เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว ปาฏิหาริย์ร้านอาหารเทพเจ้า
  • ปาฏิหาริย์ร้านอาหารเทพเจ้า
    ผู้เขียน : นากามุระ ซัตสึกิ
    ผู้แปล : ชุติภัค ฉายวิโรจน์
    NB LITE
    เล่มเดียวจบ


              เป็นอีกหนึ่งเล่มที่มีโอกาสได้สอยมาช่วงงานหนังสือ เป็นเล่มที่ซื้อมาแบบที่ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น คิดแค่ว่าอยากซื้อหนังสือเพิ่มอีกสักเล่มสองเล่มจังเลยนะ เท่านั้นเอง

              พอดีไปเจอเข้ากับเล่มนี้ รู้สึกว่าถูกปกสะดุดตาเข้าอย่างแรง ตอนแรกยังคิดว่านิยาย BL ด้วยซ้ำไป (5555) แต่มันไม่ใช่นะ หนังสือเล่มนี้เป็นแนวอาหาร มีการพูดถึงอาหาร การทำอาหาร ผสานไปกับความทรงจำของผู้คนที่มีต่ออาหารแต่ละจานที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมา

              เราไม่คุ้นเคยกับหนังสือแนวอาหารเท่าไหร่ ที่ซื้อก็เพราะปกอย่างเดียวเลยจริงๆ แต่พออ่านแล้วรู้สึกโกรธหน่อยๆ เพราะเอาอาหารมาล่อกันตั้งแต่หน้าแรกของเรื่องเลย เห็นใจคนหิวด้วย ฮึ...

              จากนั้นนิยายเรื่องนี้จะเล่าย้อนความกลับไป ว่าเพราะเหตุผลอะไร ตัวละครหลักอย่าง โคซากะ เท็ตสึชิ ถึงกำลังทำอาหารอยู่

              เรื่องราวมันเริ่มต้นที่สองสามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารชุดเทชิโอยะ ได้ด่วนจากไปกะทันหัน ทำให้น้องสาวอย่าง ชิโฮะ ตัดสินใจว่าจะดูแลร้านนี้ต่อไป และอยากให้เท็ตสึชิผู้เป็นพี่ชายมาช่วยอีกแรง พี่ชายที่อยู่ในระหว่าง 'พักงาน' จึงตกปากช่วยเหลือน้องสาว แม้ว่าตัวเองจะทำอาหารไม่เป็นเลยก็ตาม

              และเพราะแบบนี้นับตั้งแต่ที่ชิโฮะสืบทอดร้าน เธอก็มีเรื่องให้ต้องบ่นพี่ชายไม่เว้นแต่ละวัน เรื่องที่ทำให้ฉุนกึ๊กของวันนี้คือพี่ชายตัวดีดันจัดการกับกะหล่ำปลีฝอยที่ใช้ตกแต่งชุดข้าวไก่ทอดนัมบังได้ย่ำแย่อย่างถึงที่สุด พอถูกน้องสาววีน พี่ชายเลยหนีไปนั่งที่ศาลเจ้าใกล้ร้าน จากนั้นก็พลั้งปากเอ่ยขอพรกับเทพเจ้าในศาลเจ้าไปว่า "อยากให้มีคนสอนทำอาหารให้จังเลย แบบที่มีรุ่นพี่ตามสิงร่างคอยชี้แนะ..."

              ใครจะไปรู้ว่าเทพเจ้าดันตอบรับคำขอนั้น "ได้เลย"

              เทพเจ้าได้ส่งวิญญาณมาให้เพื่อสิงร่างเท็ตสึชิ จากนั้นวิญญาณก็จะลงมือช่วยทำอาหารแและชี้แนะเทคนิคต่างๆ ให้ โดยสิ่งแลกเปลี่ยนคือให้วิญญาณที่ว่านั้นได้ทำตามความปรารถนาของตน ซึ่งก็หนีไม่พ้นการได้ทำอาหารให้กับใครสักคนหนึ่งได้กิน

              จากนั้นจึงกลายมาเป็นเรื่องราวของคนและวิญญาณที่เชื่อมโยงกันไว้ด้วยรสชาติอาหารของแต่ละเมนู

