"แต่ในแววตาเจ้ากลับมองเห็นแค่เพียงความแค้นที่ไร้ซึ่งความรัก อย่างนี้จะให้เราเชื่อได้อย่างไรว่าเจ้ารอคอยเราจากใจจริง"
- เยวี่ยเยี่ย
"ดอกสาลี่เคียงบัลลังก์ (梨花妝淚)"
ผู้เขียน: เทียนฉิน (天琴)
ผู้แปล: เกาลัดเดือนสิบสอง
สนพ. แจ่มใส (มากกว่ารัก)
พิมพ์ครั้งแรก, กุมภาพันธ์ 2562
(2 เล่มจบ)
*Sponsors by Jamsai*
เพราะเหตุบังเอิญในยามคับขันทำให้พวกเขาได้มาพบกัน ท่ามกลางดอกสาลี่สีขาวบานสะพรั่งเต็มหุบเขา นางช่วยชีวิตเขาไว้ ส่วนเขาก็ให้สัญญาว่าจะกลับมารับนางไปอยู่ด้วยกันและจะมอบครอบครัวอันอบอุ่นให้ เงาร่างของหญิงสาวประทับลงในดวงตาของเขา ส่วนนางก็แอบสลักชายหนุ่มผู้นั้นไว้ในหัวใจ กาลเวลาผันผ่าน แต่ชายหนุ่มคนนั้นไม่เคยกลับมา...
สามปีผ่านไป ไป๋เสวี่ยฝูซึ่งถูกอัครเสนาบดีไป๋ ผู้เป็นบิดาส่งไปอยู่ในอารามเมี่ยวเฟิงเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงอย่างเร่งด่วนหลังได้รับข่าวร้ายของพี่สาว จากบ้านไปนานหลายปี หลังกลับมาถึงกลับได้พบแต่ความเย็นชา สำหรับอัครเสนาบดีไป๋ บุตรีเป็นเพียงแต่สินค้าที่ใช้เป็นค่าผ่านทางไปสู่อำนาจเท่านั้น เมื่อพี่สาวของนางทำร้ายตนเองจนเสียโฉมและไม่อาจเข้าวังได้อีกต่อไป อัครเสนาบดีไป๋จึงหันมาเลือกไป๋เสวี่ยฝูแทน เขาจับนางกรอกยาพิษ และเอาชีวิตมารดามาข่มขู่ เพื่อปกป้องทุกคนนางจำต้องยอมเข้าวังไปเป็นสนม บิดาของนางไม่เพียงแต่ต้องการให้นางทำให้จักรพรรดิผู้ลือชื่อในความเหี้ยมโหดหันมาโปรดปรานนางให้ได้ แต่เป้าหมายสูงสุดของการได้รับความโปรดปรานคือโอกาสในการวางยาพิษฆ่าว่าที่สวามีของนาง!
ราวกับสวรรค์ยังโหดร้ายต่อนางไม่พอ เมื่อได้พบหน้าองค์จักรพรรดิเป็นครั้งแรก นางก็ต้องตะลึงและเจ็บปวด จักรพรรดิเยวี่ยเยี่ยผู้โหดเหี้ยมผู้นั้นคือชายหนุ่มคนที่นางเคยช่วยชีวิตไว้เมื่อสามปีก่อน นางจำเขาได้ทันทีที่พบ แต่เขากลับลืมนางไปเสียสิ้น เมื่อคำสัญญาที่เคยให้ไว้ถูกลืมเลือน นางก็ไม่คิดจะทวงถาม ส่วนเขาก็มองนางเป็นลูกของศัตรู ระหว่างพวกเขามีแต่ความเย็นชาไร้น้ำใจ สุดท้ายก็แปรเปลี่ยนเป็นความแค้น...
