41. Sir Sly, Don't You Worry, Honey
Genre: alternative rock, indie pop, dark pop, electropop
Release Date: June 30, 2017
ถ้าใครที่ได้ติดตามซี่รี่ย์ชื่อดังแห่งปีอย่าง 13 Reasons Why หรือภาพยนตร์ thriller-comedy อย่าง Happy Death Day คงจะได้ยินเพลงที่มีเมโลดี้เด็ด ๆ เพลงนึง ซึ่งเพลงนั้นคือ "High" จากวง alternative จากอเมริกาวงนี้นั่นเอง เพลงนี้มาจากสตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของวงแล้ว เราได้ติดตามเพลงของ Sir Sly มาตั้งแต่แรก และติดใจกับการออกแบบเมโลดี้ที่ผสมผสานระหว่าง rock กะแนวเพลงอื่น ๆ ได้อย่างน่าสนใจ ในขณะที่อัลบั้มชุดแรก You Haunt Me จะมีความ dark และส่วนของความ rock สูง อัลบั้มนี้ทางวงได้เปลี่ยนเส้นทางดนตรีให้มีความ pop มากขึ้น มีมิติมากขึ้น ธีมของเพลงในอัลบั้มจะดูมีความอวกาศ ฟังดูลอย ๆ หลายเพลง Don't You Worry, Honey จึงเป็นอีกอัลบั้มที่อยากให้แฟนเพลง alternative ได้ลองกัน
Recommended tracks: "High," "Altar", "Astronaut"
42. LANY, LANY Genre:
Release Date: June 30, 2017
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แฟน ๆ ชาวไทยก็ได้มีโอกาสได้ดูไลฟ์สดจากวงอินดี้หน้าใหม่ไฟแรงจากอเมริกาวงนี้ไปแล้ว และเราก็เป็นคนที่ติดตามเพลงของ LANY แต่กลับไม่ได้ไปดู (ฮือ) จึงได้แต่เขียนรีวิวชมอัลบั้มชุดนี้ แนวเพลง alternative ในปี 2017 ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และ LANY ก็เป็นอีกวงที่มีความโดดเด่นในการทำเพลงสายนี้ alternative ส่วนใหญ่มักจะได้อิทธิพลจากเพลงสาย rock แต่ LANY กลับยืนพื้นด้วย pop ที่ผสมกับซาวน์ของ synth และ electronic จนได้เป็นเพลงลอย ๆ นุ่ม ๆ ที่ทำให้คนไทยต่างติดอกติดใจกันอย่างหนัก อีกเหตุผลที่ชอบงานชุดนี้คือความหลากหลายในเนื้อเพลงที่มีตั้งแต่เรื่องความรักไปจนถึงการเอาเรื่องครอบครัวมาพูด ทำให้งานดูมีมิติมากขึ้น แต่ข้อเสียคือการที่ภาพรวมของเพลงในอัลบั้มดูเป็นโทนเดียวกันเกือบหมดจนทำให้การฟังยาว ๆ รู้สึกน่าเบื่อ ไม่สามารถแยกออกได้ว่าเพลงใหม่มาแล้ว
Recommended tracks: "ILYSB," "13", "Good Girls," "Pancakes"
43. Kacy Hill, Like a WomanGenre: trip hop, dream pop, electronica, alternative R&B, electropop
Release Date: June 30, 2017
Kacy Hill คือเด็กปั้นของ Kanye West และอดีตเคยเป็น dancer ให้กับแรปเปอร์ผีบ้าคนนี้ด้วย ด้วยความสามารถในการร้องเพลงและแต่งเพลง Kanye จึงจับเธอมาเซ็นต์สัญญาและช่วยโปรดิวส์เพลงออกให้ จนได้เป็น Like a Woman สตูดิโออัลบั้มชุดแรกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมุมมองของความเป็นผู้หญิงแบบจัดหนัก สไตล์เพลงของ Kacy จะมีความเป็น dream pop และ R&B หลอน ๆ และสไตล์การร้องเพลงโหยหวนคล้าย Lana Del Rey และ London Grammar จึงทำให้เพลงของ Kacy ไม่ได้ดูใหม่สำหรับวงการเท่าไร แต่ถึงอย่างนั้น รายละเอียดต่าง ๆ ของเมโลดี้บวกกับความคมคายในการแต่งเพลงมันโหดมากสำหรับศิลปินที่อายุแค่เพียง 24 Like a Woman จึงควรค่าแก่การฟังอย่างยิ่ง
