เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว Six of Crows (อีกาผยอง, อาณาจักรฉ้อฉล)
  • Six of Crows (อีกาผยอง, อาณาจักรฉ้อฉล)
    ผู้เขียน : Leigh Bardugo
    ผู้แปล : อลิซ, พลอย โจนส์
    Nanmeebooks
    2 เล่มจบ

    *รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*

              มีโอกาสได้อ่านหนังสือเรื่องดังสักที สำหรับ Six of Crows นี่เราได้ยินคนพูดถึงความดีงามของมันมานานแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีข่าวแปลภาษาไทยเลยมั้ง ไม่รู้ด้วยว่ามันมีจักรวาลเดียวกันอยู่ แล้วไม่นานก็มีข่าวซีรีส์ Shadow and Bone ฉายพอดี เราก็เลยแวบไปดูซีรีส์ก่อน

              ส่วนตัวรู้สึกว่าซีรีส์ก็ทำได้ดีนะ แต่เราไม่ค่อยอินกับพล็อตหลักเท่าไหร่ ไปๆ มาๆ เรากลับชอบแก๊งหัวขโมยสามคนในเรื่องมากกว่าซะงั้น

    แก๊งนี้เลยแม่
              ก็เลยเข้าไปหาข้อมูลหนังสือแล้วพบว่ามันคือจักรวาลเดียวกันกับ Grishaverse ทั้งหลาย จากนั้นก็เอ๊ะ ซีรีส์ก็ไม่แย่นะ ไหนลองอ่าน Shadow and Bone หน่อย แต่กลับพบว่า...

              หนังสือแม่งไม่หนุกเลยยยยยย

              ขอโทษที่หยาบนะ แต่สำหรับเรามันไม่หนุกจริงๆ Shadow and Bone เป็นหนังสือที่พล็อตตรงมาก มีความเยอะสิ่งอยู่ในบรรดาคาแรคเตอร์ทั้งหลาย และมันคือการมองเรื่องผ่านสายตานางเอกคนเดียว (สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง) เราเลยไม่ได้เห็นอะไรในมุมมองใหม่ๆ เท่าไหร่ ซึ่งอันนี้เราก็เพิ่งมาได้รู้ว่า อ้าว ที่แท้บทหัวขโมยสามคนในซีรีส์มันไม่ได้มีในหนังสือ Shadow and Bone นะ แต่ทีมงานเค้าเอาฝั่งของเล่ม Six of Crows มาขดรวมไว้ในนี้ด้วยต่างหาก ซึ่งถ้าชอบไอ้สามหัวขโมยนี่ต้องไปอ่านใน Six of Crows เพราะพวกเค้าเป็นตัวละครหลัก

              เราก็เลยลองอิ้งอ่านเว้ย แต่สรุป...งง!! 5555 เอาจริงเป็นนิยายที่เริ่มยาก เพราะงงมาก เหมือนเดินเข้าโรงหนังแล้วมีคนเอาป๊อบคอร์นปาใส่หน้าเราทั้งถัง คือจู่โจมข้อมูลเข้ามาหมดเลย แล้วด้วยความที่เป็นนิยายที่สร้างภาษาสร้างเวิร์สขึ้นมาเอง สร้างชื่อเฉพาะมาตามใจฉันมาก มันเลยค่อนข้างยากนิดหนึ่งที่จะทำความเข้าใจ สุดท้ายก็ยอมถอยทัพ รอแปลไทยดีกว่า

              พอแปลไทยออกมาก็ลองอ่าน...สรุป อ่านยากเหมือนเดิม 5555 แต่จะบอกว่ามันยากแค่ช่วงเริ่มต้น ช่วงสี่ห้าบทแรก ไม่ถึงร้อยหน้าในเล่ม เพราะจากนั้นมันสมูธมาก แล้วแม่งสนุกม๊ากกกกกกกกกกกก โอ้มายก็อด แบบสนุก นี่คนเขียนคนเดียวกันกับ Shadow and Bone จริงเหรอ คิดงั้นเลยนะ 5555

              Six of Crows เป็นเรื่องราวของอาชญากร 6 คนที่รวมตัวกันทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ (โดนขู่บังคับก็ว่าได้) เพื่อจะไปทำการปล้นในภารกิจที่ใครๆ ก็มองว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ด้วยสมองของอาชญากรอัจฉริยะผู้ได้ฉายาว่า มือโสมม คาซ เบรกเกอร์ เด็กหนุ่มขาพิการในแก๊งที่โด่งดังของเมือง ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

              คาซ กับเหล่าอีกาของเขาลงเรือมุ่งหน้าเตรียมบุกราชสำนักน้ำแข็ง ป้อมปราการอันแข็งแกร่งที่สุดในโลก สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าไม่มีทางเจาะเข้าไปได้ เพื่อชิงตัวนักวิทยาศาสตร์ โบ ยูล-ไบยัวร์ ผู้กุมความลับของยาเสพติดอันตรายที่สามารถเพิ่มพลังเหนือธรรมชาติของกรีชาให้พุ่งทะลุขีดจำกัด

              แต่ภารกิจนี้ยากเย็นเหลือเกิน แถมระหว่างทางยังมีปัญหาแทรกเข้ามาเรื่อยๆ ทุกอย่างต้องอาศัยสมองและความสามารถของอีกาทั้งหกในการรับมือ ซึ่งขอบอกได้ว่า มันส์!

