เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ordinary life in NZordinarygirl
day48

  • Thursday,12 July 2018
    22.12 

    ___________________

    ทำไมเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้นะ 
    นี่เป็นโพสต์สำหรับวีคที่ 6 ของเรา แต่ตอนนี้ที่เรากำลังย้อนความทรงจำ ก็นึกได้ว่านี่มันกลางสัปดาห์ของวีคที่ 7 แล้วนะ วันนี้วันพฤหัส อีก3วันก็ครบเจ็ดสัปดาห์แล้ว ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งใจหาย.

    จากนี้เราอาจจะเข้ามาเขียนอะไรทิ้งไว้สั้นๆ แต่อัพเดทจำนวนหน้าในโพสต์ทิ้งไว้แทนการรวบรวมมาเขียนวีคละครั้ง เพราะว่าถ้าเขียนขณะที่ยังรู้สึกถึงมันใหม่ๆ อาจจะอ่านสนุกกว่าก็ได้นะ ;-) 

    พอเราทิ้งช่วงไปกว่าสิบวัน เราก็เบลอๆแล้วก็ลำดับเรื่องราวไม่ถูกแล้ว ถ้าใครอ่านสิ่งที่เราเขียนมาตั้งแต่ต้นก็คงจะรู้ว่าไอ้คนนี้มันห่วยเรื่องเรียบเรียงความคิดขนาดไหน ฮ่าๆ แต่ก็ขอบคุณนนะที่มาอ่านกัน 

    __________________

    วีคที่ 6 ของเราเหมือนกึ่งๆอิ่มตัว เราเนือยมากกับการไปโรงเรียน เพราะเป็นสัปดาห์ที่ค่อนข้างวุ่นวาย คลาสเราเปลี่ยนแปลงแทบทุกวัน เดี๋ยวคลาสเมทก็จบจากกันไป ไม่ก็ย้ายไปเรียนคลาสอื่น แล้วคนใหม่ก็เข้ามา ซึ่งก็จะเกร็งๆกัน แถมทั้งคลาสมีแต่ผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ เรียบร้อยนิดๆ ไม่ฮาไม่ขำเลย ง่วงมากก พานให้หมดความอยากไปโรงเรียน(เอ๊ะ หรือความจริงคืออยากเรียนกับผู้ชายกันนะเรา)

    อีกอย่างคือการถูกโยกไปเรียนกับครูคนใหม่ คือเรายังอยู่เลเวลเดิม(โรงเรียนจะอัพเลเวลให้นักเรียนส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ 8) แต่แจ็คพ็อตที่ได้ครูใหม่ การเปลี่ยนครูเหมือนเราต้องมาจูนตัวเองใหม่ เพราะถึงแม้ว่าจะใช้หนังสือเรียนเล่มเดิม แต่ครูแต่ละคนมีวิธีสอนต่างกันมาก บางคนสอนตามหนังสือเป๊ะ บางคนเน้นแกรมม่าร์ บางคนเน้นให้คุยให้เล่นเกม เออ เราเลยรู้สึกเหนื่อยมากๆมั้ง แบบรู้สึกได้เลยว่าฟีลเวลาเรียนที่ไทยมันกลับมาว่ะ มาจากไหนวะ5555 จนเนี่ยะ ตอนเนี้ยะมาเขียนถึงเริ่มเข้าใจละว่าทำไมวีคนั้นซึมจัง ที่แย่คือ มีคลาสนึง เปลี่ยนครู3คนใน1วีค คือวุ่นวายมากกก อะไรกั๊นนน 

    สาเหตุของความวุ่นวายจริงๆแล้วคือ ต้นสัปดาห์มีกรุ๊ปนักเรียนจากบราซิลมาเยอะมาก ทำให้โรงเรียนต้องเพิ่มคลาส แล้วโยกนักเรียน ย้ายครูกันยกใหญ่ แต่ว่า ตอนนี้ที่เวลาผ่านไป เราก็แฮปปี้นะ แบบความจริงแล้วมันเป็นโอกาสให้เราได้รู้จักคนหลากหลายขึ้น เราดีใจนะที่ได้ย้ายมาคลาสใหม่ ได้เจอคนใหม่ๆเยอะขึ้นมาก มันโคตรดีต่อเราเลยจริงๆ 

    เอาละ ต่อไปนี้คือเส้นทางความอ้วนเราเอง555555 ก็ไม่่มีอะไรจะเล่านี่นา ชีวิตมีแต่กินๆๆๆ



    ตั้งแต่ย้ายออกมาอยู่เอง ก็ไปซุปเปอร์วีคละครั้งสองครั้ง ถ้าใครชอบทำอาหาร จะเขียนแพลนจ่ายตลาดไว้เลยก็ได้ การมาซื้อของเข้าบ้านวีคละครั้ง ช่วยให้ไม่ฟุ่มเฟือยได้นะ แต่เรามาบ่อยมากเพราะชอบ อีกเหตุผลคือตู้เย็นที่แฟลตเราไม่ค่อยมีพื้นที่ พวกของสดก็เลยจะซื้อวันต่อวัน ที่ต้องระวังคือใครชอบกินช็อคโกแลตห้ามเดินไปโซนขนมนะ ไม่งั้นจะเดินออกมาไม่ได้แบบพี่ฝ้ายเนี่ย เจอป้าย 1$ก็พุ่งใส่ตลอด