Recommended tracks: "Like a Woman," "Arm's Length", "Clarity"
44. HAIM, Something to Tell You
Genre: alternative pop, pop rock
Release Date: July 7, 2017
ตอนทาง HAIM ประกาศว่าจะปล่อย Something to Tell You ออกมา เราตื่นเต้นกับการจะได้ฟังงานชุดใหม่จากสามสาวตระกูลนี้มาก และจากการอ่านบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับทิศทางของซาวน์ในอัลบั้มใหม่นี้ ทางวงบอกว่าจะมีความ "fresh" และหลังจากที่เราได้ฟัง ก็รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ภาพรวมของอัลบั้มชุดที่สองนี้มีความสดใส ฟังง่าย เหมาะกับเพลงหน้าร้อนที่ฟังเอาสบาย ๆ แต่ความล้ำและน่าตื่นเต้นที่ได้จากชุดแรกกลับหายไป 11 เพลงหลักนั้นมีดีในตัวของมันเอง ฟังเอาเพลินได้ แต่ความน่าหงุดหงิดที่เจอคือเนื้อร้องเกือบทุกเพลงเล่นกับเทคนิค repetition หรือการซ้ำคำจนทำให้กึ๋นของเนื้อเพลงดูแห้งมาก หลายเพลงฟังแล้วก็รู้สึกรำคาญหน่อย ๆ ยิ่งพอเห็นชื่ออัลบั้มว่าเหมือนจะมีอะไรมาบอก แต่ความ personal ในงานเพลงกลับดูไม่ได้เด่นอะไรขนาดนั้น เพราะเพลงต่าง ๆ ก็วนเรื่องความรัก Something to Tell You จึงดูฟอร์มตกลงมาหน่อย ๆ แต่เราก็ยังรักสามสาวนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นอยู่ดี
Recommended tracks: "Want You Back," "Walking Away", "Right Now," "Night So Long"
45. Oh Wonder, Ultralife
Genre: alternative pop, electropop, indie pop
Release Date: July 14, 2017
จะจัดอันดับอัลบั้มของปี 2017 ทั้งที ถ้าไม่มี Oh Wonder ในลิสต์ แฟนเพลงชาวไทยคงจะรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไปแน่นอน ท่ามกลางกระแสเพลงของ Oh Wonder ที่รุนแรงเหลือเกินจนทำให้มีการจัดคอนเสิร์ตถึงสองรอบ เราคนนึงที่เป็นคนไม่ได้อะไรกับเพลงของวงนี้ สาเหตุเพราะเป็นความกิงก่องแก้วของอัลบั้มชุดแรก แต่ Ultralife กลับทำให้เรารู้สึกดีกับเพลงวงนี้มากขึ้นจริง ๆ ด้วยการทำเพลงที่ดูมีมิติมากขึ้น ดูมีความล้ำกับการออกแบบเมโลดี้ขึ้น จึงทำให้เราชอบฟังอัลบั้มชุดนี้จริง ๆ หลายเพลงดูมี element ของเพลง rock หรือ synth ที่ดูหนักขึ้นจากอัลบั้ม จึงทำให้เราที่ชอบฟังรายละเอียดของเพลงรู้สึกสนุกกับการคอยฟังเสียงเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงการร้องประสานอย่างดูโอ้คู่นี้ก็เป็นอะไรที่เพราะมาก สรุป Ultralife จึงเป็นเพลงทีี่เราจะกดในยามที่ต้องการฟังอะไรให้เบิกบานจิตใจ ไม่ชวนให้ซึมเศร้าเหงาหงอยเหมือนพวกเพลง alternative มืดมัวอื่น ๆ
Recommended tracks: "Ultralife ," "High On Humans", "Heart Strings"
46. The Vamps, Night & Day
Genre: pop, electropop, power pop
Release Date: July 14, 2017
