เป็นเวลาหลายปี (แบบที่นับนิ้วข้างเดียวได้) ผ่านมาแล้ว ที่ความรู้สึกผิดในใจต่อคน ๆ หนึ่งยังคงเกิดขึ้นอยู่ในใจเรามาเสมอ
เอาจริงก็ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เราเลิกติดต่อกันไปนั่นแหละ
เพียงแต่ก่อนหน้านี้ความรู้สึกผิดมันไม่ได้เด่นชัดขนาดนี้ ออกจะเข้าข้างตัวด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้น หรืออะไรทำนองว่า เจอแบบนั้นไปก็ชวนให้เราไม่พอใจอยู่เหมือนกัน ใจที่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดอะไรก็วอกแวกไปคิด ไปทำ ไปรู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ ปิดบังความรู้สึกผิดที่แสนจะเบาบางนี้ด้วยเรื่องราวอื่น ๆ
แต่พอโตขึ้น พบเจอผู้คนน้อยลง มองเรื่องราวรอบตัวด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป และการมาของโควิด ทำให้ช่วงเวลาที่เราได้ทบทวนชีวิตตัวเองเยอะมากถึงมากที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะเคยมีได้เกิดขึ้น ความรู้สึกผิดในใจก็เริ่มขยับมายืนแถวหน้าในบรรดาเรื่องที่ทำให้ตัวเราเองเสียใจที่ทำลงไป น้ำหนักของความรู้สึกนั้นที่ถ่วงอยู่ข้างในก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เรามีเวลานอนเหม่อมองเพดาน ปล่อยให้หัวพาเราไปที่ไหนก็ได้ แล้วส่วนใหญ่ก็ชอบพากลับไปหาเรื่องเก่า ๆ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนที่จำอะไรในอดีตไม่ค่อยได้ ไอ้ที่จำได้ก็ไม่รู้จะถูกต้องมากน้อยแค่ไหน แต่ความรู้สึกผิดนี้ทำงานกับความทรงจำเราได้น่ามหัศจรรย์มาก เราจำสิ่งดี ๆ ที่เขาเคยทำให้กับเราได้ชัดเจนประมาณหนึ่งเลยล่ะ รองลงมาที่เราจำได้ก็คำพูด (หรือด่า) ของเพื่อนที่คอยเตือนเราในช่วงเวลานั้น แล้วก็พวกสิ่งที่เราเคยทำไม่ดีกับเขา อาจจำไม่ได้ทั้งหมดว่าทำอะไรไปกับเขาบ้าง
แต่นั่นทำให้อะไร ๆ มันแย่ลงจนเรื่องดี ๆ เรื่องนี้ต้องจบลง
กลับไปเห็นภาพที่จำได้อย่างกระท่อนกระแท่นก็ทำเอาอยากกลับไปตีตัวเองตอนนั้นเหมือนกัน เพราะมันคือตอนที่เรากลายเป็นคนที่เราไม่ชอบ เป็นคนที่เราเคยบอกคนอื่นอยู่เสมอว่าเราจะไม่เป็นแบบนั้น แล้วเราก็เป็นจนได้ แล้วมันก็ทำให้ความสัมพันธ์ในตอนนั้น Toxic ทันทีไปเลย
พอเวลาผ่านไป สิ่งที่ตกตะกอนจากความรู้สึกผิดในใจผ่านระยะเวลาหลายปี (อีกครั้ง แบบที่นับนิ้วข้างเดียวได้) มันทำให้เราเข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกผิดมาโดยตลอด ก็เราเองนี่แหละที่เป็นคนเริ่มต้นทำให้มันแย่ เพียงแต่เราในอดีตยังมองไม่ออกแค่นั้นเอง อารมณ์ ความรู้สึก อคติซ่อนตัวเราจากการยอมรับความผิดที่ตัวเองทำ กว่าจะหลุดจากสิ่งเหล่านั้นมามองเห็นว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้างก็เสียทั้งเวลาและโอกาสที่จะได้ทำอะไรหลายอย่างไปเหมือนกัน
เป็นว่าจังหวะที่จะขยับตัวทำอะไรก็เป็นเรื่องยาก สิ่งหนึ่งที่เฝ้ารอและอยากจะทำให้สำเร็จให้ได้ก่อนหมดปีนี้ก็คือการที่ได้ขอโทษเขาอย่างจริงจังสักครั้ง บอกเขาว่าการที่เรารู้ตัวช้ามันเป็นเรื่องแย่และห่วยแตกที่สุดที่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราเลย
ก็หวังว่าจะได้ทำล่ะนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in