให้ลึกซึ้ง ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็น บุพเพ...อาละวาด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in