Guilty pleasure ชิ้นยักษ์ประจำปีของเราต้องยกให้งานชุดที่สามจาก The Vamps ชุดนี้เลย ที่ต้องบอกว่า Night & Day เป็น guilty pleasure อาจจะเพราะด้วยภาพลักษณ์ของวงที่คล้าย One Direction กับการที่วงนี้มี fangirls ตามอยู่รอบโลก แต่เราก็มีความเชื่อว่างานเพลงคือตัวพิสูจน์ความเป็นศิลปิน และจากการที่ตามเพลงวงนี้มาตลอด Night & Day ก็ทำให้เราร้อง wtf จากการเปลี่ยนแนว pop rock ในสองอัลบั้มแรกมาเดินสาย EDM ตามเทรน แต่อย่าเพิ่งเมินหน้าหนี เพลงในอัลบั้มนี้กลับมีความเพลิดเพลินในการฟังดีมาก พวกเขาได้ยืมมือจากดีเจชื่อดังอย่าง Martin Jensen หรือ Tahoma มาช่วยมิกส์เพลงให้เป็น electropop และ EDM แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะใส่เสียงของกีต้าร์อย่างแยบยลในเพลงได้ดีเลย อัลบั้มนี้เลยกลายเป็นงาน pop ชิ้นดีที่ใช้ฟังได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนเหมือนชื่ออัลบั้มจริง ๆ
Recommended tracks: "All Night," "Hands", "Middle of the Night"
47. Lana Del Rey, Lust for Life
Genre: alternative pop, hip-hop, dream pop, classic rock
Release Date: July 21, 2017
ใน Born to Die Lana ทำการ fantasize กับความตาย ต่อมาใน Ultraviolence เธอหยิบเอาความโกรธมาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนงานเพลง จนมาถึง Honeymoon ที่ความขมขื่นเรื่องความรักและศาสนาถูกถ่ายทอดออกมา จนมาถึง Lust for Life ที่ร่าง sadcore ของ Lana ได้เริ่มหายไปจนทำให้งานชุดนี้เป็นงานที่ happy ที่สุดที่แฟนเพลงของเธอจะได้ฟังกัน จากรอยยิ้ม(ที่ดูน่ากลัวมาก)บนปกอัลบั้ม แฟนเพลงน่าจะสัมผัสได้กับธีมของอัลบั้มที่ดูเบาบางมากขึ้น ไม่ได้จัดหนักเรื่องความโศกเศร้าหรือความตาย แต่กลับหยิบเอามุมสวย ๆ ของการใช้ชีวิตมาถ่ายทอดให้คนฟังได้รู้สึกอบอุ่นกัน สำหรับแนวเพลง Lana ก็กลับไปแตะซาวน์ในอัลบั้มชุดแรกที่มีความ hip-hop ในบีท ลดความ rock กับ jazz ในสองชุดที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเพลงของ Lana ก็ยังอยู่ในหมวด love it or hate it อยู่ดี ใครที่ไม่ชอบฟังอะไรโหยหวนก็จะรู้สึกยี้กับเพลงของเธอ แต่ถ้าลองเปิดใจ เธอคนนี้ถือเป็นศิลปินที่มีเสียงสวรรค์ ร้องเพลงกล่อมให้จิตใจเราสงบได้ดีทีเดียว
Recommended tracks: "Love," "13 Beaches," "White Mustang," "Groupie Love"
48. Foster the People, Sacred Hearts Club
Genre: indie pop, psychadelic rock, alternative rock, electropop
Release Date: July 21, 2017
โอเค ขอออกตัวยอมรับผิดก่อนว่าเคยอัพรูปด่าแสดงความผิดหวังกับงานชุดใหม่ของ Foster the People ด้วยความที่ทิศทางของเพลงในอัลบั้มนี้มันเปลี่ยนไปจนไม่เหลือความ Foster แถมยังดูไม่ติดหูอะไรเลย แต่เพราะความรักที่มีให้ต่อวงจึงฝืนฟังจนกว่าจะชอบ และสุดท้ายก็ชอบได้ในที่สุด (แหะๆ) ในงานลำดับที่สามของวงนี้ พี่ Mark Foster หัวหอกของวงได้เปลี่ยนแนวด้วยการหยิบซาวน์ electropop กับ psychadelic (แนวเพลงที่สื่อถึงความรู้สึกขณะเสพย์ยา) มาผสมผสานกัน ซึ่งไม่รู้ซวยอะไร นักวิจารณ์สับแหลกกับความไม่เจ๋งของเพลง ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่การได้ฟังเสียง chipmunk ของพี่ Mark และเพลงชิลล์ ๆ ของวงนี้ก็โอเคแล้วแหละ
Recommended tracks: "Doing It for the Money," "Sit Next to Me," "Harden the Paint"
