ท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้งบริเวณป้ายรถรับส่งเนืองแน่นไปด้วยนักเรียนทุกชั้นปีที่กำลังเดินทางเข้าหอพัก กลุ่มของลูคเดินไปยังป้ายรถบัสใบไม้ผลิซึ่งค่อนข้างร้างผู้คนผิดกับป้ายอื่นไม่นานนักรถบัสคันใหญ่พอกับรถรางก็เข้ามาจอดเทียบ
ตลอดเวลาที่เหลือบนรถบัสซิดจ์โม้น้ำลายแตกฟองถึงวีรกรรมตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาของเจ้าตูบแก่ซิลเวอร์ซึ่งก็หนีไม่พ้นเรื่องที่มันชอบขโมยถุงเท้าเขาไปฝังไว้ทั่วสวนจนเหลือให้ใส่แค่สองคู่ซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน
พอรถจอดบรรดาเด็กปีหนึ่งก็พากันขนสัมภาระลงรถกันเป็นกลุ่มเสียงดังไปทั่วสถานีลูคหอบหิ้วสัมภาระอันน้อยนิดของตัวเองพลางมองขึ้นไปยังป้ายเหล็กสลักตัวอักษรประณีตว่า หอใบไม้ผลิ
บรรดาเด็กปีหนึ่งเดินลัดสนามหญ้าตรงไปยังอาคารสีทองขนาดใหญ่สูงเสียดฟ้ารายล้อมด้วยทะเลสาบสายลมเอื่อยพัดพาความเย็นมากระทบใบหน้าลู่เส้นผมสีดำขลับของลูคให้ปลิวไปข้างหลังเขารู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าตอนที่นอนอยู่ในชั้นเรียนหรือแม้แต่ตอนอยู่บนสนามหญ้าในยิมเสียอีก
รอบหอพักเต็มไปด้วยร้านรวงมากมายกลิ่นแป้งอบหอมฉุยโชยมาจาก ร้านสามเหลี่ยมทองคำ ร้านขายพิซซ่าที่มีป้ายรูปพิซซ่าทรงสามเหลี่ยมยักษ์กระพริบแสงไฟนีออนสีเหลืองอ่อน
จังหวะบีตเพลงชวนระทึกใจดังตรงมาจากร้านตื่นทอง ร้านเกมที่ตั้งอยู่อีกฟากดึงความสนใจของพวกเขาเอาไว้ในร้านเนืองแน่นด้วยลูกค้านักเรียนมากหน้าหลายตาทั้งชายและหญิงกำลังยืนต่อคิวตู้กดเกมยาวเป็นหางว่าวเด็กจำนวนไม่น้อยกำลังยืนมุงดูที่ตู้เกมกดส่งเสียงเชียร์กันดังจ้าละหวั่น
แถวจากร้านตื่นทองยาวคดเคี้ยวไปถึงหน้าร้านนัยน์ตาทองคำสี่กะรัต ร้านเช่าวิดีโอที่ติดป้ายประกาศหราไว้หน้าร้านว่า
บริการยืนภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เสาะหาได้ในฟอร์ทอีสต์... หนังยุคสำริดกลิ่นอายเก่าแก่... หนังยุคทองแดงสุดคลาสสิกหายาก... หนังยุคทองคำสุดโก้เก๋โดนใจวัยรุ่น... หนังยุคเหล็กนำสมัย... หากยืมแล้วไม่คืนภายใน 1 อาทิตย์ เรามีบริการทวงคืนถึงประตูห้องพักของท่าน...
