เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
the beatrice playlistgiftmeme
how can i love the heartbreak, you're the one i love
  • dean



    ตอนที่ดีนก้าวเข้าไปในร้าน เขาพบว่าตนไม่ใช่คนแรกที่หอบเอาละอองฝนและความเปียกชื้นเข้ามาในนี้ ช่อดอกกุหลาบขาวในห่อหนังสือพิมพ์วางแน่นิ่งอยู่บนเคาน์เตอร์ กลิ่นหมึกพิมพ์และกลิ่นใบไม้ดอกไม้ปะปนกันให้คนประสาทสัมผัสดีอย่างเขาย่นจมูกนิด ๆ ยามคลี่กระดาษออกมา เขาทราบดีว่าคุณลินไม่เคยจัดดอกไม้สวยงามและไม่ใคร่จะทำอย่างนั้นมาแต่แรก แต่ปกติอีกฝ่ายก็ไม่ละเลยถึงขั้นให้พวกเขาแกะเอาจากห่อและตัดแต่งใส่แจกันเอง เวลาเขาไหว้วานให้พี่จอห์นไปซื้อดอกไม้มาไว้ในร้าน ถึงสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นช่อดอกไม้กำสองกำแลดูเรียบ ๆ ทว่าสามารถใช้งานได้ทันที หรือบางวันที่เจ้าของร้านดอกไม้เกิดว่างจนเบื่อ พวกเขาจะได้รับแจกันที่จัดโน่นผสมนี่ออกมาตามใจโดยไม่คิดมูลค่า ดีนหมุนดอกกุหลาบที่ยังมีหนามและใบครบช้า ๆ พลางขบคิดว่าพี่จอห์นกับคุณลินนั้นเหมือนกันกว่าที่คิดเหลือเกิน อย่างน้อยก็ในฐานะคนหลงทางที่มีเงินเหลือเฟือให้เขาอิจฉาเล่น 

    มีกุหลาบแต่ไร้ตัวคน ประตูหน้าร้านยังไม่ได้เปิดจนกระทั่งเขามาถึง แค่นี้ก็ชัดแจ้งยิ่งกว่าอะไร ชายหนุ่มที่เป็นหุ้นส่วนร้าน 80 เปอร์เซ็นต์และเจ้าของตึกหลังนี้คงเพิ่งกลับมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ดีนนึกภาพพี่จอห์นเดินย่องจากร้านข้าง ๆ เข้ามาทางประตูด้านหลังและมองซ้ายมองขวาราวกับกลัวคนอื่นจับได้ว่าไปค้างคืนที่อื่นมา ทั้งที่ความจริงเขารู้ว่าสองคนนั้นมีความสัมพันธ์แบบใดกันแต่แรก มนุษย์ผู้จากบ้านมาอยู่ที่อื่นและมีเพศวิถีซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับมาอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม — แม้คุณลินจะเคยเป็นนักแสดงและดูอ่านยากเพียงใด แต่พี่จอห์นเองก็ไม่ได้น่ารังเกียจอะไร ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือนิสัยใจคอ วิธีที่รุ่นพี่ของเขาเคลื่อนไหวไปตามบรรยากาศทำให้ดีนนึกถึงกิ่งต้นสนไหวไปตามลม ต้นไม้ที่เปลี่ยนใบให้เรียวเล็กให้เข้ากับถิ่นที่อยู่ แม้ตอนพบกันครั้งแรกสมัยเรียนที่เมืองหลวง ผู้ชายคนนี้จะเป็นดังทานตะวันที่เป็นฝ่ายทำให้ดวงอาทิตย์หันหามากกว่า

    แม้แต่ดีนเองก็ยังหมุนไปตามน้ำเสียงร่าเริงที่ปลายสายเมื่อหลายเดือนก่อน จากคำทักทาย "สวัสดี ไม่ได้เจอกันนานเลย ตอนนี้นายอยู่ที่บ้านเกิดใช่ไหม" ไปจนถึง "เราเพิ่งซื้อตึกริมทะเลไป ถ้านายสนใจ มาเปิดร้านกาแฟด้วยกันไหม" — ต้องเป็นคนแบบพี่จอห์นเท่านั้นที่ทำให้ดีนไม่กดตัดสายไประหว่างทางเสียก่อน อีกฝ่ายยังจำได้ว่าเขาดื่มแต่กาแฟใส่นมไม่ก็ชาเขียว ไม่ได้โปรดปรานถึงขั้นขาดกาเฟอีนไม่ได้เหมือนตัวเอง จึงรีบกล่าวว่าจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องชงกาแฟในร้าน ฟังไปฟังมาดูเหมือนว่าพี่จอห์นแค่ต้องการคนในพื้นที่มาร่วมงานด้วยเท่านั้นเอง เพราะแม้จะออกปากให้มาเป็นหุ้นส่วน แต่เขาไม่ได้ร้องขอให้ดีนมาบริหารร้านหรือจัดการบัญชีด้วยซ้ำไป 