49. Declan McKenna, What Do You Think About the Car?
Genre: indie pop, psychadelic rock, alternative rock, electropop
Release Date: July 21, 2017
การทะลุเข้าสู่โลกแห่งอุตสาหกรรมดนตรีของศิลปินหน้าใหม่ซักคนไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยในยุคที่ดนตรีมีความหลากหลายแต่ไร้ซึ่งจุดเด่นที่จะทำให้เพลงซักเพลงโดดเด่นขึ้นมา แต่อุปสรรคดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ยากเลยสำหรับ Declan McKenna ศิลปินวัยเพียง 19 จากอังกฤษที่ทำให้นักวิจารณ์จากหลายสำนักได้อึ้งกับความสามารถเกินตัวของหนุ่มน้อยคนนี้ What Do You Think About the Car? คืองาน debut ของหนุ่มคนนี้ที่ต่างจากศิลปินวัยรุ่นหน้าใหม่ในแง่ของทั้งดนตรีและเนื้อร้อง ในเรื่องของเนื้อหาเพลงนั้น Declan เรียบเรียงเพลงต่าง ๆ ออกมาเป็นภาพยนตร์ coming-of-age ที่แฝงไปด้วยประเด็นหนักของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง แถมยังมีการนำเอาประเด็นหนัก ๆ ของสังคมอย่างเรื่องเพศที่สามและการฆ่าตัวตายมาเล่น แม้แต่การคอร์รัปชั่นของรัฐบาลบราซิลในการจัดงาน Olympics ก็ยังถูกนำมาเขียนเป็นเพลงได้เหมือน ในส่วนดนตรี หลายสำนักยกให้พ่อหนุ่มมีสไตล์เหมือนกับ David Bowie เลยทีเดียว อัลบั้มชุดนี้จึงเป็นงานเปิดตัวที่ถือว่าสุดยอดในเรื่องของการโชว์ศักยภาพของวัยรุ่นคนหนึ่งในการเดินทางสายศิลปิน
Recommended tracks: "Humongous," "The Kids Don't Wanna Come Home," "Paracetamol"
50. Dan Croll, Emerging Adulthood
Genre: indie pop, alternative rock, pop rock
Release Date: July 21, 2017
"Emerging Adulthood" เป็นหนึ่งในทฤษฎีของนักสังคมวิทยาท่านหนึ่งที่พูดถึงช่วงอายุประมาณ 18-25 ปีที่บุคคลหนึ่งจะต้องพบกับการก้าวข้ามจากความเป็นวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว และแน่นอน อัลบั้มชุดที่สองของพี่แว่นแดนจากอังกฤษก็หยิบเอาทฤษฎีนี้มาใช้เป็นธีมที่ขับเคลื่อนงานชุดนี้ออกมาเป็น 10 เพลงสุดจะส่วนตัวสำหรับเขา งานเพลงต่าง ๆ ถ่ายทอดอารมณ์ของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังจะบอกลาความเป็นวัยรุ่นและก้าวสู่ช่วงชีวิตที่แสนหนักอึ้ง พี่แดนถ่ายทอดทั้งความสุขและเศร้าของชีวิตออกมาได้อย่างน่าสนใจ เฉกเช่นเดียวกับภาคดนตรีที่เติบโตตามอายุ ที่ใน Sweet Disarray (2014) ดนตรีมีความใส ๆ แต่สำหรับ Emerging Adulthood พี่แดนเพิ่มซาวน์ rock เข้าไปมากขึ้นจนทำให้เพลงดูหนักขึ้นตามเนื้อหาของเพลง นักฟังเพลงสายอินดี้ไม่ควรจะพลาดอัลบั้มชุดนี้ที่จะพาดำดิ่งลงสู่ความรู้สึกของการเป็นคนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อได้ดัจริง ๆ
