เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา เล่ม 1-2
  • ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา เล่ม 1-2
    ผู้เขียน : เผิงไหลเค่อ
    ผู้แปล : พริกหอม
    มากกว่ารัก
    5 เล่มจบ

    *รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*

              งานเขียนของคุณเผิงไหลเค่อที่อ่านแล้วรู้สึกว่าชอบจังคือ ปรปักษ์จำนน และคิดว่าหลายๆ คนน่าจะโดนสไตล์การเขียนของคุณเค้าตกจากเรื่องนี้เหมือนกัน

              วันนี้มีโอกาสได้อ่านงานล่าสุดของคุณเผิงไหลเค่อที่แจ่มใสได้ LC ไป อย่าง ธาราวสันต์ บุษบันจันทรา เราก็รู้สึกว่าเป็นแนวที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกันอยู่

              สำหรับเรื่องนี้นางเอกอย่าง เกาลั่วเสิน เกิดมาในฐานะของสตรีสูงศักดิ์ พ่อเป็นอัครเสนาบดีชื่อ เกาเฉียว แม่เป็นองค์หญิงใหญ่ เซียวหย่งจยา ชีวิตเดิมแต่งงานกับเหมยเขียวม้าไม้ไผ่อย่าง ลู่เจี่ยนจือ แต่แต่งไปได้ปีเดียวคุณชายลู่ก็ตาย ทิ้งเกาลั่วเสินเป็นม่ายหลายปี

              ต่อมีญาติผู้พี่ผู้ขึ้นเป็นไทเฮาในฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เกายงหรง ได้ขอให้นางแต่งงานใหม่กับต้าซือหม่าผู้บัญชาการทหารยศสูงอย่าง หลี่มู่ ผู้ที่เกิดมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจนแต่กลับไต่เต้าขึ้นมากุมอำนาจสูงสุดทางการทหารได้ ใครจะไปรู้ว่าในคืนเข้าหอหลี่มู่กลับถูกคนของไทเฮาตลบหลังในห้องหอ วางยาในสุราและโดนรุมสังหารจนเสียชีวิต

              แล้วจากนั้นก็เป็นการย้อนเวลา แต่คนที่ย้อนเวลาไม่ใช่นางเอก แต่กลับเป็นพระเอก

              เขากลับมาอยู่ในช่วงที่ตัวเองเป็นซือหม่ากองนอก ในขณะที่เกาลั่วเสินยังเป็นคุณหนูผู้ไร้เดียงสา หลี่มู่คิดว่าในเมื่อชาติก่อนเกาลั่วเสินต้องเป็นม่ายอยู่หลายปีกว่าจะมาแต่งให้เขา ทำไมชาตินี้ตัวเองไม่ตัดหน้าแต่งงานกับนางก่อนเลยล่ะ ว่าแล้วก็ลงมือทันที ต่อให้ตอนนี้ตัวเองเป็นทหารยศน้อยก็ไม่สน

              สมัยนั้นการแบ่งแยกชนชั้นเข้มข้นมาก สามัญชนไม่มีทางแต่งงานกับตระกูลสูงศักดิ์ได้ แต่หลี่มู่ทำได้! (เหมือนโฆษณาอะไรสักอย่าง 5555) แม้จะถูกกีดกันจากฝ่ายพ่อแม่นางเอกแต่สุดท้ายตัวเองก็วางแผนหาทางครอบครองหญิงงามคนนี้ไว้ได้ในที่สุด

              ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะได้ครองใจหญิงงามนั้นไม่ง่ายเลย ยิ่งไปกว่านั้นพอทั้งคู่เริ่มมีใจให้กันแต่บรรยากาศก็ต้องอึดอัดกระอักกระอ่วนเพราะปณิธานต่างกัน เหมือนยืนกันคนละฝั่งและตรงหน้าคือแม่น้ำที่ขวางกั้น ต่อให้อยากข้ามไปหาอีกฝ่ายก็ไม่ได้ง่ายดายปานนั้น

