เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว Fantasy Farm ฟาร์มมหัศจรรย์พรรค์นี้ก็มีด้วย? เล่ม 1
  • Fantasy Farm ฟาร์มมหัศจรรย์พรรค์นี้ก็มีด้วย? เล่ม 1
    ผู้เขียน : ซีจื่อซวี่
    ผู้แปล : ธันวาตุลาคม
    EverY
    4 เล่มจบ

    *รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*

              อ่านจบมานั่งนึกขึ้นได้ว่านิยายเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เราอยากลุกมาปลูกผักทำไร่เท่าไหร่นัก แต่ถ้าอยากลุกมาสั่งเดลิเวอรี่อาหารจีนล่ะก็ใช่เลย

              ถามหน่อยนะ นี่มันนิยายที่โฟกัสกับการทำฟาร์มหรือว่าโฟกัสกับการทำอาหารเลี้ยงคุณจิ้งจอกกันแน่คะ??

              นิยายเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานของนักเขียนที่กำลังครองใจนักอ่านไทยในช่วงนี้อย่างคุณ ซีจื่อซวี่ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น รู้สึกคลิกกับผลงานของคุณเค้าทุกเรื่องที่มีแปลไทยเลย ส่วนหนึ่งเพราะเค้าเน้นเขียนแนวๆ สิ่งเหนือธรรมชาติ แอบน่ากลัวแต่ก็มีซีนขำปนมาด้วยบ่อยๆ แนวๆ นี้

              เรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากผลงานเล่มอื่นๆ ของคุณเค้านัก แต่ต่างตรงที่เรื่องนี้เน้นไปที่การทำฟาร์ม ปลูกผัก ทำอาหาร สโลว์ไลฟ์สุดๆ

              ตัวเอก ลู่ชิงจิ่ว ลาออกจากการทำงานในเมือง เพื่อกลับมาอยู่ที่หมู่บ้านสุ่ยฝู่ บ้านเกิดในแถบชนบทที่เรียกได้ว่าไกลปืนเที่ยง แทบจะเป็นหมู่บ้านที่อีกนิดก็ตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว แต่ตั้งแต่วันแรกที่เขากลับมาบ้านเกิด เขาก็เจอกับเรื่องเหนือธรรมชาติมากมายเข้ามารายล้อม

              แท็กซี่ปริศนา ตุ๊กแกมหึมาที่จ้องจะเล่นงาน เสียงปริศนาน่าสยดสยองจากบ่อน้ำหลังบ้าน แปลกสุดก็ต้องหนุ่มแปลกหน้าชุดขาวผู้สง่างามราวกับเทพเซียนอย่าง ไป๋เยวี่ยหู ผู้ที่จำแนกทุกสรรพสิ่งที่เจอเป็น ‘ของอร่อย’ กับ ‘ของไม่อร่อย’

              และนับตั้งแต่วันที่ลู่ชิงจิ่วได้กลับมาบ้านเกิด ชีวิตเขาก็คล้ายว่าจะเจอแต่เรื่องเหนือธรรมชาติแบบไม่มีที่สิ้นสุด ...คนเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันล่ะนะพี่ลู่

              ซิกเนเจอร์ของคุณนักเขียนเค้าดูเหมือนจะเป็นตัวเอกค่ะ เพราะทุกเรื่องจะต้องมีตัวเอกที่สามารถสัมผัสกับเรื่องเหนือธรรมชาติได้ แต่มีวิธีรับมือที่แตกต่างจากคนปกติทั่วไปสักหน่อย นั่นคือเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน เรื่องนี้ก็เช่นกัน พี่ลู่เจอจนชาชิน ถือคติรู้น้อยเท่าไหร่ก็สุขใจเท่านั้น พอเจอเรื่องประหลาดอะไรเข้าก็เลยเลือกที่จะไม่สนใจไต่ถาม แล้วทำเออๆ ออๆ ตามเรื่องตามราวไปเสีย จีเนียส!!