หรือแม้แต่กระท่อมลูกกวาดของโบดัวสาขาสอง ร้านขายลูกอมขนาดใหญ่ที่มีหุ่นยนต์จำลองทำขึ้นจากน้ำตาลกวนสีทองเป็นประกายเปล่งปลั่ง เขาและเพื่อน ๆ เดินเกาะกลุ่มกับเด็กที่เดินทางรถบัสคันเดียวกัน มาถึงยังหน้าอาคารสีทองรูปร่างหน้าตาคล้ายตึกระฟ้า แสงสะท้อนทองอร่ามด้วยมนต์ขลังเจิดจรัสจากผิวผนังอาคาร
หอพักใบไม้ผลิต้อนรับผู้อาศัยด้วยโถงกระจกใสขนาดกว้างที่สามารถเดินทะลุออกไปยังผืนทะเลสาบด้านนอกได้ประกายผิวน้ำสีแดงอมส้มจากอาทิตย์อัสดงสะท้อนเรืองรองเป็นลายริ้วน้ำทั่วกระจกผนังกระจกใสถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทั่วห้องใจกลางห้องโถงมีบ่อน้ำพุแก้วในสวนดอกไม้หลากสีสันสร้างบรรยากาศผ่อนคลายทั่วโถง
ลูคและเพื่อนๆ ขึ้นลิฟต์แก้วไปยังชั้นที่เป็นห้องพักของพวกเขา ชั้นทองแดงที่ยี่สิบเก้าดูตระการตากว่าที่ลูคคิดเอาไว้มากโขหากเทียบกับห้องนอนเก่า ๆ ซอมซ่อที่บ้านของเขาแล้วที่นี่แทบไม่ต่างจากการได้อยู่ในวังหลังประตูเหล็กสีทองแดงบานใหญ่คือห้องโถงวงกลมขนาดกว้างสีเดียวกันกับประตูตู้โต๊ะเก้าอี้ฉลุถูกใช้ตกแต่งอย่างหรูหรา และแน่นอนว่าทำขึ้นจากทองแดงทั้งหมด
ห้องทองแดงจัดสรรพื้นที่ไว้ครบครันทั้งพื้นที่นั่งเล่นห้องครัว ระเบียงกว้างพร้อมสระว่ายน้ำและสวนเรือนกระจกสำหรับชมทิวทัศน์และท้องฟ้าภายนอกอาคารที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นพระจันทร์และหมู่ดาวประปรายบ้างแล้วซิดจ์กับเบ็นจามินดูจะถูกอกถูกใจกับสวนเรือนกระจกอยู่ไม่น้อยในขณะที่ชินเดินปรี่ไปนอกระเบียงเพื่อสูบบุหรี่สมุนไพรกลิ่นคาโมมายล์ที่หอมละมุนเข้ามาถึงในห้องนั่งเล่น
ทุกคนลงความเห็นว่าควรลงไปซื้อของกินข้างล่างขึ้นมากินในห้องเพื่อดูปรากฏการณ์รุ้งแสงจันทร์ก่อนจะแยกย้ายกันไปเก็บสัมภาระในห้องนอนตนเอง
ลูคเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้สดชื่นเสียหน่อยก่อนเดินออกจากห้องนอนไปพร้อมกับซิดจ์ จากหน้าประตูห้องมายังห้องโถงรวมทั้งสี่พบกับเด็กสาวคนหนึ่งกำลังนั่งเหม่ออยู่บนเก้าอี้เบาะบุนวมหน้าห้องนอนบานกระตูสลักรูปดอกกุหลาบ เธอค่อย ๆ เบือนหน้ามามองพวกเขาเมื่อรู้ว่าตนไม่ได้อยู่ลำพังอีกต่อไป
หลังจากทักทายทำความรู้จักกันครบแล้วคลีโอเล่าว่านอกจากเธอแล้วยังมีเพื่อนอีกคนหนึ่งที่อยู่ร่วมชั้นนี้ด้วย เธอเองนั่งรอเพื่อนคนนี้มากว่าชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มาเลย
เมื่อพวกเขาลงมาถึงยังล็อบบี้ก็ต้องตะลึงกับจำนวนนักเรียนที่เดินกันขวักไขว่เต็มพื้นที่ห้อง
พวกเขากลับมาถึงห้องพักทันเวลาก่อนสามทุ่มอย่างเฉียดฉิว
