เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ความฝัน บันทึก ฝึกงาน ร้านหนังสือLinderelly
คาบที่ 5 : การจัดส่งหนังสือ คือหัวใจในยุค New Normal
  • สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน


    วันนี้ลี่จะมาเล่าถึงศาสตร์หนึ่งในวิชาร้านหนังสือที่ลี่กลับค้นพบว่า เป็นสิ่งที่ลี่ชอบมากที่สุดตั้งแต่ฝึกงานและขายหนังสือมาค่ะ นั้นก็คือ “การห่อหนังสือเพื่อจัดส่ง” นั่นเอง


    ก่อนหน้านี้ต้องบอกก่อนว่าลี่เคยขายหนังสือออนไลน์มาพอสมควรแล้วเหมือนกันค่ะแต่ว่าไม่เคยได้ลองทำงานด้านการขายหนังสืออย่างครบวงจร จนกระทั่งได้มาฝึกงานที่ร้านหนังสือซอมบี้บุ๊คแห่งนี้


    ในสัปดาห์แรกที่มาฝึกงาน พี่ป๋วยจะกำชับเสมอว่า การจัดส่งหนังสือให้ลูกค้าเราจะต้องใส่ใจและเขียนการ์ดขอบคุณให้ลูกค้าเสมอ ในช่วงแรกลี่มา ลี่ลืมใส่อยู่บ้างแต่โชคดีที่พี่ ๆ คอยเตือนอยู่เสมอ พอผ่านอาทิตย์แรกไปลี่ก็ใส่การ์ดเป็นเรื่องอัตโนมัติไปแล้ว ลี่ชอบเวลาได้เขียนการ์ดให้ลูกค้ามาก ๆ เลยค่ะมันคือความสุขอย่างแท้จริงของการขายหนังสือเลยค่ะ ลี่เป็นคนที่ชอบอะไรที่คลาสสิก หรือย้อนยุคอย่างการส่งจดหมายหรือโปสการ์ดมาก ๆ เพราะมันเป็นอะไรที่มีเสน่ห์ และน่าประทับใจ ดังนั้นพอลองได้แอบแนบการ์ดอวยพรและขอบคุณผู้อ่านไปกับหนังสือด้วยก็เลยมีความสุขและรู้สึกสนุกที่ได้ออกแบบการ์ดเป็นรูปต่าง ๆ ก่อนเขียนมาก ๆ (อันนี้ไม่แน่ใจว่าความจริง หนูทำได้มั้ยแต่เห็นว่า พี่ ๆ ไม่ว่าอะไร ลี่เลยครีเอทตามจินตนาการไปเลย555+) 


    ลี่ชอบที่สุดคือเวลาห่อพัสดุค่ะ เป็นอะไรที่เราต้องใส่ใจมาก ๆ เราต้องห่อหนังสือด้วยบับเบิลจนแน่ใจว่ามุมของหนังสือจะไม่เป็นรอยแม้ว่าจะโดนกระทบกระเทือนมากแค่ไหนก็ตาม จากนั้นเราก็จะพันเทปหน้ากว้างทับบับเบิลที่หนังสืออีกชั้น ยิ่งกว่าห่อมัมมี่เลยนะคะ จากนั้นก็นำซองพัสดุหรือกล่องมาเตรียมไว้ จ่าหน้าซองให้เรียบร้อย ใส่หนังสือที่ห่อเป็นมัมมี่เข้าไปแล้วห่อด้วยเทปอีกชั้นหนึ่ง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ หน้าฝนประเทศเราไม่เป็นสองรองใครในโลก อย่าลืมแปะเทปทับชื่อที่อยู่ผู้รับให้เรียบร้อยด้วยก็เป็นอันเสร็จค่ะ


    ความพิเศษและท้าทายของการห่อพัสดุหนังสือคือ บางครั้งเราจะต้องส่งหนังสือที่มีไซส์ไม่ปกติ เช่น หนังสือสะสม หนังสือนิทาน ซึ่งเราจะต้องตัดกล่องให้พอดีกับหนังสือเพื่อลดแรงกระแทกและกันหนังสือบุบสลาย แต่กล่องในประเทศไทยมีให้เลือกไม่มากนักเราจึงต้องปรับเปลี่ยนจากไซส์ธรรมดาเอาเอง เป็นสิ่งที่ลี่สนุกมากเลยค่ะตรงนี้