              พี่ลู่กลับมาบ้าน ตั้งใจจะใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ แต่เหมือนบ้านที่เขาควรต้องอยู่คนเดียวกลับไม่เงียบเหงา มี อิ่นสวิน เพื่อนสมัยเด็กแวะมากินข้าวและช่วยงานบ่อยๆ แถมหนุ่มประหลาดไป๋เยวี่ยหู ผู้ที่ไม่ปกปิดตัวเองว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกก็ถือวิสาสะมาอยู่อาศัยด้วยอีกคน

              นอกจากนี้ชีวิตที่ไม่เงียบเหงาก็คือไม่เงียบเหงาจริงๆ เพราะบรรดาสัตว์ที่เอามาเลี้ยงที่บ้าน (เตรียมจะเอาไว้เป็นอาหาร) ล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์ที่ไม่เหมือนสัตว์ธรรมดาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหมูที่คิดเลขได้หรือไก่ที่มีแรงจิกแบบซูเปอร์ไก่ หลังๆ ยังมีจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่งโผล่มาให้เลี้ยงอีกตัว (พี่ลู่: ไป๋เยวี่ยหู!! ลูกชายนายหรือเปล่า!! << me: LMAO)

              อ่านๆ ไปช่วงแรกมันสโลว์ไลฟ์มาก ทำอาหาร เข้าเมืองไปซื้อเนื้อ ทำอาหาร เจอสิ่งประหลาดละแวกบ้าน ทำอาหาร ทำอาหาร ทำอาหาร แบบว่าโอ๊ยยยย ทำเก่งทุกอย่างเลยโว้ยยย หิววววววว

              คือตอนแรกเข้าใจว่าจะโฟกัสกับการออกไปปลูกแตงกวา กลับมาช่วยกันทำผักตากแห้งอะไรเทือกนี้ แต่ไปๆ มาๆ ลู่ชิงจิ่วแทบไม่โผล่ไปไร่เลยด้วยซ้ำ หน้าที่หลักคือทำอาหาร คนออกไปรดน้ำผักหญ้าคือไป๋เยวี่ยหู ตัวลู่ชิงจิ่วแค่เข้าไปดูผักเตรียมขาย เป็นเถ้าแก่เนี้ยคอยรับเงินแต่ไม่ใช้แรงอยู่ที่บ้าน

              ตัวไป๋เยวี่ยหูมาอาศัยบ้านเค้างงๆ ลู่ชิงจิ่วก็ให้เค้าอยู่บ้านงงๆ ตัวลู่ชิงจิ่วทำอาหารให้อีกฝ่ายกิน ไป๋เยวี่ยหูก็ไม่อิดออดที่จะรับหน้าที่ล้างจาน แต่เจ้าตัวกินเท่าไหร่ก็บอกได้แค่ว่า "เกือบอิ่ม" กินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่หน้าท้องกลับทรยศไม่ป่องออกมาแม้แต่น้อย หน้ามึนๆ ตลกมึนๆ หลุดขำเพราะจิ้งจอกนี่บ่อยมาก แต่จะรักกันยังไงยังงงอยู่ เพราะมึนมาก เอ้า! เอาใจช่วย 55555

              ตอนแรกคิดสงสัยเหมือนกันว่าพล็อตมันจะไปยังไงต่อเพราะมันเนิบๆ เรื่องประหลาดทั้งหลายโผล่มาแล้วก็ผ่านไป ไม่ยืด มากันแวบสองแวบ (ซึ่งบางเรื่องแอบเสียดาย คิดว่ายืดได้อีกหน่อยด้วยซ้ำ) แต่ที่ไหนได้พล็อตหลักน่าจะอยู่ที่ภูมิหลังครอบครัวของลู่ชิงจิ่วนี่แหละ เห็นอย่างนี้แต่เรารู้สึกว่าตัวละครอย่างลู่ชิงจิ่วอ่านยากมาก เหมือนเปิดเผยแต่ก็ปกปิด คิดว่าคงจะยังมีปมบางอย่างเกี่ยวกับครอบครัวซ่อนเอาไว้อีกมาก รอเปิดเผยในเล่มต่อๆ ไปค่ะ

              นอกจากนี้เพื่อนสมัยเด็กของลู่ชิงจิ่วอย่างอิ่นสวินก็ sus มาก แบบเป็นคนที่มีมุมตลกนะแต่เราก็จะเดาได้เลยว่าไอ้คนนี้มันมีบางอย่างแปลกๆ เว้ย ซึ่งปมของเค้ามันตัดจบช่วงท้ายเล่มแรกพอดี เพราะงั้น...ค้างค่ะ!