เสียงลมโกรกเข้าดังหึ่งปลุกให้ลูคตื่นขึ้นเขากำลังยืนอยู่บนท้องถนนที่ไม่คุ้นว่ารู้จักดวงตาเบิกโพลงอย่างตกตะลึงเมื่อพบว่าตนเองไม่ได้นอนอยู่ในห้องพักใบไม้ผลิอีกต่อไปเมื่อสักครู่นี้เขาเพิ่งจะล้มตัวลงนอนดูรุ้งกับเพื่อน ๆ อยู่ไม่ใช่หรือแล้วทำไมกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้
บนท้องฟ้าสีถ่านมีแสงเรืองสีเงินของวงรุ้งแสงจันทร์ล้อมรอบดวงจันทร์ใหญ่ยักษ์ตึกสูงราวสิบชั้นหลังคาทรงโดมล้อมรอบตัวเขาที่ยืนอยู่บนลานกว้างรูปวงกลมเวิ้งว้างทุกอย่างเป็นสีทองอร่ามตั้งแต่หลังคาจรดท้องถนนห่างออกไปไม่ไกลนักลูคเห็นแนวกำแพงสูงเสียดฟ้าอยู่ลาง ๆ
ความเงียบงันกรีดก้องหูตลอดทางอาคารรอบด้านว่างเปล่าเหมือนถูกทิ้งร้างทุกย่างก้าวส่งเสียงสะท้อนไปทั่วบริเวณจนรู้สึกเหมือนมีกองทัพล่องหนนับร้อยเดินติดตามอยู่ไม่ห่างลูคเดินสะเปะสะปะบนถนนสีทองอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนสิ่งเดียวที่รู้คือเขาอยากกลับไปยังหอพักใบไม้ผลิเหลือเกินชั่วขณะเขารู้สึกหวาดกลัวและขนลุกซู่เหมือนกับกำลังถูกจ้องมองแล้วเขาก็ต้องใจหายวูบเมื่อแผ่นกระดาษสีทองแผ่นหนึ่งปลิวเข้าใส่หน้าจนสะดุดล้มโครมลงบนพื้นลูคยันตัวขึ้นยืนอีกครั้งเมื่อตั้งสติได้และคลี่แผ่นกระดาษเจ้าปัญหานั้นออกดู
หัวกระดาษเขียนด้วยตัวอักษรหวัดว่าประกาศคนหาย
ถนนทอดตัวสู่ความเวิ้งว้างตึกอาคารสีทองมีให้เห็นบางตาลงมากโข นาน ๆ ครั้งจะเจออาคารบ้านเรือนสักหลังหลังจากเวลาที่ลูคกะเอาจากความรู้สึกว่าน่าจะเกือบชั่วโมงหนึ่งเขาก็เดินมาสุดเส้นทาง ท้องถนนมืดมัวยามไร้แสงจันทร์สาดส่องอาจเป็นเพราะกำแพงสีทองกว้างสุดลูกหูลูกตาบดบังท้องฟ้าสีหมึกเสียมิดชิด
รูปปั้นยักษ์สีทองอร่ามตั้งเด่นอยู่เบื้องหน้าลูคจ้องมองยังเขาคดงอเป็นเกลียวที่งอกออกมาจากขมับทั้งสองข้างกึ่งกลางหน้าผากของมันมีดวงตาดวงที่สามเบิกโพลงจ้องไปในความว่างเปล่าอันไกลโพ้นเขี้ยวคมยาวแทบลากพื้นราวใบมีดและแขนทั้งสามข้างแข็งแกร่งด้วยมัดกล้ามทำให้มันดูดุร้ายน่าหวาดกลัวลูคไม่รู้ว่าเขาคลาดกับเด็กปริศนาคนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะเมื่อละสายตาจากรูปปั้นเด็กคนนั้นก็หายตัวไปเสียแล้ว
ช่องโหว่บนกำแพงซ่อนอยู่ใต้เงามืดของรูปปั้นเขาไม่รีรอรีบลอดตัวผ่านช่องนั้นอย่างรีบร้อนด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่าช่องแคบนั้นจะช่วยปลุกเขาให้ตื่นจากฝันแต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าอีกฟากของกำแพงไม่มีสิ่งใดนอกจากป่าไม้ที่ขึ้นทึบ
แสงสลัวจากใบไม้ใบหญ้าสะท้อนเป็นเงาตะคุ่มด้วยแสงวิบวับจากดอกไม้เรืองแสงตามทางเดินลูกรังลูคเห็นพุ่มดอกไม้หน้าตาเหมือนฮิปโปโปเตมัสดูคล้ายหน้าอาจารย์แจ็คสันอย่างบอกไม่ถูกซึ่งไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยเด็กหนุ่มเดินต่อไปพักใหญ่พลางปัดเศษใบไม้แห้งที่ร่วงกราวลงบนศีรษะอย่างนึกรำคาญไม่คิดอะไรอื่นนอกจากหวังลม ๆ แล้ง ๆว่าจะเดินไปเจอประตูวิเศษสักบานที่จะพาเขาออกไปจากป่าแห่งนี้