    "ถ้านายไม่อยากเข้ามาที่ร้าน เราจ้างคนอื่นมาดูแลแทนก็ได้ สบายมาก" คนออกทุนว่าไว้เช่นนี้ แต่จนแล้วจนรอดดีนก็อาสาเป็นทั้งผู้จัดการร้าน แคชเชียร์ ตลอดจนพ่อครัวอาหารคาวหวานและคนล้างจานเสร็จสรรพในหนึ่งเดียว เนื่องจากมีเวลาสองเดือนก่อนเปิดร้าน เขาจึงใช้เวลาว่างขัดเกลาทักษะการทำอาหารที่พอมีอยู่บ้าง รวมถึงหัดทำขนมอย่างคุกกี้และบราวนี่ให้เด็กที่มาเรียนร้องเพลงช่วยชิมจนเข้าที่ พี่จอห์นมองดูเขาซ้อมทำนู่นนี่ในวันก่อนเปิดร้านเหมือนคนโดนผีหลอก คงเป็นเพราะตัวเขาที่อีกฝ่ายเคยรู้จักคือคนที่ขี้เกียจตัวเป็นขน แต่ดีนให้เหตุผลไปว่าพวกเขาควรทำเท่าที่ทำได้ไปก่อนเพื่อประหยัดต้นทุน ไว้กิจการทำท่าว่าจะไปได้สวยและงานล้นมือเมื่อไหร่ค่อยหาลูกมือเพิ่ม แน่นอนว่าหุ้นส่วนอีกคนทำท่าจะแย้งทันที นั่นเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปีที่เขาเผลอพูดจาขวานผ่าซากใส่รุ่นพี่และนับเป็นครั้งที่สองในความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นให้ลูกคนรวยขี้เบื่อมาแกล้งขายของนะครับ เงิน 20 เปอร์เซ็นต์ที่ลงขันไปอาจทำให้ผมมีสิทธิ์ไม่มากเท่า แต่ผมไม่อยากให้ความพยายามของตัวเองสูญเปล่าเพราะเห็นตัวเลขขาดทุนในบัญชีหรอกนะ 

    แม้พี่จอห์นจะโอนอ่อนผ่อนตามในที่สุด แต่พวกเขาก็ยังขาดทุนสามเดือนติดอยู่ดี เพียงแต่ช่องว่างระหว่างต้นทุนกับรายรับที่ค่อย ๆ แคบลงช่วยปลอบประโลมใจได้บ้าง ส่วนหนทางคืนทุนนั้นยังดูห่างไกล ถึงพี่จอห์นจะยอมกวาดถูพื้นและล้างแก้วล้างจานให้ทุกวันแล้วก็ตาม ดีนรู้ดีว่าไม่ควรคาดหวังมากไปตั้งแต่แรก เพราะแม้ว่าที่นี่จะตั้งอยู่ริมทะเลและมีชายหาดให้เดินเล่นเป็นระยะสั้น ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวเมื่อเทียบกับอีกเขตของเมืองที่มีกิจกรรมมากมายให้ทำ ดังนั้นนาน ๆ ทีจึงจะมีคนจากที่อื่นหลงมาสักกลุ่ม ส่วนคนที่ตั้งใจมาเยือนเองคงต้องตั้งใจปลีกวิเวกอย่างสุดขีดทีเดียว เขาเคยเห็นคนเขียนรีวิวคาเฟ่ของพวกเขาในบล็อกสองสามแห่งและเช็กอินในอินสตาแกรมอยู่นิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมอะไรในอินเทอร์เน็ตมากนัก ส่วนใหญ่คืนวันของดีนจึงผ่านไปอย่างเรื่อยเปื่อย เขาคุยกับพี่จอห์นแก้เหงา ฟังเรื่องซุบซิบในชุมชนจากลูกค้าประจำแถวนี้ ถ้าง่วงก็แอบไปงีบบนโซฟา เพื่อนสมัยมัธยมที่อยู่ที่นี่เหมือนกันต่างสงสัยว่าทำไมดีนถึงเลือกทำงานนี้ ขณะที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ฟังอย่างไรเหมือนกัน

