เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
วาสนาเราไม่สิ้น เหมือนกลิ่นสุคนธาkwanpandin
วาสนาเราไม่สิ้น เหมือนกลิ่นสุคนธา 3
  • 3

    ปีนี้ฉันอายุย่างสิบหกปีแล้ว เจ้าคุณปู่อนุญาตให้ฉันเข้าเรียนโรงเรียนดรุณีใกล้บ้าน เฉกเช่นเดียวกันกับพี่สาวทั้งสี่คน โรงเรียนเข้มงวดเหลือเกิน เขาว่าจะขัดเกลาให้เราเป็นกุลสตรีอันเพียบพร้อม ฉันพึงพอใจที่จะเป็นกุลสตรีที่มีความสมบูรณ์พร้อม แต่ความเพียบพร้อมนั้นฉันย่อมฝึกฝนเพื่อตัวฉันเอง มิใช่เพื่อให้ใครที่ไหนพึงพอใจ

    ทุกเย็นหลังโรงเรียนเลิก เราทั้งห้ามีคนรถมารับอย่างตรงเวลาที่สุด ผู้ใหญ่ท่านมิชอบให้เราเถลไถล หรือไปไหนมาไหนกันเอง ฉันพอเข้าใจความเป็นห่วงของท่าน พี่สาวทั้งสี่ของฉันเติบโตเป็นคนงามพร้อมทั้งหน้าตา กริยาและชาติตระกูล มีนักเรียนชายโรงเรียนใกล้เคียง ทั้งชาติตระกูลธรรมดาจนสูงส่งหมายปองกันทั้งสิ้น แต่เห็นทีจะยากยิ่งนัก เจ้าคุณปู่ จนกระทั่งคุณลุงใหญ่ คุณลุงเล็ก รวมถึงบรรดาพี่ชายของพวกเรา ต่างมิยินยอมให้ผู้ใดได้เข้าใกล้ทั้งสี่สาว ได้เพียงแต่เฝ้าดูกันไกลๆ เท่านั้น ส่วนฉันน่ะหรือ ฉันมิมีสายตาไว้มองชายใดในแถบนี้ดอก

    เมื่อกลับถึงบ้าน สิ่งแรกที่ฉันทำคือวิ่งขึ้นเรือนไปกราบเจ้าคุณปู่และผู้หลักผู้ใหญ่หากท่านอยู่บ้าน เมื่อครบแล้วก็จะต้องรีบวิ่งแจ้นกลับไปยังเรือนของตนเอง เพื่อมองหาคนอีกฝั่งแม่น้ำนั้น หมู่นี้เขาไม่ค่อยอยู่บ้านกระมัง นานๆ จึงมาให้เห็นทีหนึ่ง ฉันคิดว่าตัวเขาเองก็จะต้องออกไปร่ำเรียนเขียนอ่านเช่นเดียวกับฉัน สงสัยยิ่งนัก ว่าเขาเรียนสิ่งใด และเรียนกันอย่างใด

    “น้องมองไปยังบ้านโน้นอีกแล้ว มองเห็นสิ่งใดหรือ”

    เสียงแว่วๆ ดังขึ้น ฉันเห็นพี่สาวทั้งสี่ที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเรียบร้อยเดินข้ามธรณีประตูมา ด้วยกริยาแช่มช้อย

    ฉันยังไม่ได้ตอบว่าเห็นสิ่งใด แต่หันกลับไปสอดส่องฝ่ายนั้นอีกครั้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าคงไม่เห็นเขาผู้นั้นอีก จึงหันมาตอบ

    “มองไม่เห็นสิ่งใด วันนี้บ้านนั้นแลดูเงียบสงบกว่าที่เคย คนหายไปไหนกันหมดก็มิทราบค่ะ”

    พี่ๆ ของฉันทำเพียงยกยิ้มอย่างสำรวม แล้วมิได้พูดสิ่งใดอีก ฉันจึงพลอยไม่มีเรื่องต้องพูดไปด้วย นั่งพักกันอยู่มินาน มีเสียงพูดคุยดังขึ้นเบาๆ ที่เรือนฝั่งซ้าย เป็นเสียงพี่ชายทั้งสามของฉันเพิ่งกลับมาถึงบ้านเป็นแน่แท้ พูดคุยสิ่งใดกันมิทราบน่าสนุก พี่สาวคนโตที่รู้ความก่อนใคร จึงได้ลุกขึ้นและเรียกพวกเราน้องๆ ให้เดินตามเธอไปด้วยกัน

    แต่ก่อนที่ฉันจะเดินข้ามธรณีประตูออกไป พลันหางตาก็มองเห็นผู้หนึ่งที่ฝั่งตรงข้ามนั้น ย่อมใช่คนที่ฉันรอคอย ฉันเห็นเขายืนเอามือไพล่หลังมองมาทางนี้ มองมาตั้งแต่เมื่อใดฉันมิทราบ ไม่เจอกันหลายวัน เขาแลดูเติบโตขึ้น รูปร่างกำยำสมชายชาตรี กรอบหน้าชัดเจนคมสัน ทว่าสายตาดูดุดันกว่าครั้งไหนๆ ไม่ใช่สายตานิ่งเย็น เฉกเช่นแต่ก่อนเสียแล้ว ฉันคิดว่าเพราะเขาคงได้พบกับเรื่องราวที่ทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตกระมัง

    ฉันยกยิ้มส่งให้เขาบางเบาก่อนเดินตามพี่สาวทั้งสี่ออกไปจากห้องในที่สุด เขาคงรับรู้ได้ ว่าฉันมองเห็น และเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ฝั่งนี้ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in