เรื่องนี้ทางแจ่มใสส่งมาให้อ่านนานมากแล้ว แต่ติดยุ่ง ๆ หลายอย่าง เลยดองเปรี้ยวไว้จนบัดนี้เพิ่งได้เอามาลง (ล่าสุดสนพ. ก็เพิ่งส่งเรื่องอื่นมาให้เพิ่ม เหมือนจะกระตุ้นให้เริ่มสำนึกว่ากลับมาอ่านหนังสือเถอะจ้ะ ?) บอกตรง ๆ ว่าตอนอ่านตัวอย่างทดลองอ่านแล้วเราไม่ชอบการเดินเรื่องเท่าไร สำนวนภาษาก็เฉย ๆ เลยตั้งใจว่าจะไม่ซื้อ (แต่ก็อยากรู้ตอนจบนะ ?) และแล้วสนพ. ก็ส่งมาให้ราวกับเห็นความตั้งใจ ต้องขอบคุณทางแจ่มใสมาก ๆ นะคะ แม้เราจะลงบล็อกให้ไม่สม่ำเสมอแต่ก็คอยสนับสนุนกันมาตลอด
กลับมาที่นิยาย ดอกสาลี่เคียงบัลลังก์ อ่านเรื่องย่อกันแล้วก็น่าจะพอได้กลิ่นน้ำเน่าโชยมากันแหละเนอะ อย่างที่บอกพล็อตเรื่องนี้มันน่าสนใจมาก คือถ้าดึงดราม่าได้สุด มันจะดึงให้เรื่องโดดเด่นและสนุกน่าติดตามมาก ๆ แต่เอาเข้าจริงมันดันออกมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไปไม่สุดสักอย่าง ตอนเจอกันครั้งแรก นางเอกปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง แถมยังเด็กทั้งคู่ (แต่สมัยนั้นก็ไม่ถือว่าเด็กกันแล้วล่ะมั้ง) นางเอกก็ฝังใจงี่เง่านิดหน่อยกับการที่พระเอกจำนางไม่ได้หลังจากกัน 3 ปี นี่อ่านแล้วก็อยากจะกรอกตามองบน 360 องศา อิหนูลูกเจอกันครั้งเดียวแล้วไม่เจอกันอีกเลยตั้งหลายปี เขาจำไม่ได้ก็ไม่น่าน้อยใจเขาขนาดนั้น ? ส่วนพระเอกก็แค้นซะจนบดบังดวงตา ไร้สติ โกรธพ่อมาลงที่ลูก แต่ก็นะ จะพาลมาระแวงเอาก็คงไม่แปลก เพราะพ่อนางเอกจ้องบัลลังก์ตาเป็นมันขนาดนั้น
ความรักความแค้นของสองคนนี้ยังดำเนินไปท่ามกลางเกมการเมืองทั้งภายในและภายนอก ผู้เขียนค่อย ๆ สร้างปมให้แน่นขึ้น แต่กลับเลือกทางลงง่ายไปหน่อย ทำให้นางเอกต้องสูญเสียและพบกับการบีบคั้นต่าง ๆ มากมายจนแค้นพระเอกอย่าง (น่าจะ) ลึกล้ำ แต่สุดท้ายกลับอ่อนลงแบบขัดแย้งกับความมุ่งมั่นก่อนหน้า อารมณ์แบบเพื่อนเราทะเลาะกับแฟนแล้วบอกว่าครั้งนี้เลิกแน่ ไอ้เราก็ขึ้นไปแล้ว ให้กำลังใจเต็มที่ พร้อมสาปส่งแฟนเพื่อนละ สุดท้ายรุ่งขึ้นมันดีกันเฉย ส่วนตัวเรานั้นหรือก็น้องหมาหัวเน่าไปจ้าาา ? ส่วนสำคัญที่เราอ่านแล้วรู้สึกขัดแย้งคือ ความรักครั้งแรกที่เกิดขึ้นระหว่างไป๋เสวี่ยฝูกับเยวี่ยเยี่ยนั้นน่าจะเป็น puppy love อะ มาเจอกันอีกครั้งก็น่าจะมีเยื่อใยบาง ๆ แถมเยวี่ยเยี่ยยังเคยให้คำสัญญาที่โดนปมในใจของน้องไป๋อีก แน่นอนว่ามันต้องมีความผูกพันอยู่บ้าง แต่ไม่น่าลึกซึ้งจนเกิดเป็นความรักที่แน่นแฟ้น ยิ่งมาเจอกันอีกครั้งพ่อเจ้าประคุณทูนหัวก็เอาแต่เย็นชา ทารุณนางเอก ก็เลยไม่เห็นเหตุที่ทำให้ความรักเมื่อครั้งนั้นพัฒนาไปเป็นรักแท้จนนำไปสู่เหตุการณ์อื่น ๆ ในเรื่องได้เท่าไรนัก โดยเฉพาะตอนจบที่อ่อนแรงแบบเห็นชัดเลย คือพยายามยั่วคนอ่านว่าอาจจะ BE นะ จะได้ลุ้นกันตัวโก่ง แต่แล้วสุดท้ายก็มีเหตุให้กลายเป็น HE ตามหลักคือต้องตราตรึงสะเทือนใจ ทว่าน่าเสียดายที่ไปได้ไม่สุดถึงขั้นนั้นอะ
นิยายรักโรแมนติกแบบเรื่องนี้ คนอ่านพอจะเดาได้อยู่แล้วว่ามันน่าจะจบ HE แหละ ดังนั้นส่วนที่ยากคือถ้าคุณจะลวง/ยั่วคนอ่านให้หลงไปในทาง BE นั้นต้องเนียน การเดินเรื่องต้องแน่นโดยเฉพาะเทคนิคการลวง ต้องไม่สะเปะสะปะ ไม่รักพี่เสียดายน้อง อยากเอาตัวละครบางตัวกลับมาก็ดึงมาใส่แบบไม่คำนึงถึงโครงสร้าง เพราะถ้าหลอกคนอ่านไม่สำเร็จ มันก็จะแป้กพลอยให้ดึงอารมณ์ไปได้ไม่สุดทาง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in