เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นายอ่านอะไรsunnyside1909
Loving Vincent ภาพสุดท้ายของแวนโก๊ะ
  • หนึ่งในภาพยนตร์ที่สวยที่สุดในโลก

    ทุกฝีแปรงคือการสะบัดหนึ่งครั้ง ไม่รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีการสะบัดฝีแปรงไปกี่แสนกี่ล้านครั้ง
    ภาพยนตร์เรื่องแรกในโลกที่ใช้สีน้ำมันในการเล่าทั้งเรื่อง
    ใช้จิตรกรทั้งหมด 100 กว่าคน
    ใช้สีน้ำมัน 3000 ลิตร

    พูดตามตรงใน เราเคยวาดรูปมาก่อน และคำว่าสีน้ำมัน 3000 ลิตรนี่ดู Surreal เป็นบ้า


    แม้กระทั่งเงา การเคลื่อนไหว ท้องฟ้า ดาวที่กระพริบ แสงเทียนที่กำลังไหว ทุ่งหญ้า ลม แสงที่ตกกระทบหน้า ทุกอย่างเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกันในแต่ละเฟรม
    พอใช้เทคนิคการลงสีแบบแวนโก๊ะมันทำให้เห็นสีที่เปลี่ยนไปชัดมาก ทำให้รู้สึกยิ่งกว่าเดิมว่ากำลังมีอะไรเคลื่อนไหวในเฟรม ถ้าเป็นอนิเมชั่นปกติเราคงไม่รู้สึกขนาดนี้
    อันนี้แค่มองสีที่เปลี่ยนไปก็รู้สึกเพลินมากแล้ว


    (สปอยล์)
    เนื้อเรื่องของ Loving Vincent ดำเนินหลังจากที่ Vincent ตายไปแล้ว
    Armand ลูกชายบุรุษไปรษณีย์ ได้รับคำสั่งมาจากพ่อให้ส่งจดหมายของ Vincent ไปหา Theo แต่เมื่อเขาไปพบ Theo เขากลับพบว่า Theo เสียชีวิตแล้ว
    Armand อยู่ที่นั้นต่อเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของ Vincent ผ่านคนในเมือง


    Dr.Gachet อดีตแพทย์ทหารที่รักษาแวนโก๊ะ ผู้หลงใหลในศิลปะของแวนโก๊ะ ก่อนตายมีปากเสียงกัน แต่ตอนแวนโก๊ะตาย เขาขอร้องให้ปล่อยให้เขาตายไปซะ
    Marguerite ลูกสาว Dr.Gachet ที่นายเรือเห็นพวกเขาสนิทสนมกันในเรือวันก่อนที่แวนโก๊ะจะตาย แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าไม่ได้สนิทกันมากนัก แต่เธอก็ยอมรับว่าการถอยห่างของเธออาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แวนโก๊ะตาย
    Rene คุณชายเจ้าสำราญที่มีปืนในครอบครอง เขาเคยกลั่นแกล้งแวนโก๊ะ
    นายเรือ ที่เห็นเรเน่กลั่นแกล้งแวนโก๊ะและเห็น Marguerite สนิทสนมกับแวนโก๊ะ
    Adeline Ravoux ลูกสาวเจ้าของโรงแรมที่บอกว่าแวนโก๊ะเป็นคนใจดี เงียบ และมีน้ำใจ เขาไม่ทำอะไรมากไปกว่าวาดรูป และเธอให้ความเห็นว่า Dr.Gachet ช่างเลวร้าย แวนโก๊ะขอให้นำกระสุนออก แต่เขาไม่ทำ

    แต่ละคนต่างมีเรื่องราวของตนเองและมุมมองของตนเอง ทุกคนเล่าไม่เหมือนกัน จุดนี้แอบคล้ายราโชมอนอยู่เหมือนกันนะ 555 สุดท้ายคิดว่าผู้ชมน่าจะต้องตัดสินใจเอาเอง Armand เองก็มีคำตอบของตนเอง ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกับคำตอบของคนอื่น

    แคสทุกคนเจ๋งมากจริงๆ ตอนดูเอนด์เครดิตขึ้นรู้เลยว่าตั้งใจแคสต์มากๆ เพราะว่าวาดออกมาคล้ายต้นฉบับเลย ยกเว้น Armand ที่ค่อนข้างหล่อเกินหน้าเกินตาไปนิด จะว่าไป ดักลาส บูธ ดูเหมือนจะวนเวียนอยู่กับแต่หนังพีเรียดนะ