    พอเราห่อพัสดุเรียบร้อยแล้ว หนังสือก็จะพร้อมจัดส่ง ที่ร้านซอมบี้บุ๊คเราจะจัดส่งหนังสือทุกวันช่วงบ่ายก่อน ขนส่ง Kerry ตัดรอบ ลี่ชอบไปส่งพัสดุมากเหมือนกันค่ะ เพราะสร้างวีรกรรมไว้พอสมควร ตั้งแต่อาทิตย์แรกที่มาลี่ได้ พี่ต๋วย พี่เจ้าหน้าที่เคอรี่ช่วยเรื่องการจัดส่งไว้หลายเรื่องเลยค่ะ ทั้งอธิบายเรทค่าจัดส่ง แนะนำการจัดส่งวิธีต่าง ๆ และช่วยยามคับขันที่มีปัญหาเรื่องที่อยู่ของลูกค้า บอกเลยว่า พี่เจ้าหน้าที่เคอรี่ สาขา RCA คือน่ารักเป็นที่สุด ต้องขอบคุณพี่ต๋วยเลยนะคะที่ช่วยลี่หลายต่อหลายครั้ง


    หลังจากการจัดส่งแล้วสิ่งที่เป็นความสุขเล็ก ๆ ของพนักงานร้านหนังสืออย่างหนึ่งคือ การได้รับข้อความตอบกลับจากลูกค้าว่าได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วพร้อมภาพค่ะ เป็นอะไรที่ได้รับทีไร หัวใจพองโตทุกทีเลย 


    จากการทำงานหลาย ๆ ส่วนตลอด 3 สัปดาห์ทำให้ลี่ได้รู้เลยว่า การจัดส่งหนังสือ คือ ความชอบที่ลี่เพิ่งค้นพบและมั่นใจว่าเป็นส่วนที่ชอบมาก ๆ หลายคนอาจมองว่า การจัดส่งหนังสือไม่สำคัญแต่สำหรับลี่ที่เป็นคนรักหนังสือและเข้าใจหัวอกคนรักหนังสือด้วยกันนั้น เข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าการได้รับหนังสือที่สภาพสวยงามเหมือนหยิบจากชั้นวางหน้าร้านเป็นความปลื้มใจและความสุขอย่างหนึ่งของนักอ่านในยุค New Normal ค่ะ


    เมื่อพูดถึงตรงนี้ลี่เลยอยากมาแบ่งปันวิธีการรักษาหนังสือบนชั้นหนังสือที่บ้านให้ผู้อ่านได้ฟังกัน

    เคล็ดไม่ลับของการทำความสะอาดชั้นหนังสือคือ “ไม้ขนไก่” ค่ะ ปัด ๆ ทุกซอกทุกมุมเข้าไปทุก ๆ อาทิตย์ วิธีการปัดที่ถูกต้องคือ ปัดด้านบนหนังสือจากนั้นก็ค่อยปัดที่สันด้านข้างที่หันออกค่ะ แล้วเราค่อยกวาดฝุ่นที่พื้น พร้อมทั้งถูพื้นให้สะอาดเรียบร้อย สำหรับหนังสือที่สะสมให้นำใส่ถุงซิปหรือถ้าเป็นถุงแกงก็พับให้พอดีหนังสือให้เรียบร้อยแล้วเอาเข้าชั้นเหมือนหนังสือทั่วไปเลยค่ะ


    หวังว่าประสบการณ์การจัดส่งหนังสือรวมถึงวิธีการทำความสะอาดหนังสือจากร้านหนังสือและพนักงานขายตัวเล็ก ๆ คนนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านไม่มากก็น้อยนะคะ


    ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้เช่นเคย ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับหนังสือทุกเล่มบนชั้นที่แสนสะอาด แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้าค่ะ •͈ᴗ•͈ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in