              เรื่องนี้พระเอกรักนางเอกมานานแล้ว ที่ดึงดันอยากแต่งงานด้วยก็เพราะเรื่องในวัยเด็ก แต่แน่นอนว่านางเอกไม่รู้ ตัวเองกำลังจะได้แต่งงานกับคุณชายลู่อยู่แล้วแต่จู่ๆ กลับต้องมาแต่งงานให้ทหารยศต่ำคนนึงก็ไม่อยากยอมรับ แต่พอได้อยู่กับพระเอกไปก็เริ่มรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายเอาใจใส่ตัวเองมาก อ่อนโยนมาก เป็นสัญญาณเบสิกของบรรดาพ่อบ้านใจกล้าทั้งหลาย

              แต่อย่างที่บอกว่าเรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะหลี่มู่มีความทะยานอยากครองบัลลังก์ล้มล้างการปกครองดั้งเดิม แต่ญาติสนิทของเกาลั่วเสินกลับคือฮ่องเต้ แม่ก็เป็นองค์หญิงใหญ่ ยังไงก็อิหลักอิเหลื่อไม่มีทางยอมรับ

              อ่านเล่มแรกเป็นการพยายามปลูกต้นรักของหลี่มู่ ความชิงชังรังเกียจของพ่อตาแม่ยาย ส่วนเล่มสองเป็นช่วงต้นรักผลิบาน มีเหตุการณ์มาทำให้ได้ไฟเขียวจากพ่อตาแม่ยาย แต่แล้วก็พลิกคว่ำทั้งกระดานเพราะเรื่องปณิธานที่ต่างกัน กลายเป็นว่าไฟเขียวเปลี่ยนเป็นไฟแดงซะแล้ว!

              ยอมรับว่าอ่านเล่มสองแล้วอารมณ์พลิกไปพลิกมาตลอด บรรยากาศมันอึดอัดไปหมดเพราะไม่มีใครยอมถอยให้กัน หลี่มู่รักเกาลั่วเสิน แต่เขาก็คิดว่าแค่รักอย่างเดียวไม่พอ ถ้าราชสำนักยังเป็นแบบนี้เขาไม่มีทางที่จะปกป้องเกาลั่วเสินต่อไปได้ มีแต่ต้องเอาอำนาจมาไว้ที่ตัวเองเท่านั้น ส่วนเกาลั่วเสินก็แบบ อีกฝ่ายก็ญาติสนิท อีกฝ่ายก็สามีที่ตัวเองเริ่มหลงรัก แถมได้มาเห็นสภาพแวดล้อมในเมืองเล็กที่เจอสงครามก็ทำให้เหมือนเข้าใจโลกมากขึ้น แต่ยังไงเรื่องแผนการใหญ่ของหลี่มู่นั้น เกาลั่วเสินก็ยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี

              อารมณ์มันเลยสวิงมาก เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง อ่านไปลุ้นไปว่าสรุปทั้งสองคนจะร่วมทางกันได้จริงมั้ย เดี๋ยวตึงใส่กัน เดี๋ยวดีกัน อ้าว ตึงใส่กันอีกแล้ว ขนาดหน้าสุดท้ายของเล่ม 2 ยังทำเอาถอนหายใจ


              ส่วนตัวมองว่านิยายเรื่องนี้ไม่มีใครดีไปหมด เราไม่ได้เข้าข้างพระเอกหรือนางเอกเต็มร้อย หลี่มู่รักเกาลั่วเสินแน่นอน แต่วิธีการที่จะได้นางเอกมามันก็ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย (ซึ่งเขารู้สึกแบบนี้จริงๆ ในภายหลัง) แต่ไทป์ถูกใจใครหลายคนแน่นอนเพราะมีความเป็นผู้ใหญ่ พูดน้อยแต่เอาอกเอาใจภรรเมีย มีความสามารถรอบด้านอีกต่างหาก แบบเออ ยอมรับอ่ะว่าเก่ง มีดีให้โม้นะเรา