Recommended tracks: "Bad Boy," "24," "Swim," "Away from Today"
51. Julia Michaels, Nervous System
Genre: pop
Release Date: July 28, 2017
สองสามปีก่อน Sia คือศิลปินหญิงที่ดังเป็นพลุแตกเนื่องจากได้รับการกล่าวถึงงานเพลงของตัวเธอเองบวกกับการแต่งให้กับศิลปินท่านอื่นในวงการมากมาย และในปี 2017 ชื่อของ Julia Michaels ก็กลายเป็นเหมือน Sia 2.0 ที่ศิลปินสาย mainstream ต้องการตัวไปช่วยแต่งเพลงให้ ในขณะที่ Julia ไปแต่งเพลงให้กับคนอื่นมากมาย เธอก็ซุ่มทำ mini album ชุดแรกและปล่อยออกมาจนมี "Issues" ที่ได้รับกระแสอย่างกว้างขวางจนเพลงนี้ได้เข้าชิงแกรมมี่สาขาใหญ่ แถมตัวเธอก็เข้าชิงสาขาศิลปินหน้าใหม่อีกด้วย ภาพรวมของมินิอัลบั้มชุดนี้มีความน่าพอใจอย่างมาก เพราะด้วยเสียงที่มีเสน่ห์และดนตรี pop ฟังง่าย ๆ ไม่ได้เป็น electropop หรือ dance แบบที่ได้ฟังกันหนัก ๆ ในปีนี้ ส่วนเรื่องการแต่งเพลงก็ไม่ต้องพูดถึง คนนี้ของเค้าดีจริง
Recommended tracks: "Issues," "Worst In Me," "Pink"
52. Billie Eilish, dont smile at me
Genre: pop, R&B, jazz
Release Date: August 11, 2017
EP เปิดตัวของศิลปินหน้าใหม่ที่มีอายุแค่เพียง 16 ปี!! Billie Eilish ได้รับกระแสอย่างหนักจากความสามารถในการทำเพลงที่สุดจะเกินอายุตัวเอง จนความเจ๋งนี้ส่งให้เธอติดโผของ BBC Sound 2018 ซึ่งจะมีแต่ศิลปินที่ทำเพลงเจ๋ง ๆ ติดทั้งนั้น ในส่วนของ dont smile at me ก็เป็นงานที่ผสมผสานของความเป็น pop กับดนตรีสายหรูอย่าง jazz และ R&B ทำให้เพลงของน้องดูมีความ minimal ดูแพงมาก และสไตล์การร้องที่ใช้เสียงหวาน ๆ ของเธอขับเคลื่อนเพลงอย่างช้า ๆ แต่เนื้อเพลงเชือดเฉือนใจ dont smile at me จึงเป็นอีกหนึ่งงานของ 2017 ที่ทำให้เราได้อึ้งกับความสามารถของวัยรุ่นได้ดีจริง ๆ
Recommended tracks: "idontwannabeyouanymore," "bellyache," "ocean eyes"
53. Kesha, Rainbow
Genre: pop rock, country pop, grass root
Release Date: August 11, 2017
หลังจากที่ Ke$ha ต้องผ่านมรสุมชีวิตมามากมายตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เธอก็ได้สละเครื่องหมาย $ ออกและออกอัลบั้มใหม่ที่แสดงถึงตัวตนของเธอมากที่สุด Rainbow คืออีกงานที่ถือว่าเป็นงาน pop ที่ดีที่สุดแห่งปี หลายคนอาจจะคุ้นกับ Kesha ในร่างที่ทำเพลงเพื่อปาร์ตี้และ sex แต่ใน Rainbow เธอถ่ายทอดความเป็นศิลปินได้ออกมาอย่างโคตรสุด บวกกับการทำเพลงแนวที่เธอเติบโตมา หลายคนยกให้อัลบั้มชุดนี้เป็นเหมือนกับการใช้ศิลปะที่แสดงถึง social movement ในด้าน feminism และ LGBTQ แถมเป็นเหมือนกับ diary