    ส่วนมากก็จะมีแต่ขนมที่ทำจากช็อคโกแลต ขนมปังในรูปนี่สำหรับหนึ่งสัปดาห์ แถวนึงก็ประมาณ 2-4$ เราชอบขนมปังที่นี่มากกกก รู้สึกมันมีความนุ่ม หนา พวกแบบโฮลวีตก็คือวีตจริงๆไม่ปลอมแบบขนมปังในเซเว่นบ้านเราที่แค่มือไปโดนก็เนื้อบุ๋มหายไปแล้วอ่ะ 

    อันนี้จะโพสต์เก็บไว้ว่าฝึกทำคาโบนาร่ากับพี่ฝ้าย 55555 ของพวกนี้คือราคาประมาณที่ไทยเลยรู้สึกว่าไม่แพงอ่ะ ที่ดีคือทำได้หลายมื้อด้วย หน้าตาก็ไม่เลวน้าาาา ดูสิ้


    สิ่งที่ทำให้เด็กอ้วนอย่างเราแฮปปี้มากกกๆๆ คือพวก fastfood/junkfood แม่งถูกเว้ยยยๆๆๆ ดูของในมือเร๊าาา 18$ เองนะแก พิซซ่าสองถาด ของหวาน ปังกระเทียม อย่าไปคูณเป็นไทย คือจะบอกว่าอาหารนอกบ้านที่นี่ อย่างถูกก็สตาร์ทที่ 9-16$ โดยเฉลี่ยแล้วนะ ถ้าจะกินในร้านที่มีที่นั่งไรงี้อ่ะ แล้วคือพิซซ่าในรูปนี่กินได้2มื้อ มื้อละสองคน มันก็ไม่ได้ว้าวซ่า แต่ว่าถูกแบบสบายใจมาก ควรกินในกรณีที่เอียนมาม่าไรงี้ ฮ่าๆ 

    ของหวานไต้หวันนน อร่อยยย นี่ไปกินกับเพื่อน รวมแล้วก็หกคน หารคนละ 5เหรียญเอง คุ้มๆๆๆ เรื่องที่พบว่าดีอีกอย่างคือ พวกร้านอาหารต่างชาติที่นี่ ส่วนมากมีความเรียลแล้วก็ออริจินอลพอสมควรเลย เกือบทั้งหมดเจ้าของเป็นคนชาตินั้นๆ เรารู้สึกว่าอร่อยกว่าพวกร้านอาหารต่างชาติที่ไทยที่มันปลอมๆในห้างอ่า แฮ่ 
    แต่ก็นะ ใครจะไปรู้ คนชาตินั้นจริงๆอาจจะบอกว่าไม่เหมือนก็ได้ อย่างเช่นการที่เราไปกินอาหารไทยที่นี่แล้วรู้สึกว่าปลอมนั่นเอง


    ปากบอกว่าประหยัดๆๆ แต่ก็กินดีอยู่ดีอยู่น้า พออยู่มาสักพักก็เริ่มคิดว่าคุณภาพของและราคาที่จ่ายไปมันคุ้มค่าอ่ะ ไม่รู้สึกว่าอะไรแพงเท่าไหร่ นี่ถ้าได้ทำงานที่นี่อาจจะรู้สึกโอเคกับราคาทุกอย่างเลยก็ได้ เพราะเรทค่าจ้างกับค่าครองชีพมันโอเคกว่าไทยมากๆเลย 


    เออ แต่ที่นิวซ์ มีความแปลกที่แม้แต่ครูคนอังกฤษก็หงุดหงิดคือ การที่เราไปซื้อแอลกอฮอล์เนี่ย จำเป็นต้องพกพาสปอร์ตไปยืนยันด้วยนะจ๊ะ เพราะพนักงานมีสิทธิ์ทวงถามและระงับการขายได้ถ้าเราไม่มีสิ่งยืนยัน แล้วไอบัตรประชาชนประเทศไทยเนี่ยเค้าไม่รับบบบบ เค้าขอพาสปอร์ตหรือไม่ก็ใบขับขี่นิวซีแลนด์เท่านั้น ! 

    เรื่องงงๆอีกอย่างคือ ถ้าเดินไปในร้าน 8 คน(หรือจำนวนใดๆก็ตาม) แต่ซื้อเบียร์กระป๋องเดียว พนักงานมีสิทธิ์ตรวจพาสปอร์ตทุกคนนะเด้ออออ 

    หรือ ถ้ามีคนในกลุ่มอายุไม่ถึง เค้าไม่ขายให้เน้ 


    ทั้งนี้ทั้งนั้น ส่วนตัวเราว่าของทอดอร่อยกว่าการกินเบียร์ เอาเป็นว่า การอ้วนด้วยแป้งและน้ำมันนั้นทำให้เราแฮปปี้กว่า จบวีคหกไปอย่างงงๆแมะ 

    สวัสดีนะ.
    (รีบพิมพ์มาก ต้องรีบไปทำการบ้านอ่ะ)




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in