              ด้านเกาลั่วเสินเอาเข้าจริงก็แอบหงุดหงิดนิดหน่อย อาจเพราะพื้นเพตัวละครคือสาวอายุน้อยตระกูลผู้ดีล่ะมั้ง เดี๋ยวโกรธเค้าเดี๋ยวงอนเค้า ความคิดอ่านยังดูเป็นเด็กๆ แต่เริ่มมี character development ในช่วงครึ่งหลังเล่มสอง แต่ต่อให้แอบหงุดหงิดไปบ้างแต่พอคิดดูให้ดีก็น่าสงสารนะ เพราะในเรื่องไม่มีใครถามความเห็นจากเกาลั่วเสินเลย จีนลากไปไทยลากมามาก ให้แต่งใครก็ไม่ถามความเห็น อยากกลับบ้านเดิมมั้ยก็ไม่ถาม ลากกลับเลย อารมณ์แบบชีวิตโดนพ่อแม่จัดการหมด จนในที่สุดต้องออกมาบอกว่าตัวเองก็ต้องการตัดสินใจเรื่องบางอย่างด้วยตัวเองเหมือนกันนั่นแหละ

              เรื่องนี้ยังโยงไปถึงคู่รอง (?) อย่างพ่อกับแม่ของนางเอก ทั้งสองคนต่างคนต่างอยู่มาก ทะเลาะกันยาวนานลากยาวมาหลายปี แต่ที่ยังต้องเข้าหน้ากันก็เพื่อลูกสาว ซึ่งรายละเอียดการทะเลาะกันก็จะค่อยๆ เปิดให้รู้ในภายหลัง

              นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่สายฟิน เพราะเล่ม 2 ค่อนข้างหน่วงทีเดียว (แต่ก็ไม่รู้นะ ต้องรอดูเล่มต่อไปว่าจะยังไง ถ้าพระนางเค้าเข้าใจกันได้ไอ้เรื่องโมเม้นต์ทั้งหลายนี่ก็ไม่แน่ อิอิ) แล้วก็มีเรื่องสงคราม การรบ เกมการเมืองทั้งหลายแทรกเข้ามาตลอด

              อีกอย่างคือศัพท์ที่ใช้ ผู้เขียนใช้คำเรียกที่เป็นเอกลักษณ์ ทางผู้แปลเลยแจ้งว่าอยากคงเอกลักษณ์ไว้ คำเรียกต่างๆ อย่างอาเจี่ย อาซยง อาเส่า อะไรพวกนี้เราค่อนข้างคุ้นอยู่แล้วล่ะ (มีหน้าคำศัพท์แทรกให้ตอนต้น) แต่พวกตำแหน่งพวกยศต่างๆ อาจยากไปหน่อย บางครั้งเราอ่านไปยังเผลอนึกว่าเป็นชื่อคน แต่ที่ไหนได้มันคือคำเรียกตำแหน่งต่างหาก แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการอ่านอะไรขนาดนั้นนะคะ ส่วนตัวผู้แปลคุณพริกหอมแปลนิยายมาเยอะมากอยู่แล้ว คุณภาพดีอย่างที่เห็น

              ชื่อเรื่องเพราะมากแถมปกยังงามตะลึง แต่ก็แลกมากับจำนวนหน้าที่หนามากเช่นกัน ถืออ่านกันมีข้อมือเคล็ดอ่ะ อันนี้เรื่องจริง เพราะเมื่อคืนตอนนอนหมุนข้อมือลำบากมาก นึกในใจว่าเอากุแล้วว 5555 แต่ข้อดีของความหนาคืออ่านได้ยาวๆ นี่แหละ

    สามารถสั่งซื้อนิยายเรื่องนี้ได้ที่ เว็บไซต์แจ่มใส>> click 
    แต่เพราะราคามันแรงมาก ยังไงแจ่มใสมีร้านใน shopee ใช้โค้ดส่วนลดด้วยได้ก็คุ้มนะ>> click 


    contact me
    twitter : @malavitabb


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in