เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
me : 2020panpanmeme
life's graduation ( ? )
  • เจ็บปวดเพราะอดีตก็จริง
    แต่เป็นไปได้ไหมที่จะจดจำแค่เรื่องที่ทำให้มีความสุขได้ ;

    (ฉัน ถึง ฉัน) ?
    นานแล้วนะที่ต้นไม้ต้นนี้ไม่ได้ออกดอกเลย
    นานจนคิดว่านี่เป็นต้นไม้ที่ไม่สามารถผลิดอกได้เหมือนต้นอื่นๆ 

    ตอนนี้มันเริ่มแตกหน่อเล็กๆแล้ว
    อืม , หวังว่าจะเป็นหน่ออ่อนๆที่พร้อมผลิดอก
    คงไม่ใช่หนามนะ

    ...


    ที่ผ่านมาบอกว่าเจ็บเพราะพ่อ เจ็บเพราะแม่
    ที่บอกว่าชีวิตมันเจ็บปวด 
    มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
    ผ่านไปนานมากแล้วจริงๆ

    แล้วที่ยังเกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี่...
    เพราะเราเองที่เอามันมาฉายซ้ำๆ
    หรือเพราะพ่อแม่ที่ยังตามมา ยังทำให้เจ็บ?

    หนีมาไกลขนาดนี้แล้ว
    กีดกันตัวเองออกมาห่างขนาดนี้แล้ว 

    คำตอบของเราคือ เราเอง เราเอง ที่ฉายมันซ้ำๆ
    ทั้งๆที่ตอนนี้พ่อไม่อยู่ที่จะเล่นบทสร้างความเจ็บปวดให้ลูกสาวคนนี้แล้วด้วยซ้ำ มาถึงตอนนี้...ก็เลยได้ตัดสินใจ โยนบางเรื่องทิ้งได้บ้างแล้ว

    ...

    พอมีคนตั้งคำถามว่า

    อะไรที่เราเคยทำตอนเป็นเด็กแล้วมีความสุข?
    มันต่างจากการถามว่าตอนเด็กมีความสุขไหม?


    คำตอบมันต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย

    ที่บอกว่าสิ้นเชิง
    เพราะ ; เมื่อเราถามตัวเองด้วย 2 คำถามนี้
    เราได้คำตอบที่ต่างกัน ถึงจะเป็นคำถามเรื่องความสุขในวัยเด็กเหมือนกัน แต่เพราะวิธีที่ใช้ตั้งคำถามเท่านั้นที่พาเราไปในทิศทางที่แตกต่าง 
    — จึงกลายเป็นความต่างที่แตกออกไปโดยสิ้นเชิง .

    เราตรึงอดีตของตัวเองเอาไว้
    เราตรึงเด็กผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดเอาไว้ใน อดีตของเธอเอง เมื่อเจ็บปวดก็รับไม่ได้และเอาแต่กล่าวโทษ แล้วรอคอยให้คนมาช่วย


    ฉันในวันนี้เติบโตขึ้น มีชีวิตอยู่จริงๆ
    ฉันสอบผ่านและไต่ระดับในการศึกษามาเรื่อยๆ

    แต่เมื่อว่าด้วยวิชาแห่งชีวิตแล้ว...เหมือนฉันยังสอบไม่ผ่านชั้นประถมด้วยซ้ำ
    ฉันกลายเป็นเด็กแก่แดดที่คิดว่าตัวรู้ทุกเรื่อง
    ที่จริงก็ไม่รู้อะไรสักอย่าง แต่ก็อยากจะแสดงว่าตัวเองรู้ดี
    อยากให้คนอื่นเห็น ว่า ฉันเติบโตขึ้นได้ ฉันเติบโตขึ้นมากขนาดไหนแล้ว

    ฉันเหมือนคนที่โตขึ้น
    แต่โกงข้อสอบชีวิต
    ใช้สิทธิพิเศษบางอย่างเพื่อแลกกันมันมา

    ปริญญาไม่ช่วยอะไร ;

    อันที่จริง...คนที่กำลังรู้สึกเครียดไม่ใช่ฉันหรอก
    แต่เป็นฉันในวัยเด็กต่างหาก เธอกำลังปวดหัวและร้องตะโกนบอกฉันว่า เธอพลาดแล้ว ! 

    พลาดแล้วที่คิดว่าตัวเองรู้ดี ...

    สุดท้ายฉันก็ทำให้เธอต้องแบกภาระ
    เด็กหญิงวัยสิบกว่าปี ต้องมาแบกภาระของผู้หญิงที่กำลังเติบโตขึ้นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

    คงหนักน่าดู
     

    ฉันพลาดที่คิดว่าตัวเองรู้คำตอบ
    พลาดที่คิดว่ามันถูกต้อง
    ซึ่งมันไม่มีอะไรที่ถูกต้อง 
    โดยที่คำตอบนั้นจะมาจากสมองหรือหัวใจของฉัน
    เพราะฉันเป็นเพียงแค่มนุษย์


    น่าขำ ที่ฉันเป็นเพียงแค่มนุษย์ที่ไม่อนุญาตให้ตัวเองได้ทำผิดหรือผิดพลาด ฟังดูไปกันใหญ่ ยุ่งเหยิงไปกันใหญ่แล้ว

    ...