    ดาราเรื่องนี้ก็น่าดูหลายคนเลย มี Douglas Booth, Saoirse Ronan รายนี้ขาประจำหนังรางวัลมากๆ, Jerome Flynn ที่หลายๆคนคงคุ้นจากบทบรอนทหารรับจ้างของแลนนิสเตอร์, Aidan Turner คนแคระขวัญใจเราเอง คิลี

    เรื่องนี้มีความเป็นหนังสืบสวนแบบที่เราไม่คาดคิด แต่การเล่าเรื่องบางครั้งดูโดดนิดหน่อย อาจจะเพราะพยายามดำเนินเรื่องโดยใช้อิงภาพวาดดังๆมากเกินไปรึเปล่า เลยกลายเป็นว่าฉากนั้นก็ต้องมี ฉากนี้ก็ต้องไม่พลาด แต่ก็ถือว่าสนุกพอสมควร

    ส่วนตัวเราชอบการนำเสนอบุคลิกของแวนโก๊ะผ่านทางตัวอักษรในจดหมาย มันทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายอ่อนไหวมาก

    เราหลงรักเรื่องนี้ตั้งแต่ Opening Scene เลยด้วยซ้ำ ซีนที่ชอบที่สุดคือ Opening Scene และ Scene ที่ Armand อ่านจดหมายของแวนโก๊ะบนเกวียน เป็นสองซีนที่น้ำตาซึมเลย


    เราชอบความสัมพันธ์ของธีโอและแวนโก๊ะมาก

    ชื่อของหนังก็มาจากคำลงท้ายของจดหมายของแวนโก๊ะที่เขียนถึงธีโอ

    Loving, Vincent

    จริงๆก่อนหน้านี้เคยมี Dear Theo ซึ่งเป็นหนังสือที่ใช้การขึ้นต้นจดหมายของแวะโก๊ะมาแล้ว

    เรารู้สึกว่าธีโอรักแวนโก๊ะมาก อย่างที่ดร.กาเช่พูด ธีโอทุ่มเงินให้แวนโก๊ะเยอะมาก ทุกๆอย่างที่แวะโก๊ะใช้ต้องอาศัยธีโอหามาให้ ทั้งๆที่ภาพของแวนโก๊ะขายไม่ได้เลยสักภาพเดียว แต่ธีโอก็สนับสนุนแวนโก๊ะมาตลอดแปดปีของการวาดรูปของเขา

    เงินทั้งหมดที่ธีโอมีสามารถซื้อบ้านดีๆได้ แต่ตอนนี้เขามีอะไรให้ลูกสาวกับภรรยาเขาล่ะนอกจากบ้านที่เต็มไปด้วยภาพวาด

    เสียดายที่แม้กระทั่งธีโอก็ไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จของแวนโก๊ะ

    และแวนโก๊ะก็รักธีโอมากจริงๆ ดูจากจำนวนจดหมายที่เขาส่งก็ได้

    ถ้าเกิดว่ามันเป็นอย่างที่ดร.กาเช่พูดจริงๆที่บอกว่า แวนโก๊ะฆ่าตัวตายเพราะไม่อยากเป็นภาระของธีโอแล้ว เราก็รู้สึกเสียใจแทนทั้งธีโอและแวนโก๊ะ

    แต่แวนโก๊ะคงเหงามากจริงๆ อย่างที่นายเรือพูดว่า คนเราต้องเหงาขนาดไหนเห็นนกกามาจิกข้าวกินใกล้ๆก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาได้ ในช่วงที่แวนโก๊ะอยู่ที่เมืองนี้ก็วาดรูปทุ่งสาลีหลายครั้ง และเขาเขียนถึงธีโอว่าภาพเหล่านี้เป็นตัวแทนของ ความเศร้าและความโดดเดี่ยวอย่างสุดแสนของเขา ทั้งคำพูดที่ว่าวันหนึ่งเหมือนสัปดาห์ เราว่ามันเป็นคำพูดของคนที่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เวลาเราไม่มีความสุข เวลามักจะผ่านไปช้าเสมอ

    หวังว่าเรื่องนี้จะได้ชิงออสการ์อนิเมชั่นนะ ปีนี้มีโคโค่ที่เป็นตัวเต๊งแต่เรื่องนี้ก็ดูประมาทไม่ได้เลยล่ะ


    สำหรับเรา หนังไม่น่าเบื่อเลย สนุกและสวยมาก ลองไปดูกันนะ


    ปล.สีเสื้อของ Armand เหลืองแวนโก๊ะมากๆ และขอบคุณเอ็ม พิคเจอร์ส สำหรับตั๋วรอบพิเศษ




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in