สวัสดีท่านผู้อ่าน และพี่ ๆ ร้านหนังสือซอมบี้บุ๊คทุกท่านนะคะ
ในตอนนั่งคุยก่อนกลับบ้านนี้ ลี่รู้สึกตื่นเต้น โล่งใจผสมกับรู้สึกใจหายมาก ๆ เพราะวันนี้ก็ใกล้จะถึงวันสุดท้ายของการฝึกงานเข้าไปทุกที และเมื่อวานที่ผ่านมาก็เป็นวันที่คุณครูมานิเทศก์การฝึกงานของลี่ด้วยเช่นกัน พอมาถึงวันนี้ทำให้ลี่นึกย้อนกลับไป
ถึงช่วงเวลาตั้งแต่ตอนที่ลี่กำลังคิดหาที่ฝึกงาน ทบทวนความต้องการของตัวเองอย่างถี่ถ้วน ตลอดจนวันที่สัมภาษณ์ และช่วงเวลาที่ได้ฝึกงาน ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มาจนถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 2-3 เดือน จากที่เคยคิดว่าคงจะยาวนานและต้องใช้ความพยายามอย่างมาก กลับดูแสนสั้นและเพลิดเพลินจนน่าตกใจ
ช่วงเวลาปิดเทอมที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่ลี่จะจดจำและประทับไว้ในใจอีกช่วงหนึ่งของชีวิต กับที่ฝึกงานที่แรก การลองลิ้มชิมรสสิ่งที่ตัวเองเรียกว่า “ความฝัน” ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยสักนิด แน่นอนว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้รู้สึกสนุกสนานและประทับใจนอกจากหนังสือและการทำงานในร้านหนังสือแล้วจะเป็นอื่นใดไม่ได้เลย นอกเสียจาก พี่ ๆ ในร้านหนังสือซอมบี้บุ๊คและคุณโต้งเจ้าของร้านที่ให้ความรู้ คำสอน และโอกาสดี ๆ กับลี่เสมอมา
วันนี้ลี่เลยอยากจะใช้พื้นที่เล็กๆ ในตอนนี้เพื่อเขียนขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านจากใจที่มอบความอบอุ่นใจให้ลี่ตลอดการฝึกงานที่ผ่านมาค่ะ
ตั้งแต่วันแรกที่ลี่ตัดสินใจว่าจะมาฝึกงานที่ร้านหนังสือ ลี่ซึ่งในขณะนั้นไม่เคยมีประสบการณ์สมัครงานที่ไหนมาก่อนก็ลองทัก inbox ของทางร้านไปเพื่อติดต่อขอส่ง Resume และขอฝึกงานค่ะ ตอนนั้นพี่แอดมิน (ซึ่งในเวลาต่อมาก็เดาได้ว่าคือ พี่ ๆ นั้นเอง) ก็บอกให้ลี่ลองโทรไปพูดคุณกับ “คุณโต้ง” เจ้าของร้านดูก่อน
อยากเล่าว่า ลี่ตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ นั่งจ้องนาฬิกากับโทรศัพท์ พลางเรียบเรียงคำพูดในหัวไปด้วย พอถึงเวลาร้านเปิดก็โทรไปทันที คุณโต้งก็รับสายและพูดคุยอย่างสุภาพมากว่า ยินดี และให้หนูลองส่ง Resume มา ให้พิจารณาดู ตรงนี้หนูรู้สึกประทับใจมากๆ เลยค่ะ และขอขอบคุณมากเลยนะคะที่ให้โอกาสหนู ไม่งั้นหนูคงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับพี่ป๋วย พี่นิ้ง พี่น้อง พี่แขม พี่อาร์ม พี่ฟาและพี่ๆ ท่านอื่นๆ รวมถึงคงไม่ได้รับประสบการณ์ดี ๆ ในการฝึกงานครั้งนี้อย่างแน่นอนค่ะ
ที่สำคัญคือ นอกจากจะให้โอกาสแล้ว หลายโอกาสในขณะที่คุณโต้งแวะมาที่ร้านและประชุม คุณโต้งก็สอนข้อคิดในชีวิตที่สำคัญมากมาย คำพูดหลายประโยคที่ถ้าห่อเก็บไว้ได้ หนูคงห่อเก็บไว้ติดตัวเพื่อเตือนใจตัวเองในการใช้ชีวิตและการทำงานเลยค่ะ
