เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คิมินะระ เดะคิรุโยะjoonjaiii
ฉันชอบปั๊มรูปหัวใจ
  • วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2563 วันแรกของการฝึกงาน 


    วันแรกของการฝึกงานของเราได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว 
     
    พ่อกับแม่ปลุกเราตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ดูเหมือนว่าพ่อแม่จะตื่นเต้นแทนเราไปแล้ว 555 ที่จริงเราก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เราเตรียมกระเป๋าใส่อุปกรณ์เครื่องเขียนที่จำเป็นและสิ่งสำคัญที่ควรเตรียมไปที่สุด ก็คือ สติ สตางค์ (สตางค์ = เงิน) และใจ สามสิ่งนี้คือสิ่งที่แม่พูดกับเราขำ ๆ กึ่งจริงจังนิดหน่อย จากนั้นพ่อกับแม่ก็กอดเราแล้วโบกมือบ๊ายบายส่งเราที่หน้าบ้าน 

    เรามาถึงห้องสมุดก่อนเวลาเปิดประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เวลาเปิดทำการของห้องสมุดจะเปิดตั้งแต่ 10.00 น. - 17.00 น. เปิดวันพุธถึงวันอาทิตย์ และหยุดจันทร์กับอังคาร เรานั่งจ๋องอยู่ข้างหลังห้องสมุด ข้างหลังห้องสมุดอากาศดีและมีลมพัดมาตลอดเวลาไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่ตั้งของห้องสมุดที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาหรือเปล่า เรานั่งมองวิวห้องสมุดจากข้างหลังจนใกล้ถึงเวลาเปิด เพื่อนเราเดินนำเข้าห้องสมุดไปเปิดคอม แล้วก็พาเราดูแต่ละมุมของห้องสมุด เราตื่นตาตื่นใจกับหนังสือนิทานหลาย ๆ เล่มที่ทั้งเคยเห็นและไม่เคยเห็น บางเล่มเป็นนิทานโปรดของเราตอนยังเป็นเด็กน้อย เวลาเห็นนิทานเล่มนี้เราจะมีภาพจำในวัยนั้นฉายขึ้นมาให้เห็นทันที เราเริ่มรู้สึกชอบที่นี่ทันที ถึงแม้จะเป็นห้องสมุดเล็ก ๆ แต่มีหนังสือหลายแนวให้อ่าน ขนาดเรายังตื่นเต้น เด็ก ๆ หลายคนที่มาห้องสมุดต้องตื่นเต้นยิ่งกว่าเราแน่ ๆ 

    เราเดินวนดูรอบห้องสมุด พี่ ๆ ที่ห้องสมุดค่อย ๆ ทยอยกันมา เราเข้าไปสวัสดีและแนะนำตัวเอง ระหว่างนั้นก็ดูพี่ ๆ ทำงานไปพลางทำงานส่วนของตัวเองไปพลาง ช่วงเช้าของวันนี้เราช่วยเพื่อนจัดหนังสือและเรียนรู้ว่าห้องสมุดแห่งนี้มีการแบ่งประเภทหนังสือยังไงบ้างซึ่งความรู้เรื่องนี้จะทำให้เราสามารถแนะนำคุณพ่อคุณแม่ที่มาเป็นครั้งแรกได้ หลังจากที่เพื่อนพาเราแนะนำการใช้ห้องสมุดไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปเพื่อนก็สอนเราใช้เว็บไซต์ของห้องสมุด พวกยืม-คืนหนังสือแล้วก็การสมัครสมาชิก เราได้ทดลองยืม-คืนหนังสือด้วยตัวเอง หนังสือแต่ละเล่มจะมีบาร์โคดและรหัสของบาร์โคด ตอนแรกเราคิดว่าเวลาจะยืมหนังสือแล้วต้องยิงเลเซอร์สีแดงตรงบาร์โคด แล้วจะได้มีเสียงดัง ติ๊ด เหมือนเวลาซื้อของตามห้าง แต่ความจริงแล้วเราต้องพิมพ์รหัสหนังสือลงระบบยืมต่างหาก  ( ถ้าเกิดว่าได้ยิงบาร์โคดด้วยเลเซอร์จริง ๆ  คงฟินสุดสุด เพราะเราชอบได้เสียงติ๊ดเวลาสแกนสินค้ามากๆๆ ) 