ส่วนตัวที่มีเพลงเล่าเรื่องของอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตที่เธอเจอมาอีกด้วย แต่ที่พีคคือ Kesha หยิบเรื่องความตายมาทำเป็นเพลงเชิง grass root ("Spaceship") ซึ่งเป็นเพลงสาย country ที่ฟังแล้วจะได้บรรยากาศ cowboy อะไรแบบนั้น จากปกอัลบั้มที่ดูหลุดโลกอย่างสิ้นเชิง เพลงภายในอัลบั้มกลับสะท้อน human condition และความเป็นจริงของการเป็นผู้หญิงคนหนึ่งได้อย่างดิบเถื่อนและเต็มเปี่ยมไปด้วยมุมมองและสีสันมากมายเหมือนสายรุ้งจริง ๆ
Recommended tracks: "Bastards," "Let 'Em Talk," "Woman," "Praying," "Spaceship"
54. RAT BOY, SCUM
Genre: indie rock, hip-hop
Release Date: August 11, 2017
แค่ชื่ออัลบั้มก็ไม่ต้องบอกอะไรมากแล้วสำหรับ debut album ชุดแรกของ RAT BOY หรือ Jordan Cardy พ่อหนุ่มวัย 21 จากเกาะอังกฤษ ถ้าให้พูดถึง SCUM แบบง่าย ๆ ให้เข้าใจไปเลย อัลบั้มนี้มันคืองานของเด็กแว้นร้องเพลงนั่นเอง พ่อหนุ่มที่นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซด์นั่นแหละคือ Jordan ที่ทำงานเพลงที่ผสมความแว๊นของแนว hip-hop กับ alternative rock เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นงานเพลงแบบ rap rock ที่ฟังสนุกมาก ความเจ๋งของ RAT BOY ไม่ใช่แค่เรื่องการ cross over ของดนตรี แต่ยังรวมไปถึงเนื้อเพลงที่วิพากวิจารณ์สังคมอย่างถึงพริกถึงขิง จนทำให้ชื่อของเค้าไปติดโผ BBC Sound ในปี 2017 ด้วยเลย
Recommended tracks: "MOVE," "LAIDBACK," "GET OVER IT"
55. Secret Weapons, As the setting sun comes crashing down on me
Genre: alternative pop, indie pop, power pop, electropop, pop rock
Release Date: August 18, 2017
ปีที่แล้ว เราตื่นเต้นกับการฟัง EP เปิดตัวของ Secret Weapons อย่างมาก เพราะด้วยเป็นงานเพลง pop ที่มีมิติทางด้านดนตรีที่สดใหม่มาก จนในปี 2017 ดูโอ้คู่นี้ก็ปล่อยอัลบั้มชุดแรกที่ชื่อแสนยาวนี้ออกมาซักที ซึ่งงานเต็มชุดแรกก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ ทั้ง 13 เพลงใน As the setting sun comes crashing down on me เต็มเปี่ยมไปด้วยการสร้างสรรค์เมโลดี้แบบ maximal ที่รวมความเป็น rock, funk, และ electronic ให้ออกมาเป็น alternative pop ที่สุดยอดมากจริง ๆ อีกทั้งเนื้อเพลงยังเต็มไปด้วยข้อความให้กำลังใจและความหมายของการใช้ชีวิตในด้านบวก ถ้าใครที่ชอบนักร้องชายที่มีเสียงคล้ายกับ Bruno Mars ลองกดฟังงานเพลงชุดนี้เลย เพราะนักร้องนำเสียงเหมือนเค้ามาก แต่ภาคดนตรีมีความเจ๋งกว่า Bruno หลายเท่าตัว
Recommended tracks: "Power," "Comeback Season," "My Blue Heaven," "Betty You Gone Wrong (Midnight Song, Pt. I)," "Waiting for an Answer"