แน่นอนว่า การฝึกงานของลี่จะไม่มีคุณภาพมากขนาดนี้เลย ถ้าไม่มี “พี่ป๋วย” ผู้ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดการร้านแต่ยังเป็นทั้งพี่เลี้ยง ผู้ดูแล ผู้ที่ให้โอกาส และคุณครูใหญ่ของวิชาร้านหนังสือ ความรู้ทั้งหมดที่ลี่ได้รับและนำมาบอกเล่าให้ทุกคนได้อ่านทุก ๆ ตอนที่ผ่านมาล้วนมาจากการกลั่นความรู้จากประสบการณ์การทำงานของพี่ป๋วยทั้งสิ้น ต้องบอกก่อนว่าทั้งหมดนี้แค่น้ำจิ้มเท่านั้น แต่ลี่จะพยายามเก็บรวบรวมทุกคำพูด คำสอนและความรู้ที่พี่มอบให้ ไปใช้พัฒนาชีวิตของตัวเองให้ได้มากที่สุดค่ะ
พี่ป๋วยคือผู้ที่ลี่อยากจะขอนับว่าเป็น คุณครูคนหนึ่งของชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเลยนะคะ
อีกคนที่ขาดไม่ได้เลยคือ “พี่น้อง” ผู้ที่เปรียบเสมือนพี่เลี้ยง และคุณครูอีกท่านในวิชาการฝึกงาน สิ่งที่ควรรู้และควรจดจำเพื่อนำไปใช้ นำไปปฏิบัติในอนาคตของการทำงานที่หนูได้รับจากพี่น้อง เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และจำเป็นมาก ๆ ลี่คงไม่สามารถหาความรู้นี้ได้จากในห้องเรียนเลยค่ะ พี่น้องเป็นตัวอย่างของผู้ที่ทำงานอย่างละเอียดรอบคอบจริง ๆ ค่ะ ลี่จะจดจำสิ่งดี ๆ ที่พี่น้องสอนและนำไปปรับใช้ในอนาคตอย่างดีที่สุดเลยนะคะ
สุดท้ายหนูขอขอบคุณพี่นิ้ง พี่แขม พี่อาร์ม พี่ฟาที่คอยเอาใจช่วย ให้คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็สำคัญและทำให้การฝึกงานครั้งนี้ของหนูสนุกสนาน เป็นกันเอง และราบรื่นตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย พี่ ๆ ทุกคนทำให้หนูยิ่งตกหลุมรักร้านซอมบี้บุ๊คและเสน่ห์ของร้านหนังสืออิสระอย่างถอนตัวไม่ขึ้นจริง ๆ ค่ะ
ลี่หวังว่า วงการหนังสือและธุรกิจร้านหนังสือจะดำรงอยู่คู่ประเทศของเราไปอีกนานแสนนานเลยนะคะ การมาฝึกงานที่นี่ทำให้ลี่เข้าใจความสำคัญของร้านหนังสือจริง ๆ ว่า ร้านหนังสือเปรียบเสมือนแหล่งความรู้ หรือห้องสมุดของชุมชน สถานที่แห่งการพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อความเจริญทางปัญญา สถานที่พักผ่อนจากโลกอันวุ่นวายที่สงบและอบอุ่น สถานที่ที่นักเขียนตัวเล็ก ๆ ผู้พิมพ์หนังสือของตัวเองจะได้มีพื้นที่ดี ๆ เพื่อวางขายหนังสือ นักอ่านมากมายจะไม่มีสถานที่พบปะสังสรรค์ และเยาวชนของชาติจะไมมีที่จุดประกายไฟแห่งความหลงใหลในการอ่าน หากปราศจากร้านหนังสืออิสระ
ขอขอบคุณทุกคน ทุกส่วน ทุกฝ่ายที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนวงการหนังสือจากใจเลยค่ะ
สำหรับตอนนี้ ลี่ก็ขอลาไปก่อน ขอขอบคุณนักอ่านและผู้ติดตามที่น่ารักทุกท่านที่คอยติดตามอ่านมาตลอดเช่นกันนะคะ •͈ᴗ•͈
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in