    เพราะอากาศอึมครึมและฝนตกแต่เช้าในวันนี้ส่งผลให้ไร้วี่แววลูกค้า ดีนเลยสบโอกาสจัดการดอกกุหลาบอย่างใจเย็นพลางคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปด้วยได้ เสียงเปาะแปะกระทบหลังคาและพื้นถนนคล้ายจะเอื้อให้เขาตกอยู่ในภวังค์ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นสายฝนกลืนทะเลและท้องฟ้าให้เป็นผืนเดียวกัน ดีนถอนใจด้วยความพึงพอใจ หลังจากแบ่งดอกไม้ใส่แจกันสองใบเสร็จ เขาก็หันไปทำไข่คนใส่แฮมและมะเขือเทศสดเป็นมื้อเช้า กลิ่นเนยบนกระทะหอมอบอวลจนอยากให้มนุษย์ที่อยู่ชั้นสามรู้สึกตัวและย้ายก้นลงมาช่วยกันสักที อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องมาอ้อนออดขออาหารตอนงานยุ่งทีหลัง ขอแพนเค้กบ้าง ไส้กรอกทอดบ้าง แถมยังวุ่นวายกับการชงกาแฟ เอาแต่ใจไม่มีที่สิ้นสุด 


    ดีนเร่งเสียงเพลงโปรดคลอไปกับสายฝน เพราะหันหลังอยู่จึงไม่ได้ยินเสียงกระดิ่งและเห็นว่ามีคนเข้ามา







    tryn 



    หลังจากนั่งรถไฟสามชั่วโมง นั่งแท็กซี่ครึ่งชั่วโมง และเดินหลงทางอยู่อีกยี่สิบกว่านาที ตฤณก็หอบร่างเหนื่อยล้าและเปียกปอนมายัง beatrice ที่เด่นออกมาจากอาคารโดยรอบจนน่าเจ็บใจที่หาไม่พบ หากเป็นวันที่อากาศดีกว่านี้สักหน่อย เขาคงไม่ขัดข้องที่จะเดินทอดน่องเพื่อสำรวจย่านนี้ เผลอ ๆ อาจจะแวะลงไปเล่นน้ำทะเลก่อนเข้ามาจัดการธุระที่นำตนเองมายังเมืองห่างไกลนี้ด้วยซ้ำ แต่สภาพอากาศที่ยากจะคาดเดาและอยู่เหนือการควบคุมก็เรื่องหนึ่ง ส่วนรุ่นพี่ที่รับปากเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะมารับถึงสถานีรถไฟแต่ไม่มาก็อีกเรื่อง ตฤณไม่ใช่คนชอบย้ำให้มากความและออกจะคาดหวังให้อีกฝ่ายมีความรับผิดชอบในระดับเดียวกัน แน่นอนว่าเขาเป็นต้องรำคาญใจทุกครั้งที่มีคนพูดทำนองว่า "นึกว่าศิลปินอย่างนายจะใช้ชีวิตตามอารมณ์ความรู้สึกเสียอีก" จนอยากสั่งสอนให้รู้ซึ้งว่าแรงบันดาลใจในการทำงานซึ่งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาก็ต้องอาศัยระเบียบวินัยในการทำให้สำเร็จ บนโลกนี้อาจมีจิตรกรที่ใช้ชีวิตเสรีโดยไม่มีแผนอยู่มากมาย ตฤณไม่ได้เห็นแย้งอะไรกับวิถีชีวิตของคนเหล่านั้น เพียงแต่เขาไม่ใช่คนประเภทดังกล่าวก็เท่านั้นเอง

