จะบอกว่า...ไปมาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ดองมานานมาก 555 คือตอนแรกคิดว่าจะไม่รีวิว แต่ไหนๆ ก็เป็นทริปต่างแดนครั้งแรกในชีวิต (ขออนุญาตไม่นับทริปมาเลที่ไปทัศนศึกษากับเพื่อนทั้งห้อง) เลยคิดว่าควรมาแชร์ประสบการณ์บ้างไรบ้าง เผื่อจะเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่อยากเที่ยวคนเดียวอารมณ์แบบเปลี่ยนที่กินที่นอนชิลๆ อ่ะ อาจไม่สะดวกสบายมาก แต่ก็ไม่อันตรายเท่าไหร่ ผู้หญิงไปคนเดียวได้แน่นอน!
เมืองแรกที่ไปคือเมืองวีกัน (Vigan
วันแรก – พอลงเครื่องก็ซื้อซิม แล้วเข้าฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของฟิลิปปินส์เลยจ้า
พอได้ขึ้นแท็กซี่ - ก็บอกว่าไปท่ารถ Partas ซึ่งเป็นท่ารถไปเมืองวีกัน พอไปถึงก็จะได้บรรยากาศหมอชิตหน่อยๆ แต่เป็นหมอชิตแบบพื้นที่ท่ารถหาร 10 ได้ วิธีการซื้อตั๋วที่นี่คือเดินไปเข้าคิวเพื่อที่จะเข้าคิว คือก่อนอื่นต้องเข้าแถวเพื่อจะบอกเคาท์เตอร์ว่าจะไปวีกัน แล้วเราจะได้บัตรคิวมา เราก็ต้องรอจนกว่าเขาจะเรียกคิวไปซื้อตั๋วอีกที แล้วก็รอรถอีกรอบ ตอนนั้นถึงท่ารถประมาณทุ่มกว่าๆ ได้เรียกคิวประมาณ 3-4 ทุ่ม และก็ได้รถรอบเที่ยงคืน สรุปอยู่ท่ารถประมาณ 5 ชั่วโมง
ประเด็นคือ โชคดีมาก - ที่ไปถึงเร็วเพราะถ้าไปช้ากว่านั้นจะไม่มีที่นั่งและที่ยืนเลย พื้นกับบันไดนี่ไม่ต้องพูดถึง เต็มทุกอณูค่า เขาจะคอยประกาศเลขคิวทั้งภาษาฟิลิปินส์และภาษาอังกฤษ ต้องคอยฟังดีๆเพราะบางทีเสียงมันขาดๆ หายๆ อันความกลัวไม่ได้คิวแล้วต้องนอนอยู่ท่ารถก็เลยเดินทำหน้าตาน่าสงสารไปถามรปภ. (รึเปล่าไม่รู้) แต่เห็นใส่เครื่องแบบซัมติงเขาช่วยเหลือดีมาก เราไปถามประมาณสองสามรอบว่าถึงคิวไหนแล้ว สุดท้ายแล้วไม่รู้เขารำคาญหรืออะไรเลยบอกว่าเดี๋ยวไอฟังให้ ยูไปนั่งรออย่างเดียว เดี๋ยวพอถึงคิวไอไปเรียก แถมใจดีหาที่นั่งให้ด้วย นั่งรถประมาณ 7-8 ชั่วโมงเหมือนไปเชียงใหม่อ่ะ
อ่อ อาหารที่ท่ารถไม่ค่อยมีนะ - มันเหมือนมีร้านอาหารแต่ตอนไปมันปิดเลยมีแต่ร้านขายของ ชำเล็กๆ อยู่ร้านเดียว ที่ไม่ค่อยมีไรขายอ่ะ ถ้าจำไม่ผิดคือมีพวกซาลาเปา มาม่า ขนมกับข้าวนิดหน่อย แล้วก็น้ำ ถ้าเป็นไปได้ก็เตรียมจัดการเรื่องอาหารให้เรียบร้อยก่อนมาถึงที่นี่น่าจะดีกว่า
วันนั้นเป็นวันที่ 23 ธ.ค. - ทางเกสเฮ้าส์มีงานปาร์ตี้วันคริสมาสต์ของบ้านเขา เลยชวนเราไปด้วย วิธีปาร์ตี้เขาคือ เอาใบตองมาวางรองอาหารแทนจานยาวๆ แล้วก็รวมอาหารทุกอย่างไว้ในใบตองนั้น แล้วจกด้วยมือ นี่คือวิธีดั้งเดิม เขาว่างั้น เราก็ไปจกกับเขาด้วย ตอนแรกเขาเกรงใจ กลัวเราไม่กล้าจกเลยเอาจานช้อนมาให้ เรานี่แบบ โอ๊ย บ้านไอก็จกยู Don’t worry!