    จานที่หนึ่ง ไก่ทอดนัมบัง โดยวิญญาณคุณแม่ผู้เปี่ยมด้วยความห่วงใย
    จานที่สอง ข้าวหน้าไข่เท็มปุระ โดยวิญญาณพ่อครัวดังจอมดุ
    จานที่สาม ซุปมิโสะหมูใส่เครื่องแน่นๆ โดยวิญญาณแม่สามีตระกูลใหญ่สุดซึน
    จานที่สี่ ข้าวห่อไข่สไตล์ฝรั่งเศส โดยวิญญาณหนุ่มเมืองน้ำหอมผู้คลั่งภรรยา
    จานที่ห้า ไก่ทอดคาราอาเกะ เมนูเด็ดร้าน "เทชิโอยะ" โดยคนสองคนที่รักเท็ตสึชิและชิโฮะที่สุด
    บทส่งท้าย โอเด้งร้อนๆ เรื่องราวในมุมของชิโฮะ

              ใช่ค่ะ อ่านแล้วหิวมาก แต่มันทรมานตรงที่ของที่กินก็ไม่ได้กิน ยังต้องมานั่งเสียทิชชู่ไปเป็นกองๆ อีกต่างหาก บอกเลยว่าเรื่องนี้มีครบรสจริงๆ ทั้งมุกตลกและเรื่องเล่าเคล้าน้ำตา เพราะวิญญาณแต่ละดวงก็มีห่วงและมีความต้องการแตกต่างกันไป ตอนที่อ่านก็จะแบบยิ้มๆ จากนั้นก็ร้องไห้เป็นเผาเต่า แล้วก็ยิ้มอีก แล้วก็ร้องอีก สลับไปสลับมา หนำซ้ำท้องก็ยังหิวด้วย ทรมานมากๆ

    นี่คือฉันหลังอ่านจบและหาอะไรใส่ท้องได้แล้ว
              แต่ที่เราอ่านแล้วรู้สึกได้คือรวมๆ แล้วมันคือการพูดถึงความห่วงใยของทั้งคนที่จากไปแล้วและคนที่ยังมีชีวิตอยู่และต้องทุกข์ทรมานเพราะการจากไปของคนๆ นั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องเศร้าในทางที่ไม่ดี เพราะสุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายต่างก็หมดห่วง ได้ปลดเปลื้องสิ่งที่อยู่ในใจผ่านเมนูที่ได้กินในร้านเทชิโอยะ

              หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในม้ามืดของกองหนังสือที่เราซื้อมาช่วงงานหนังสือเลยมั้ง คือไม่คิดว่ามันจะสนุกขนาดนี้ เราอ่านรวดเดียวจบเพราะเล่มไม่หนามาก 200 กว่าหน้าเท่านั้นเอง

              เอาเป็นว่าช่วงนี้ถ้าอยากซื้อหนังสือแต่ไม่รู้จะซื้ออะไรก็ลองซื้อเล่มนี้มาอ่านกันได้นะคะ พรุ่งนี้ (06.04) งานหนังสือที่สถานีกลางบางซื่อจัดเป็นวันสุดท้ายแล้ว แวะไปซื้อกันได้ที่บูธเนชั่น A23 โซนหนังสือทั่วไป (ออกจาก MRT ขึ้นบันไดเลื่อนมาปุ๊บก็เจอเลยค่ะ บูธอยู่ด้านขวามือ) เราซื้อมาก็ได้ราคาลดจากปกด้วย เหลือ 251 หรือยังไงไม่แน่ใจ จำได้แค่ว่ามีเศษ 1 บาท 55555

              หรือสายออนไลน์ก็กดสั่งได้ที่ nejavu.com ค่ะ ลดราคาจากปกเหมือนกันแต่อันนี้เสียค่าส่ง 555 (ถ้าจำไม่ผิดเหมือนพี่ ned มีแอพส้มนะ น่าจะลงสินค้าในนั้น ใช้โค้ดร่วมได้จะถูกลงกว่าเดิมค่ะ ชี้เป้าๆ)

              เอาเป็นว่าต้องขอจบเพียงเท่านี้ ตอนนี้นอกจากไก่ทอดนัมบังก็อยากกินเท็มปุระมากๆ เลยล่ะค่ะฮืออออหิวววว

    Best Quote : หากจะพูดจาอวดดีสักหน่อย...หัวใจของการทำอาหาร ก็คือความห่วงใยนั่นเอง


    contact me
    twitter : @malavitabb


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in