นิยายเก่าอายุ 10 ปีของท่านหม่า หม่าป๋อยง ที่แม้อายุจะเยอะไปหน่อยแต่ความสนุกก็ไม่ได้ด้อยตามอายุ

          เรื่องนี้เบาๆ สองเล่มจบ ขนาดเล่มก็ไม่หนาอะไร สองเล่มแบ่งออกเป็นสองภาค คือ ภาคฮั่นจงสิบสองวัน กับ ภาคความจงรักภักดีที่ฉินหลิ่ง

          เนื้อเรื่องพูดถึงยุคสมัยสามก๊กที่ร้อนระอุด้วยไฟสงคราม เป็นเวลานานหลายปีที่ทั้งสามก๊กสามดินแดนรบรากันชิงความเป็นหนึ่ง แต่ยังมีอีกหนึ่งสมรภูมิที่พงศาวดารไม่ได้บันทึกไว้ นั่นคือสงครามแห่งจารชนของเหล่าสายลับผู้เปี่ยมปฏิภาณ

          นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย "อิงประวัติศาสตร์" ช่วงยุคสมัยของสงครามสามก๊ก และเมื่อพูดว่าเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ก็คือต้องทราบก่อนว่าส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นเนื้อหาที่เขียนเสริมเข้ามา ตัวละครเหล่านั้น หน่วยงาน หรือเหตุการณ์ในเรื่องไม่ได้มีอยู่จริง แต่มันก็ทำให้เราสนุกสนานได้เหมือนเวลาที่เราอินกับการอ่านรหัสลับดาร์วินชีนั่นแหละ ยังจำได้ว่าสมัยนั้นอ่านจบยังเชื่ออย่างสุดใจอยู่เลยว่ามีความลับใหญ่โตขนาดนั้นซ่อนเอาไว้ในลูฟวร์ 5555

          สำหรับ พายุจารชนแห่งหล่งซี มีเนื้อหาอยู่ที่แคว้นสู่หรือก็คือจ๊กก๊กเป็นหลัก ไทม์ไลน์ที่ใช้คือช่วงที่เล่าปี่ตายไปแล้วและเล่าเสี้ยนขึ้นแทน มีขงเบ้งเป็นมหาเสนาบดีคอยคุมหัวเรือใหญ่ และในช่วงนั้นเองที่มีข่าวรายงานว่ามีจารชนของแคว้นเว่ยแทรกซึมเข้ามา เป้าหมายคือต้องการจะขโมยอาวุธสงครามของแคว้นสู่ อย่าง "เครื่องยิงหน้าไม้" ซึ่งอานุภาพของมันเป็นที่ครั่นคร้าม และการจะขโมยได้ก็มีอยู่ไม่กี่วิธี คือ แบบร่าง ของจริง หรือไม่ก็ช่างฝีมือ

          พอมีข่าวล่ามาแบบนี้ สวินสวี่ หัวหน้ากองสันติบาลเลยออกคำสั่งให้คุ้มกันแบบร่างเครื่องยิงหน้าไม้และช่างฝีมือ พร้อมกันนั้นก็พยายามตามจับตัวสายลับแคว้นเว่ย ทั้งคนที่เพิ่งเข้าเมืองมาอย่างน่าสงสัยอย่าง หมีชง และอีกคนที่ดูจะเป็นตัวปัญหามากที่สุดอย่างจารชนในเงามืด โค้ดเนม จู๋หลง

          เจ้าสายลับโค้ดเนมจู๋หลงนี่น่ากลัวกว่าพวกเพราะเป็นสายลับระดับสูงที่แฝงเร้นตัวเองอยู่ในหมู่ขุนนางชั้นสูงของฮั่นจง นอกจากจะจับตัวยากแล้วยังทำให้ต้องเพิ่มการระวังแบบร่างหลุดมือไปแบบ X3 อีกต่างหาก

          แต่นอกจากต้องพยายามจับตัวเจ้าจู๋หลงคนนี้แล้ว สวินสวี่ยังต้องเจอกับปัญหาไม่กินเส้นกันของกองทัพกับกองสันติบาล (เพราะทหารไม่ให้ความร่วมมือ) พ่วงมาด้วยพรรคใต้ดินของ "ลัทธิข้าวสารห้าโต่ว" ที่คอยปั่นป่วนสถานการณ์ ทั้งหมดนี้กำหนดเส้นตายในการแก้ปัญหาเอาไว้ภายในสิบสองวัน

          ต้องบอกก่อนว่าเราเคยอ่านสามก๊กและชอบมากทีเดียว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหากับชื่อแซ่ตัวละครทั้งหลาย อ่านไปก็เข้าใจว่าโอเคมันเป็นยังไง แต่มาคิดในแง่ของคนที่ไม่เคยอ่านสามก๊กเรารู้สึกว่านิยายเรื่องนี้อาจจะอ่านยากไปสักหน่อย