ข้อมูลเพิ่มเติม มีผู้อุปการะคุณช่วยบอกข้อมูลมาว่า วิธีการใช้มือทานอาหารนั้นเรียกว่า "Kamayan" เป็นภาษาตากาล็อก (Kamay แปลว่า มือ) และการที่นำอาหารวางบนใบตองยาวๆ เรียกว่า "Boodle Fight" นี่เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา เขาว่ากันว่า การทานอาหารสไตล์นี้เริ่มต้นมาจากกองทัพทหาร อารมณ์แบบเป็นมื้อที่ต้องรีบๆ รีบจนไม่มีเวลามาใช้จานชามช้อนส้อม เวลาจะเก็บก็แค่ม้วนใบตองทิ้ง เร็วดี อะไรประมาณนี้
พอ Boodle Fight เสร็จก็นั่งคุยเรื่องต่างๆ กันหนุกหนาน อาหารก็อร่อย เจ้าของที่พักลิสต์สถานที่เที่ยวและอาหารต่างๆ ให้เยอะมาก ประทับใจที่พักมาก ชื่อ “Escolta’s Homey Lodge” นะ อยู่กลางถนน Crisologo
หลังจากปาร์ตี้กับเสร็จ - เราก็มีเวลาเดินไปเดินมาในเมืองอีกรอบ เราเดินออกจาที่พักไปทางขวาเรื่อยๆ จะเป็นทางออกไปที่
Plaza Salcedo
ส่วนบรรยากาศตอนกลางคืนในเขตเมืองเก่าก็จะอยู่กึ่งกลางระหว่างความโรแมนติกกับความหลอนเบาๆ บรรยากาศค่อนข้างสงบเงียบกว่าพลาซ่ามาก มีแค่เสียงเพลงจากร้านอาหารบางร้านกับเสียงรถม้ากุบกับตลอดทาง
อาหารมื้อเย็นของเราคืออันนี้ จำชื่อบ่ได้แล้ว 555 คิดว่าน่าจะเป็น Longganisa ที่เกสเฮาส์แนะนำมา
คนที่นี่นอนเร็ว แป๊บเดียวทั้งถนนก็เงียบไปหมดแล้ว แต่เสียงม้ากุบกับยังอยู่ พอเราเดินเที่ยวจนพอใจ ก็กลับขึ้นมานอน ห้องที่จองเป็นห้องรวม เตียงสองชั้นสองเตียง แต่ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย เราได้นอนห้องนั้นคนเดียวไปเลยพอจะนอนก็นึกขึ้นได้ว่าเอ้า กลัวผีว่ะ บรรยากาศให้มาก บ้านไม้เก่าๆ เนี่ยถ้าเจอผีจะทำไง แต่สุดท้ายก็ไม่มีผีจ้า ไปได้โลด...
บรรยากาศตอนเช้าที่นี่ดีนะ - เงียบสงบ สวยดี อารมณ์แบบถนนเป็นของฉัน ถ้าใครอยากถ่ายรูป แนะนำตื่นตอนเช้าเลยจ้า อากาศกำลังดี
หลังเดินออกจากเขตเมืองเก่า - ก็เดินกลับไปที่ท่ารถเดิม ท่าเดียวกับที่ลงมาเมื่อวาน ใช้
(มีต่อ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in