    หลังจากส่งข้อความและโทรหาจอห์นหลายสิบสายมาตลอดทาง แต่กลับได้ยินเพียงสัญญาณรอสายที่ชวนให้เคาะนิ้วไปบนต้นขาอย่างกระวนกระวาย ตฤณพบว่าชายหนุ่มที่ร้องเพลงคลอระหว่างปรุงอาหารอยู่หลังเคาน์เตอร์ก็เมินการมีอยู่ของเขาไม่ต่างกัน ท่ามกลางเสียงฝนและตะหลิวคนอาหารในกระทะ ท่ามกลางกลิ่นไอชื้นที่ติดมากับแจ็กเก็ตของเขาและไข่กับเนยหอมฉุย เขายืนจ้องแผ่นหลังและไหล่กว้างของอีกฝ่าย สายตาไล่ลงมายังสายผ้ากันเปื้อนที่ผูกเป็นโบอย่างหลวม ๆ ตรงเอว แขนเสื้อเชิ้ตที่เลิกขึ้นมาอยู่เหนือข้อศอกเผยให้เห็นแขนและมือที่ปรากฏกล้ามเนื้อและเส้นเลือดชัดเจน ไม่ใช่ว่าเขาคิดฉวยโอกาสใช้สายตาโลมเลียรูปร่างของคนแปลกหน้า แต่เป็นเพราะรู้สึกว่ารูปร่างมนุษย์คนนี้น่าสนใจจนอยากหยิบดินสอมาสเกตช์เสียเดี๋ยวนั้น 

    กว่าพ่อหนุ่มคนนั้นจะหันหน้ามาเจอเขาก็ตอนตักอาหารใส่จานเสร็จแล้ว ตฤณนึกว่าอีกฝ่ายจะทำจานร่วงตอนอุทานว่า "ตกใจหมด" เสียแล้ว ใบหน้าที่ฉายแววตื่นตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นงุนงงและยิ้มแย้มตามลำดับนั้นอ่อนเยาว์กว่าที่คิด ดวงตาดำขลับคู่นั้นกลมโตแต่ชี้ขึ้นแบบที่ทำให้นึกถึงตากระต่าย แต่วิธีที่เขายิ้มเหมือนเม้มปากนั้นดูจำใจอย่างบอกไม่ถูก มันสะท้อนออกมาในน้ำเสียงตอนพูดว่า "ขอโทษด้วยครับ ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดี ตอนนี้ยังเตรียมร้านไม่เสร็จดี รบกวนนั่งรอก่อนนะครับ" ท่าทางตฤณจะเผลอทำให้คนที่จอห์นเล่าให้ฟังว่าเป็น "หุ้นส่วน" ลำบากเพราะไม่ทันสังเกตว่าป้ายที่แขวนตรงประตูยังไม่ถูกพลิกจากปิดเป็นเปิด เขาคิดว่าทางที่ดีควรแจ้งจุดประสงค์ไปตรง ๆ เลยดีกว่า

    "ผมนัดกับจอห์นไว้ เขายังไม่เข้ามาเหรอครับ" 
    "ยังครับ น่าจะยังไม่ตื่น" — ตรงไปตรงมาจนทำให้อยากหัวเราะคิก
    "ผมเป็นคนที่จะมาดูห้องบนชั้นสองน่ะ เขาได้ฝากบอกอะไรไว้หรือเปล่า"
    "อะไรนะ" — สีหน้าเปลี่ยนกลับไปเป็นงุนงงและตกใจอีกแล้ว เหมือนกรอเทปย้อนกลับไม่มีผิด
    "ห้องบนชั้นสอง ที่ผมจะเช่าเป็นแกลอรี่"
    "แกลอรี่ แบบภาพวาดน่ะเหรอ" 
    "ประมาณนั้น"

    ไม่ต้องเดาให้ยาก จอห์นน่าจะยังไม่ได้เกริ่นเรื่องนี้กับหุ้นส่วนเป็นแน่แท้ ไม่ว่าจะด้วยลืมเองหรือไม่กล้าเอ่ยปากก็ตาม เพราะตอนนี้สีหน้าอีกฝ่ายเริ่มจะไม่ค่อยสบอารมณ์และมีรอยย่นอยู่ตรงหว่างคิ้ว พอเห็นเช่นนี้ ดวงตากระต่ายที่เพิ่งคิดว่าน่ารักดีก็ดูดุเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ตฤณยังไม่ทันได้อธิบายอะไรต่อ รุ่นน้องและหุ้นส่วนของจอห์นก็เดินดุ่มไปทางด้านหลังก่อนจะก้าวขึ้นบันไดอย่างว่องไว ทิ้งเขาให้นั่งกระอักกระอ่วนใจอยู่คนเดียวในร้าน อันที่จริงเขาก็อดเห็นใจอีกฝ่ายไม่ได้ ชีวิตที่มีจอห์นเป็นศูนย์กลางคงไม่ง่ายดายเท่าใดนัก เพราะบางครั้งคนคนนั้นก็แสนดีเกินไป น่าสงสารเกินไป ชวนหงุดหงิดเกินไป ทำให้เราต้องการเขาเกินไป และลงเอยด้วยการไม่อยากหลงรักเขาเกินไปทั้งที่สายไปแล้ว ตฤณสงสัยเหลือเกินว่าชายหนุ่มที่พบกันเมื่อครู่ตกอยู่ใต้อิทธิพลเดียวกับที่เขาเคยประสบมาหรือไม่ หรือว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์กลับกันโดยสิ้นเชิง อาจเป็นจอห์นที่ค้นพบแล้วว่าอยากจะดีกับใครคนหนึ่งมากกว่าคนอื่น ๆ ในโลก เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ ความรู้สึกเหมือนหัวใจตกลงไปอยู่ที่ท้องทำให้ตฤณพาลไม่ชอบตัวเองขึ้นมาวูบหนึ่ง

