ณ ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ
ไม่มีคนผ่านไปมา
มี "ศพหญิงสาว" นอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
.
.
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ
แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
.
.
ต่อมาพักใหญ่ มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพนั้น รู้สึกสงสาร
จึงถอดเสื้อนอกออกมา
คลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป
.
.
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู
เมื่อพบว่า เป็นศพ ด้วยใจสงสาร
คิดอยากจะฝังให้เรียบร้อย
แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้งสองข้าง
ค่อยๆกอบโกยทรายขึ้นมา
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น
พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อย..แล้วจากไป
.
.
ตัดภาพกลับมาทึ่ปัจจุบัน
ชายคนหนึ่งรักกับหญิงส่าวมา 3 ปี
แล้วเธอก็จากไป แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่ง
ชายคนนี้เศร้าโศก เสียใจมาก
หมดอาลัยตายอยากในชีวิต
หลวงตาท่านหนึ่ง จึงมาไขปริศนาให้ฟัง
.
.
"ทีนี้เข้าใจหรือยัง..ศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ
ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา
ส่วนโยมเป็นชายที่ช่วยคลุมศพเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปีแล้ว
วาสนาสิ้นแล้ว..ก็ต้องจากกัน"
.
.
ต่อมาไม่นาน..ชายคนนี้ก็ได้ออกบวช
ติดตามหลวงตารูปนั้นในที่สุด
.
.
คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ความสัมพันธ์ พ่อแม่ พี่น้อง
ญาติ เพื่อน ศัตรู คนรัก
เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง
ถึงเวลาก็มาเจอกัน..
เมื่อสิ้นบุญวาสนา ก็ต้องจากกัน
มิอาจรั้งไว้ได้
.
.
ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้
คุณได้ทำดีต่อคนใกล้ชิดของคุณหรือยัง
เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน
ไม่ว่าคุณจะมีเงิน มีรูปโฉมหล่อสวยแค่ไหน
หรือมีอำนาจล้นฟ้า ฉลาดยังไง
ก็มิอาจเรียกร้อง ให้มันหวนกลับคืนมาได้
.
.
เมื่อได้มาเจอกันแล้ว
ทำดีต่อกันไว้เถิด
เพราะไม่มีใครรู้ว่า
เราจะต้องจากกันเมื่อไร
.
.
ทุกๆ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม
ที่เรานึกคิด เราพูด เรากระทำ..
ล้วนมีผลแห่งกรรม
ล้วนส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคตทั้งนั้น
Cr. ส่วนหนึ่งจากบทความ
Page : Kanok Ratwongsakul Fan Page
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in