เสียงสัตว์กลางคืนร้องดังแว่วมาจากทิวไม้เรืองแสงหนาทึบที่ค้อมต่ำลงจนเหมือนยักษ์ปักหลั่นที่กำลังก้มลงมองเหยื่อลูคเลิกลั่กวิ่งฝ่าดงไม้หนาทึบด้วยความหลัว หวังจะหลบซ่อนจากต้นตอของเสียงร้องเสียงดังสวบสาบดังขึ้นตัดความเงียบทุกครั้งที่ย่ำลงบนใบไม้เรืองแสงแห้งกรอบเมื่อหันกลับไปมองข้างหลังเขาประสานสายตาเข้ากับดวงตากลมโตวาวแสงโรจน์ของบางสิ่งบางอย่างที่กำลังวิ่งไล่กวดมาติดๆ เสียงเหยียบย่ำกรอบแกรบลงบนใบไม้ชัดเจนกว่าที่เคยเมื่อสิ่งนั้นเริ่มเพิ่มความเร็วในการวิ่งขึ้นอย่างกระชั้น
ลูควิ่งเต็มข้อหวังหนีให้พ้นจากดวงตาคู่โตนั้นจนทะเล่อทะล่าไปสะดุดขอนไม้ที่ซ่อนอยู่ใต้กองไม้แห้งก่อนถลาล้มลงที่พื้นจนหัวเข่าถลอก
ท่ามกลางเสียงโอดโอยของตนเองและเสียงคำรามของสัตว์ร้ายตัวนั้นลูคได้ยินเสียงซิดจ์ดังแผ่วผ่านความมืดเข้ามากระทบโสตประสาทที่กำลังเลือนลางลงไปทุกขณะ
ลูคปวดหัวจนต้องยกมือขึ้นกุมขมับความฝันเมื่อครู่ช่างแปลกประหลาดเสียจนเกือบจะทำให้คิดว่ามันเกิดขึ้นจริงเขายันตัวขึ้นนั่งก่อนรู้สึกเจ็บแปลบ เมื่อก้มลงดูก็พบว่าหัวเข่าเป็นแผลถลอกใหญ่ความรู้สึกเจ็บปวด สับสนและอ่อนเพลียกำลังถาโถมเข้าใส่เขาพร้อมกัน
นาฬิกาเจ้าคุณปู่ดังบอกเวลาเที่ยงคืนตรงเรียกสติกลับมาดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเมื่อสักครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกับเขา เพราะเพื่อน ๆต่างก็แยกย้ายกลับขึ้นไปยังห้องพักทันทีที่ถึงเวลาเที่ยงคืนแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววของเพื่อนที่คลีโอเฝ้ารออยู่
ห้องครัวยามวิกาลเงียบกริบจนน่าขนลุกระหว่างที่เขากำลังก้มหยิบขวดน้ำจากตู้เย็นสายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังนั่งหลับตาอยู่ในห้องเรือนกระจก
เด็กหนุ่มคนนั้นลืมตาขึ้นเหลียวมองด้วยนัยน์ตาสีดำที่ต้องกับแสงเรืองจากในสวนจนดูเหมือนสีน้ำเงินเข้มเขามีเส้นผมสีลูกพีชดูแปลกตา
หลังจากใช้เวลาอยู่ร่วมชั่วโมงนั่งนึกหาคำอธิบายความฝันอันแปลกประหลาดให้กับตัวเองลูคก็เดินกลับจากสวนเรือนกระจกเข้าไปยังห้องนอนเขาเอื้อมมือไปปิดสวิตซ์ไฟที่หัวเตียง ดับแสงไฟสุดท้ายในชั้น ห้องพักชั้นทองแดงตกอยู่ภายใต้ความมืดมิดของยามราตรีเสียงฟ้าร้องดังอยู่ตลอดทั้งคืนปนกับเสียงสายฝนกระทบหน้าต่างดังเปาะแปะลูคข่มตานอนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ที่นอกระเบียงท้องฟ้ายังคงไร้แสงอบอุ่นสีทองจากดวงตะวันลมฝนพัดกระหน่ำสาดกระทบบานกระจกเสียงดังเป็นจังหวะ ดูเหมือนว่าพายุได้มาเยือนนครฟอร์ทอีสต์เรียบร้อยแล้ว
จบบทที่ 1
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in