56. Nothing But Thieves, Broken Machine
Genre: alternative rock, indie rock
Release Date: September 8, 2017
เมื่อสองปีที่แล้ว คนฟังเพลงสายร็อคได้รู้จัก Nothing But Thieves ด้วยเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของนักร้องนำที่มีความโหยหวนและสูงปรี๊ดซึ่งช่างขัดกับความหนักแน่นของภาคดนตรี ในปี 2017 วงนี้ก็ปล่อยภาคต่อที่เหมือนเป็นการสานต่อความสำเร็จจาก self-titled ชุดแรก จากการฟังอัลบั้มนี้รวดเดียว เรามีความรู้สึกเหมือนวงต้องการจะทำอะไรใหม่ ๆ ด้วยซาวน์ของพวกกีต้าร์ที่ดูมีอะไรมากขึ้น แถมยังมีเพลงมีทดลองทำเมโลดี้แปลก ๆ ขึ้นมาเหมือน แต่เพลงส่วนใหญ่ยังคงให้ความรู้สึกแบบอัลบั้มแรกอยู่ ส่วนเนื้อร้องก็มีความเติบโตมากขึ้นอยู่ เช่นการพูดเรื่องความเป็นมนุษย์และการเมือง ถือเป็นอีกงานที่สร้างความประทับใจได้ดีเลย
Recommended tracks: "Amsterdam," "Sorry," "Broken Machine"
57. Miley Cyrus, Younger Now
Genre: country pop
Release Date: September 29, 2017
หลังจากที่ Miley เป็นอีบ้าแลบลิ้นแผลบ ๆ ในช่วงการโปรโมทเพลงจาก Bangerz (2013) และเป็นสาวฮิปปี้ขี้ยาใน Miley Cyrus & Her Dead Petz (2015) ในปีนี้ เธอให้อิทธิพลจาก Joanne มาเข้าสิงเธอบ้าง Younger Now คืออัลบั้มชุดที่หกของ Miley ที่มีคอนเสปต์ในการทำเพลงที่มีอิทธิพลต่อชีวิตเธออย่างแนว country ผลที่ออกมาคือโดนนักวิจารณ์สับแหลกและทำให้งานชุดนี้กลายเป็นอัลบั้มที่แป้กที่สุดของเธอโดยปริยาย ซึ่งเราก็มีส่วนเห็นด้วยเรื่องความเนิบในเพลงที่ไม่ได้โปรโมท แต่ single อย่าง "Younger Now" และ "Malibu" กลับมีความโดดเด่นดีงามในระดับนึงเลย อาจะเป็นเพราะการสร้างภาพลักษณ์ที่ดูผาดโผนและแนวดนตรีที่เป็น urban pop ที่เหมือนจะเป็นแนวของ Miley จริง ๆ การหันมาทำ country จึงทำให้เหมือนประสิทธิภาพการทำเพลงของเธอสั่นคลอนไปหน่อย
Recommended tracks: "Younger Now," "Malibu," "Week Without You"
Genre: electropop, synthpop
Release Date: September 29, 2017
Hurts เป็นดูโอ้ที่มีภาพลักษณ์โคตรเท่มาตลอด ในอัลบั้มแรกที่เปิดมาด้วยการทำตัวเป็นผู้ดีอังกฤษเนียบ ๆ ร้องเพลง dark pop เนื้อหาหม่น ๆ จากนั้น พวกพี่ทั้งสองก็เหมือนเริ่มหลงแสงสี หันมาหยิบจับเพลง pop แล้วลดความมืดดำและใส่สีสันในเพลงพวกเขาจนเอกลักษณ์ความเป็น Hurts มันหายไปหมด และนั่นคือสิ่งที่เราสัมผัสได้จากการฟัง Desire งานชุดที่สี่ของพวกพี่เขาแล้ว ซึ่งอัลบั้มนี้ก็เหมือนเป็นภาคต่อด้านดนตรีของ Surrender (2015) แต่ความตื่นเต้นที่ได้ฟังตอน Surrender มันหายไปหมด เพราะตอนนั้นการเปลี่ยนแนวของวงมันทำให้ทุกอย่างดูสนุกไปหมด แต่ใน Desire ความสร้างสรรค์เหมือนหายไปหมด จนทำให้รู้สึกว่าเพลงแบบนี้หาฟังที่ไหนก็ได้ อัลบั้มนี้จึงเป็นงานที่น่าผิดหวังที่สุดของ Hurts แต่ด้วยความติ่ง จึงขอยัดอัลบั้มชุดนี้มาให้ลองฟังเสียงเท่ ๆ ของพี่เค้ากัน