    เมื่อถึงช่วงบ่ายเราลงมานั่งประจำเคาน์เตอร์ข้างล่างเพื่อรอบริการยืม-คืนหนังสือให้แก่ผู้ปกครองไม่นาน

    ก็มีคุณพี่ผู้หญิงเดินเข้ามาคืนหนังสือจำนวน เล่ม (เรามือสั่นนิดหน่อยด้วยความตื่นเต้น) โชคดีที่ขั้นตอนการคืนหนังสือไม่ยากเท่าการยืม เราค่อย ๆ ทำเพราะกลัวพลาดมาก ที่เรากลัวขนาดนี้เพราะตอนนี้มีแค่เราคนเดีียวประจำเคาน์เตอร์ พอคืนเสร็จแล้วเราก็นั่งทำใจเย็น ๆ รอพี่ผู้หญิงเลือกหนังสือ สักพักคุณพี่ผู้หญิงก็เดินกลับมาพร้อมหนังสือที่ต้องการยืม เอาแล้ว งานยากที่สุดมาแล้ว? เราตั้งสติแล้วทำตามขั้นตอนที่เพิ่งเรียนมาเมื่อเช้า แต่เราตื่นเต้นเกินไปจนหลง ๆ ลืม ๆ เราเลยอ้อมแอ้มถามพี่ผู้หญิงคนนั้นว่าปกติถ้าลงรหัสหนังสือในเว็บแล้ว เขียนรหัสหนังสือลงสมุดยืมเรียบร้อยแล้ว จะต้องปั๊มรูปหัวใจในสมุดยืมหนังสือด้วยใช่มั้ย ? พี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเราแล้วก็ตอบว่า ใช่ ต้องปั๊มตามจำนวนเล่มที่ยืม เราก็ขอบคุณพี่เขาเขิน ๆ แล้วก็ปั๊มรูปหัวใจ 5 ดวง


    หลังจากที่พี่คนนั้นกลับไปแล้ว ก็มีคุณพ่อลูกสองคนมาอ่านหนังสือเล่น แล้วก็มีคุณแม่หนึ่งท่านที่มายืมหนังสือกลับบ้านไปให้ลูก ถึงเราจะเก้งก้างไปบ้างแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี 


    สิ่งที่ชอบที่สุดเวลาที่เรายืม-คืนหนังสือคือ การปั๊มวันที่คืนกับปั๊มรูปหัวใจตามจำนวนหนังสือ อาจจะเพราะว่าตัวเองเป็นคนชอบทำอะไรซ้ำ ๆ เป็นแพทเทิร์น ยิ่งถ้าปั๊มตรงกับช่องแล้วหมึกเข้มเท่ากันพอดี เราจะภูมิใจในตัวเองมาก? ไม่ใช่เราคนเดียวที่ชอบการปั๊มหัวใจ เด็ก ๆ ที่มายืมหนังสือก็ชอบเหมือนกัน น้องจะดีใจมากทุกครั้งที่มายืมหนังสือแล้วได้เห็นว่าตัวเองได้ตราปั๊มหัวใจกลับไปด้วย บางคนถึงกับเดินมาดูเราปั๊มตรงเคาน์เตอร์เลย




    วิดีโอนี้เป็นวันที่เรายืม-คืนหนังสือคล่องแล้ว จะสิบยี่สิบเล่มก็ไม่กลัว !


    วิดีโอนี้ตอนเรากับเพื่อนช่วยกันยืมหนังสือ เป็นวันที่คนมายืมหนังสือกันเพียบเลย





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in