    ฉันเลิกคิดสักพัก
    แล้วหันกลับไปที่ตัวเองตอนเด็กอีกครั้ง
    ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของชีวิตที่เด่นชัดขึ้นมาคือ
    ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับพ่อ...พ่อคนเดียวกันกับที่ทำให้ฉันเจ็บปวด

    เมื่อฉันนึกถึงหนังสือ จงมีใจที่แกร่งและหัวใจที่อ่อนโยน ของ ดร.มาร์ติน ที่ตัวเองกำลังอ่าน
    ประโยคที่ขึ้นมาในใจฉันทันทีคือ 'แม้แต่มนุษย์ที่ดีที่สุดก็มีส่วนที่แย่ที่สุด...และแม้แต่มนุษย์ที่แย่ที่สุด ก็ยังมีส่วนดีด้วย ...' ฉันคิดว่าพ่อเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิต พ่อคือสิ่งที่งดงาม เพียงแต่...เพราะความเป็นมนุษย์นั้นเอง...ที่ทำให้พ่อมีวันที่อ่อนแอ และทำเรื่องที่เจ็บปวดลงไป

    มาถึงตรงนี้
    สิ่งที่ฉันอยากบอกกับเด็กผู้หญิงคนนั้นคือ
    'ให้อภัยคุณพ่อได้ใช่มั้ย...ไม่เป็นไรใช่มั้ย ถ้าจะไม่โกรธพ่อแล้ว' 
    ฉันคิดว่าเด็กคนนั้นจะตอบตกลง...
    เมื่อลองจินตนาการถึงตัวเองตอนนั้น
    มันมีเหตุผลหลายๆอย่างที่ทำให้เธอ ตัดสินใจโกรธพ่อ เหตุผลที่ปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจ
    ศีลธรรมที่ปิดกั้นความเป็นมนุษย์
    และทำให้ลูกตัดสินพ่อของตัวเอง  



    ความโกรธ
    อาจจะเป็นสิ่งที่สะท้อนความรู้สึกออกมาได้ชัดเจนที่สุดให้คนรอบข้างได้เห็น
    ว่าเรารู้สึกเจ็บปวดเพียงใด...

    ฉันเลือกที่จะโกรธและปิดปากเงียบที่เจอเรื่องนี้
    แทนการพูดว่า 'หนูเสียใจ หนูไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย' 

    มีอีกหลายๆเรื่องที่ฉันสอบตกในวิชาชีวิตแล้วลักไก่เลื่อนชั้นมาจนถึงตอนนี้ บางเรื่องก็คงไม่สำคัญอะไรที่จะแก้ไข มีแต่จะเสียเวลาเปล่าๆ แต่บางเรื่อง ก็ไม่เสียหายที่จะกลับไปช่วยตัวเองในอดีตเพื่อแก้ไขมัน
    ...ก็ในเมื่อ เราในวันนี้่ผ่านอะไรมามากมายแล้วนี่นะ...เข้าใจอะไรมากขึ้น เห็นอะไรมากขึ้น เหมือนได้เห็นเฉลยไปแล้ว 

    ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรถูกต้องทั้งหมด แต่ก็คงใจร้ายเกินไปหน่อยที่จะปล่อยตัวเองให้ติดอยู่ตรงนั้น

    เราไปข้างหน้าได้
    และมีเพียงเราที่รู้ว่า
    ตัวเองติดอยู่ตรงไหน

    และมีเพียงเราที่จะบอกตัวเองได้ว่า
    เราที่ติดอยู่ตรงนั้นรู้สึกอย่างไร

    และมีเพียงเราอีกเช่นกันที่จะหาวิธี
    ที่จะเข้าไปช่วยเหลือตัวเองในติดอยู่ที่ไหนสักที่
    ในห้องแห่งอดีต

    -
    สำหรับฉัน ในตอนนี้
    ฉันมีพระเยซูที่รักฉัน
    พร้อมจะมองข้ามอดีตของฉัน
    พร้อมจะเดินไปข้างหน้ากับฉัน

    เมื่อใดที่พิษบาดแผลจากอดีตมันเกิดกำเริบ
    อักเสบ ระบม เจ็บปวด 
    จนนอนไม่ได้ขึ้นมา 
    พระองค์จะเยียวยาฉัน

    ฉันจะจูงมือพระองค์ไปหาตัวฉันเองในอดีต
    และจูงมือตัวเองที่ติดอยู่ตรงนั้นออกมา

    หากฉันเจ็บ
    พระองค์จะรักษา

    หากฉันเกิดหลงไประหว่างทาง
    ในอดีต หรือ อนาคต
    พระองค์จะตามหาฉัน 

    ...

    ไม่ว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไง
    ไม่ว่าจะเป็นผีอดีตวัยเด็ก หรือผีผู้ใหญ่ที่คิดว่าตัวเองโตแล้วที่ทะเยอทะยาน ดันทุลัง ที่หมุนเหวี่ยงจนจวนจะไม่เหลือใครรอบกาย แต่ก็ยังมีพระเยซูที่เป็นความสงบ คอยโอบกอดในยามสับสนวุ่นวาย เพราะวิชาชีวิตนั้นไม่มีตำราไหนที่จะสอน ว่าชีวิตควรจะเป็นอย่างไร ชีวิตของเราเป็นสิ่งที่ล้ำค่า ซับซ่อน มีความหมาย ไม่มีตำราไหนจะมาบอกได้ว่าชีวิตเราควรจะเป็นยังไง มีแต่เพียงผู้สร้างเราเท่านั้นที่จะบอกเรา นำเรา ช่วยเหลือเราได้ เพื่อให้ก้าวข้ามผ่านแต่ละช่วงเวลา แต่ละขั้น แต่ละชั้น ของแต่ละช่วงในชีวิตไปได้ ... และฉันอยากก้าวข้ามผ่านไปได้ โดยมีพระเจ้าเป็นผู้ approve ชีวิตของฉัน เพราะว่าถ้าเป็นพระเจ้าแล้ว ฉันจะมั่นใจว่ามันถูกต้องเสมอ ??
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in