Recommended tracks: "Ready to Go," "People Like Us" "Hold on to Me"
59. Demi Lovato, Tell Me You Love Me
Genre: pop, R&B, soul, electropop
Release Date: September 29, 2017
Demi เป็นศิลปิน mainstream ที่มีความลำบากกับการหาแนวที่ถูกจริตกับความเป็นศิลปินของเธอมาตลอด จนมาถึงอัลบั้มลำดับที่ 6 ที่เธอบอกว่าเป็นงานที่แสดงความเป็นตัวเธอได้มากที่สุดกับแนว R&B และ soul ในฐานะของฟัง Tell Me You Love Me ก็สอบผ่านเรื่องของการสร้างเอกภาพในอัลบั้มของเธอจริง ๆ หลังจากที่ Demi (2013) และ Confident (2015) ที่จับจดเอาทุกแนวมายำในเป็นอัลบั้มนึง แต่ Tell Me You Love Me กลับสามารถสร้างความเพลิดเพลินแบบไม่มีการขัดจังหวะได้ดีจริง ๆ รวมไปถึงการร้องที่พิสูจน์ Demi คือศิลปินที่มีเสียงร้องสุดยอดในยุคนี้อีกด้วย และหลังจากที่ฟังมาหลายรอบ เราก็ชื่นชมกับทักษะการแต่งเพลงของเธอที่สุดจะตรงไปตรงมา โดยที่ไม่ต้องพึ่งสำบัดสำนวนหรือการเปรียบเปรยที่เข้าถึงแสนยาก แต่สามารถแสดงชั้นเชิงและความจริงใจของการแสดงความคิดและอารมณ์ต่อผู้ฟังได้ดี
Recommended tracks: "Tell Me You Love Me," "Daddy Issues," "Cry Baby," "Hitchhiker"
60. Alex Lahey, I Love You Like a Brother
Genre: pop rock, punk rock, garage rock, alternative rock, grunge
Release Date: October 6, 2017
สาวกเพลงสาย pop rock แบบ Avril มาทางนี้ด่วน! ในปีที่เพลง electropop และ hip-hop ครองชาร์ทเพลงทั้งโลก เพลง pop rock ที่ให้ความรู้สึกแบบ old school ในช่วงปี 2000 ต้น ๆ เป็นอะไรที่หาฟังยากมาก หนึ่งในเพชรเม็ดงานของเพลงสายนี้คืออัลบั้มจาก Alex Lahey ศิลปินหน้าใหม่จากออสเตรเลียที่ออกอัลบั้มชุดแรกในชีวิตของเธอ และก็ได้รับคำวิจารณ์ด้านบวกจากหลายสำนักเลย ภาพรวมของ I Love You Like a Brother เป็นงาน pop rock ผสม punk แบบ Avril Lavigne ในยุคแรก ๆ หรือเพลงของวงร็อคอย่าง Green Day และ Simple Plan ความโหดของ Alex คือการแต่งเพลงด้วยตนเองทั้งหมด โดยที่เมื้อเพลงยังมีชั้นเชิงในหลายด้าน เช่น ความรัก หรือแม้กระทั้งการท้าทาย stereotype เรื่องเพศ บอกเลยว่าใครที่ชอบเพลงแนวนี้จะติดใจการฟังอัลบั้มชุดนี้เป็นอย่างมาก
Recommended tracks: "Every Day's the Weekend," "I Love You Like a Brother," "Perth Traumatic Stress Disorder"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in