    แม้แต่ตอนที่จอห์นลงบันไดตามหลังรุ่นน้องมาในสภาพผมเผ้ากระเซิงและใส่แค่เสื้อยืดกางเกงวอร์ม ความอบอุ่นที่ตฤณยังคงรู้สึกเพราะความทรงจำฝังลึกเกินไปก็ทำให้เขายิ้มได้ไม่สุด ยิ่งตอนที่คนแก่กว่าเอ่ยทักด้วยชื่อเล่นที่รู้กันแค่สองคน — ชื่อเดียวกับที่ประทับอยู่บนพื้นผิวสีขาวของตึกหลังนี้ ตฤณก็ยิ่งอยากร้องไห้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จนแล้วจนรอดเขาก็ยังกลับไปเป็นเด็กเกรดสิบที่สวมชุดกระโปรงและวิกผมยาว รู้สึกเขินอายและไม่มั่นใจจนกระทั่งจอห์นกุมมือของเขาไว้ นิ้วโป้งลูบไปบนหลังมืออย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยว่า "Tu sei Beatrice!" ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้พวกเขาทั้งคู่หัวเราะออกมา ส่วนจอห์นในตอนนี้เอาแต่ขอโทษขอโพยเขาไม่หยุด สลับกับถามหาโทรศัพท์มือถือยกใหญ่ หุ้นส่วนของเขาดูเหนื่อยใจและสันนิษฐานว่ารุ่นพี่อาจเผลอทำมันหล่นไว้ที่ร้านดอกไม้ เป็นเหตุให้ไม่ได้รับสายของตฤณสักสาย นอกเหนือไปจากอาการหลงวันหลงคืนจนลืมว่ามีนัดในวันนี้


    "ขอโทษจริง ๆ นะ" ตฤณรู้สึกว่านั่นไม่น่าใช่คำขอโทษสุดท้ายของวัน แต่อย่างน้อยก็ดูเหมือนจะใช่ในเวลานั้น เพราะจอห์นรีบจูงมือเขาเพื่อพาไปยังชั้นสอง ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้เพิ่งเจอกันในรอบสิบกว่าปี ระหว่างนั้นจิตรกรหนุ่มคิดอยู่สองอย่าง หนึ่ง)  มืออีกฝ่ายยังเย็นเหมือนเดิม และ สอง) ถ้าหากตกลงเรื่องสถานที่กันได้ บางทีเขาอาจจะตั้งชื่อแกลอรี่นี้ว่า dante
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
die young (@teenageblue)
ชื่อร้าน Beatrice ก็คือมาจากตฤณเหรอเนี่ย;—; / แต่ชอบคาแรคเตอร์ของแต่ละคนจังเลย มันชัดเจนมาก ชอบการบรรยายทุกตัวอักษรของคุณเลย
pennyrobinn (@pennyrobinn)
ชอบการที่ไม่ต้องมีบทสนทนามากมายแต่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละครจากการบรรยาย รู้ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ได้ ดีมากๆเลยค่ะ
araun (@araun)
ชอบบรยากาศมากเลยค่ะ ยิ่งเปิดเพลงตามยิ่งอิน
verywhalee (@verywhalee)
บรรยากาศเรื่องดีมากๆ เลยค่ะㅠㅠ
call me by your name (@Johnnylovejay)
เย่ๆ คุณกิ๊บมาต่อแล้ว เราชอบภาษาที่คุณกิ๊บใช้มาก บรรยายได้เห็นภาพตาม ติดตามอยู่นะคะ อยากรู้เรื่องราวต่อไป ?✨
tinypapa (@blessguqirlx)
คุณรักแรกสินะคะ?