              ส่วนตัวถ้าเทียบกับเรื่องก่อนหน้าของคุณนักเขียนที่ได้แปลไทย เรื่องนี้ค่อนข้างเบากว่าเรื่องอื่นๆ อยู่นิด เพราะอย่างที่บอก พล็อตแทรกแต่ละอย่างไปไวมาไว เราจะรู้สึกไม่อิ่มหน่อยๆ แล้วบางอย่างอธิบายไม่เคลียร์นักในความรู้สึกเรา อย่างเช่นเรื่องรถกระบะที่สุดท้ายเราก็ไม่แน่ใจว่ามันคือตัวอะไร หอยทาก? แล้วหอยทากกับดอกไม้คืออะไร? แล้วไอ้คนที่มารับมะเขือเทศความจริงแล้วคือใครทำไมดูกลัวพี่ไป๋? อันนี้ไม่มีอธิบายและไม่รู้ว่าในอนาคตจะอธิบายมั้ย มันเป็นอารมณ์แบบลู่ชิงจิ่ว's pov คือเจ้าตัวตงิดแล้วว่าสิ่งนี้คืออะไรแต่ไม่อยากใส่ใจเลยปล่อยทิ้งไป มันก็เลยทำให้คนอ่านงง พี่ลู่ สรุปพี่รู้อะไร พี่อธิบายคนอ่านด้วย อย่าทิ้งกันไว้กลางทางแบบนี้ แงงงง

              ส่วนที่ว่าหลอนมั้ยส่วนตัวเราว่าเรื่องไม่หลอนนะ แต่มันดีตรงที่ความ Fantasy Farm อ่ะ มีแต่ตัวอะไรไม่รู้โผล่มาให้เลี้ยง เราชอบน้องหมูกับน้องจิ้งจอกน้อยมาก แอบหวังว่าจะแปลงร่างเป็นคนได้ ส่วนในอนาคตจะมีตัวอะไรโผล่มาอีกต้องรอติดตาม

              ตัวละครที่ชอบสุดก็คงไป๋เยวี่ยหูนี่แหละ ดูมึนๆ กินเก่ง กินทุกอย่างที่ขวางหน้าแล้วก็โคตรขี้เกียจ ลู่ชิงจิ่วซื้อเก้าอี้โยกมาให้นางก็ชอบนะ แต่ขี้เกียจขยับเอง ต้องให้ลู่ชิงจิ่วที่เดินผ่านมาขยับให้ งง แต่ชอบอ่ะ ตลกดี 55555 แบบจิ้งจอกที่ตลกหน้าตายมาก เกาหัว

              อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือปกสวยยยยยยมากกกกกกกก โอ้มายก้อดแบบกรี๊ดๆๆๆ มันฟรุ้งฟริ้ง เพิ่งมาคิดได้ตอนพูดถึง topic นี้คือรู้สึกว่านิยายคุณซีจื่อซวี่แปลไทยทั้งหลายนี่ไม่มีเรื่องไหนปกไม่สวยเลยเนอะ คือปกอลังการวิบวับทุกเรื่องเลย แล้วอันนี้้ต้องยกความดีความชอบให้แจ่มใสนะ เพราะค่ายนี้บรีฟปกดีตลอด ยิ่งงานที่ต้องใส่ดีเทลธรรมชาติๆ ดอกไม้ใบหญ้าต่างๆ ยิ่งทำได้ดี อยากได้โปสเตอร์เลย

              ใครเป็นแฟนงานเขียนคุณซีจื่อซวี่ก็อย่าพลาดค่ะ ใครสายสโลว์ไลฟ์ก็ซื้อมาอ่านได้ ไม่ได้ทำฟาร์มมากขนาดนั้นแต่รับรองว่าอาหารทุกมื้อที่พวกเค้ากินนี่มันเมนชั่นถึงตลอด เนื้อเอย แกะเอย ของคาว ของหวาน ของกินเล่น คนอ่านเท้าเอวบึนปากแล้ว หิว


    contact me
    twitter : @malavitabb


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in