          ส่วนหนึ่งคือช่วงครึ่งเล่มแรกของเล่มหนึ่งมีอ้างอิงถึงผู้คนหรือสถานการณ์สามก๊กเยอะมาก ตัวละครเพียบ ทั้งที่มีอยู่จริงหรือที่เสริมเข้ามา และส่วนใหญ่แล้วเขียนออกมาเป็นบทบรรยายเสียเยอะ อ่านไปต้องมีง่วงแน่นอนและที่สำคัญคืออาจจะงงด้วย แต่ถ้าหลุดจากช่วงนั้นมาแล้วก็ไปต่อได้สบายเพราะหลังจากนั้นคือการพยายามตามจับตัวจู๋หลงที่หลุดรอดเงื้อมมือไปได้ตลอดและการที่แมวตาบอดไล่จับหนูแบบนี้มันก็ลุ้นระทึกดีมาก

          สำหรับเนื้อหาในเล่มแรกมันเหมือนจบไปครึ่งหนึ่งของเรื่องหลัก แต่อันที่จริงส่วนตัวเรามองว่ามันก็จบในตัวนะ ไม่ค้างคาอะไร พอไปขึ้นเล่มสองก็มีปัญหาใหม่แทรกเข้ามา แต่เป้าหมายหลักของสวินสวี่ก็ยังคงเป็นการพยายามกระชากหน้ากากจู๋หลงอยู่ดี แถมไทม์ไลน์จะขยับไปอีกหลายปี เรียกได้ว่าถ้าสวินสวี่จับจู๋หลงไม่ได้ก็คงตายตาไม่หลับ เพราะงั้นก็ต้องมาเอาใจช่วยเค้ากันหน่อย 5555

          แต่ครั้งนี้โชคดีตรงที่สวินสวี่ได้ผู้ช่วยมาใหม่คือ เฉินกง ซึ่งคนคนนี้เปิดฉากตั้งแต่เล่มแรกแล้ว เป็นจารชนแคว้นสู่ที่แฝงตัวอยู่ในแคว้นเว่ย แต่ถูกพูดถึงไม่มากเท่าไหร่ในเล่มแรก มามีบทบาทเยอะหน่อยในเล่มสองเพราะจวนตัวกำลังจะถูกจับได้เลยรีบกลับมาแคว้นสู่และแท็กทีมกับสวินสวี่ควานหาตัวจู๋หลง

          ส่วนตัวชอบเล่มสองมากกว่าเล่มแรกเพราะเฉินกงนี่แหละ สวินสวี่ก็ฉลาดอยู่แล้วนะ เป็นคนรอบคอบด้วย แต่เหมือนยังขาดมือดีเข้ามาช่วยเหลือ พอมีเฉินกงที่เคยรับมือกับอะไรพวกนี้มาช่วยด้วยอีกแรงจึงเป็นคู่ดูโอ้ที่น่ากลัวมาก

          พูดถึงสามก๊กเราจะนึกถึงเรื่องสงคราม การฆ่าฟัน นิยายที่เขียนอิงจากสามก๊กก็จะเขียนไปแนวๆ นี้เหมือนกัน แต่น่าสนใจตรงที่เรื่องนี้เน้นการฆ่าฟันทางปัญญา การวิ่งไล่จับ การวางแผนซ้อนแผน และที่น่าติดตามคือสวินสวี่จะกระชากหน้ากากจู๋หลงได้มั้ย

          ยังมีตัวละคนหลักในสามก๊กโผล่มาทำให้ดูอินดูเรียลไปอีก (อย่างเช่นขงเบ้ง แล้วก็มีฉากที่เล่าปี่สั่งเสียก่อนตายด้วย) เพราะงั้นใครที่เคยอ่นสามก๊กน่าจะชอบได้ไม่ยาก แต่คนที่ไม่เคยอ่านอาจต้องพยายามตั้งสติหน่อยในช่วงแรกๆ แต่ถ้าหลุดจากช่วงนั้นมาได้แล้วก็สบาย ไหลไปได้อีกเรื่อยๆ

          อันนี้เสริมหน่อย คือเมื่อคืนเพิ่งไปเห็นว่าเรื่องนี้ถูกสร้างเป็นซีรีส์ด้วย (The Wind Blows From Longxi) เริ่มฉาย 27 เมษายนนี้ (หรือก็คือพรุ่งนี้แล้ว เพราะวันที่เขียนรีวิวนี้คือวันที่ 26 เมษายน) ทาง iQiyi เห็นชื่อนักแสดงแล้วฟอร์มยักษ์แน่ๆ ทั้งเฉินคุน (aka คุณความรักของหนู~) ไป๋อวี่ แองเจลาเบบี้ ซุนอี๋ น่าดูมาก เอาเป็นว่านิยายก็ออกมาได้ทันเวลาพอดีเหมือนกันแฮะ 5555

twitter : @malavitabb