              แต่แนะนะนิดว่าอย่าไปอ่านปกหลังของเล่ม 2 ถ้าไม่อยากถูกสปอยล์เนื้อหา

              เราชอบที่เค้าเล่าเรื่องจาก multi pov มีมุมมองของตัวละครหลายตัวในเรื่อง และลีห์เขียนออกมาได้แบบคงคาแรคเตอร์ของตัวละครแต่ละตัวได้ดีมาก นอกจากนี้เราชอบการที่ใช้คอนเซ็ปต์กลุ่มคนที่ไม่ได้ออกแนวฮีโร่ แต่ละคนคือเป็นหัวขโมย มือปืน นักฆ่า ทหารหนีทัพ บลาๆ แล้วก็มีข้อบกพร่องของตัวเองต่างกันไป อย่างขาพิการ หรืออาการ PTSD (ที่เกือบทุกตัวละครเป็น) อาการไฮเปอร์อยู่นิ่งไม่ได้ LGBT หรือสลิ่มที่ต้องเร่งเบิกเนตร ตัวละครหลักความคิดอ่านหรือความสามารถคือสูงลิบลิ่วแต่ทุกคนอยู่ในช่วงวัย 16-17 กันทั้งนั้นเลย จนเรารู้สึกว่ามันดูเหมือนกลุ่มเด็กญี่ปุ่นในมังงะโชเน็นไปนิด ตรงนี้ดูพยายามไปหน่อย

              ถ้าคนที่ไม่ได้ดูซีรีส์มาก่อนอาจจะงงๆ บทสนทนาบางอย่างของตัวละคร นีนา กับ มัตไทอัส คือจะไม่เข้าใจว่าสองคนนี้เคยมีอดีตอะไรกันมาก่อน หนังสือจะค่อยๆ เล่าแทรกไปทีละนิดว่าสองคนนี้มันมีเรื่องอะไรกันมา ในขณะที่ซีรีส์จะพูดไล่ไปตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรกแล้วโยงไปถึงปัจจุบันเลย เราดูซีรีส์มาก่อนจุดนี้เลยไม่งงเท่าไหร่เพราะถือว่าปูพื้นไว้แล้ว

              อ้อ แล้วไทม์ไลน์อยู่ในช่วงสั้นๆ อารมณ์แบบเล่านาทีต่อนาที เล่มแรกยังมีช่วงที่เดินทาง แต่เล่มสองคือไทม์ไลน์ประมาณสัปดาห์นึงราวๆ นั้นเอง แล้วอ่านเล่มแรกจบต้องอ่านเล่มสองต่อทันทีเพราะเนื้อหามันต่อเนื่องกัน ซึ่งการที่ทำอย่างนั้นมันทำให้เรารู้สึกล้ามาก

              หนังสือเล่มหนา แล้วการที่เนื้อหามันไม่มีช่วงให้พักเบรกเท่าไหร่เราก็อ่านไปเรื่อยๆ เพราะมันสนุกไง แต่ทีนี้ช่วงครึ่งเล่มแรกของเล่มสองเราล้ามาก บวกกับมันมีบทสนทนาที่ไม่ค่อยจำเป็นนักโผล่มาตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย เลยทำให้เราเนือยๆ ไปบ้าง แต่ครึ่งเล่มหลังคือกลับมาสนุกอีกแล้ว เลยไหลได้ยาวจนจบ

    ตัวละครที่ชอบมากคือคาซนั่นแหละ รู้สึกอินกับคนคนนี้ที่สุดแล้ว ตอนดูซีรีส์เราก็ชอบเค้าแล้วนะ อีกคนคือ อิเนจ มาอ่านหนังสือก็ยังชอบอยู่ (แต่น้อยกว่าคาซนิด เป็นตัวละครที่ชอบสุดในปีนี้เลย) แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ชอบตัวละครอื่นนะ ต้องบอกว่าอีกาทั้งหกมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง เรารักทุกตัวละคร แต่รักไม่เท่ากันแค่นั้นเอง 555

              แล้วก็...อาจจะต้องเตือนไว้หน่อยว่ามีตัวละครหลักตายด้วย ซึ่งอันนี้เรางงและเรารู้สึกแปลกๆ เราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น และมันดูเล็กน้อยมาก มันดูผ่านไปไวแบบรีบๆ ซึ่งเราคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลย การที่ให้ตัวละครนี้ตายเราเลยไม่เก็ทเท่าไหร่ว่าลีห์ทำไปเพื่ออะไรกันแน่

              แต่โดยรวมคือเป็นเล่มที่อ่านแล้วชอบที่สุดในเดือนนี้ น่าจะติดอันดับเล่มที่ชอบที่สุดในปีนี้ด้วย คาซเก่งมาก ฉลาด อัจฉริยะ โหดเหี้ยม แต่ด้านในมีมุมอ่อนแอถึงตายซ่อนอยู่ คือครบเครื่อง ใครชอบแนวๆ anti hero ต้องลองซื้อมาอ่านกันนะ


    contact me
    twitter : @malavitabb


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in