เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว 兽丛之刀 ศัสตราอสูร เล่ม 1
  • 兽丛之刀 ศัสตราอสูร เล่ม 1
    ผู้เขียน : Priest (พีต้า)
    ผู้แปล : 林起零 (หลินฉี่หลิง)
    FIN Publishing
    3 เล่มจบ


              น้องฉางอันส่งเลทไปเล็กน้อยจากกำหนดการเดิม มี๊ก็ตั้งใจรอแบบใจจดใจจ่อ พอน้องฉางอันมาถึงบ้านปุ๊บ มี๊ก็รีบยลโฉมลูกคนใหม่ทันที

              ตอนที่อ่านตัวอย่างที่ลงให้ก็คิดๆ อยู่ว่าตัวละครเอกอย่างฉางอันน่าจะให้ความรู้สึกน้องๆ ดีนะ แต่อ่านไปอ่านมานี่มันฟิลเตอร์โพลูกแล้ว!! ลูกนุ้บนิ้บมาก หัวใจมี๊บอบบางอยากจับลูกมานอนเปลเห่กล่อมในทันใด

              ศัสตราอสูร เป็นนิยายของคุณพีต้า ตัวแม่อีกคนของวงการนิยายวายจีนที่บางคนก็บอกอ่านยาก บางคนก็แฟนคลับเลย ตอนแรกเราอ่านนิยายพีต้าไม่รอดเหมือนกัน แต่ว่าปลดล็อกหนึ่งครั้ง=ปลดล็อกตลอดไป อ่านรอดเฉย 5555

              เรื่องราวใน ศัสตราอสูร พูดถึงโลกที่มีมนุษย์สัตว์เป็นเซ็ตติ้ง แต่ก็มีทั้งมนุษย์สัตว์ระดับสูงระดับล่าง แบ่งแยกชนชั้นชัดเจนไปอีก ฉางอัน เป็นเด็กน้อยที่เกิดมาเป็นมนุษย์สัตว์ระดับล่าง ร่างกายจะเล็กกว่ามนุษย์สัตว์ทั่วไป เรี่ยวแรงไม่ค่อยจะมี แปลงร่างก็ไม่ได้ เกิดมาได้ไม่กี่วันหมู่บ้านก็ถูกกวาดล้าง โชคดีที่ในตอนนั้นได้ เจ๋อเหยียน มนุษย์สัตว์ระดับล่างพาหนีรอดออกมาได้

              เจ๋อเหยียนผู้เสียแขนไปหนึ่งข้าง พาเด็กทารกขี้โรคระหกระเหเร่ร่อนไปเรื่อย ตอนที่คิดว่าใกล้ตายกลับได้เด็กชายที่เป็นมนุษย์สัตว์ลวดลายอสูรสีเงินที่ยากจะพานพบคนหนึ่งล่าสัตว์เอามาให้กินประทังชีวิต เจ๋อเหยียนจดจำบุญคุณเด็กคนนั้นไว้ตลอดมา พอฉางอันเริ่มรู้ความเจ๋อเหยียนก็ปลูกฝังความคิดที่ว่าวันข้างหน้าต้องทดแทนบุญคุณคนคนนี้ให้ได้

              เด็กชายที่เจ๋อเหยียนพูดถึงคือ หวาอี๋ ถือกำเนิดในเผ่าที่แข็งแกร่ง ตัวเองก็เป็นมนุษย์สัตว์ที่มีวรยุทธ์สูงส่งหาตัวจับยากแต่กลับใจดีจนโง่งม เป็นเหมือนลูกแกะโง่เขลาอีกทั้งยังไม่สนใจเรื่องตำแหน่งผู้สืบทอดในเผ่า แต่ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งถูกตลบหลังโดยพี่รองของตัวเอง สุดท้ายหวาอี๋ต้องผลัดถิ่น หนีตายเพื่อเอาชีวิตรอด เด็กน้อยโง่งมในวันวานถูกความโหดร้ายของโลกใบนี้หล่อหลอมให้กลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและความโหดเหี้ยมนาม "แขกมรณะเขี้ยวเงิน"

              ทางด้านฉางอันเองเติบโตมาในเผ่าที่เจ๋อเหยียนพาไปลงหลักปักฐาน แต่มนุษย์สัตว์ระดับล่างทำอะไรได้ไม่มากสุดท้ายเจ๋อเหยียนก็ต้องขายร่างกายเอาชีวิตรอดไปวันๆ ส่วนฉางอันต้องไปฝึกงานกับช่างไม้ที่คุ้มดีคุ้มร้ายแต่เจ้าตัวกลับชอบการฝึกดาบ มักจะแอบไปดูคนฝึกดาบบ่อยๆ ทำให้วันหนึ่งได้เจอกับคนประหลาดนามว่า เป่ยซื่อ ที่สอนท่าดาบให้กับเขา

              ชีวิตฉางอันถึงจุดเปลี่ยนในวันที่เจ๋อเหยียนสิ้นลมหายใจ ทำให้เขาในวัยเจ็ดขวบตัดสินใจขึ้นเขาไปตามหาเป่ยซื่อ เมื่อกาลเวลาผ่านไป ทั้งฉางอันและหวาอี๋ก็ได้โคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง และกลายเป็นการร่วมมือกันเพื่อให้ได้มาซึ่งที่พักพิงอันมั่นคง หนึ่งในก้าวสำคัญของการล้างแค้นของหวาอี๋

              หลักๆ จะพูดประมาณนี้ค่ะเพราะเดี๋ยวจะไปสปอยล์เนื้อหาช่วงครึ่งเล่มหลังเพราะคิดว่าช่วงครึ่งเล่มหลังของเล่มแรกสนุกมาก ครึ่งแล่มแรกจะเป็นการปูพื้นตัวละครฉางอันและหวาอี๋ว่าทั้งสองคนเจอช่วงชีวิตที่โหดร้ายยังไงมาบ้าง ทางด้านฉางอันนั้นเพราะสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้วหัวใจแม่เลยอ่านไปช้ำใจไปช่วงที่น้องขึ้นเขาตามหาเป่ยซื่อ ไหนจะช่วงฝึกวิชาอีก แต่ฉางอันเป็นเด็กประหลาดที่แทบจะไม่แสดงสีหน้า ร้องไห้ก็ไม่เป็น เวลาทำอะไรกลับไม่หลุดโฟกัสเลย เรียกว่าเกินเด็กไปมาก หัวใจแม่อ่อนยวบ

              จนกระทั่งลงเขามาเจอหวาอี๋ คนกร้านโลกกับชาวป่าไม่เคยเห็นโลกมาเจอกัน มันเลยจะมี conversation ตลกๆ เกิดขึ้นเยอะเลย ไอ้เราก็มักจะขำเสมอเวลาที่หวาอี๋อธิบายเรื่องบางเรื่องให้ฉางอันฟัง ฉางอันก็ตั้งใจฟังมากๆ พร้อมตั้งคำถามแปลกๆ ที่ชวนให้คนจนมุมเวลาตอบเสมอ อย่างเช่นคนจะใช้เงินไปทำไม เป่ยซื่ออยู่บนเขาเงินก็ไม่ต้องใช้ยังมีความสุขได้เลย หรือเทพเจ้าเชิญแล้วไม่เห็นมา นี่หมายความว่าเทพเจ้ากากหรือเปล่า แล้วเราจะบูชาไปทำไม 5555 คือมันเหมือนมองจากมุมของเด็กคนหนึ่งที่มีความคิดโคตรเรียบง่ายเป็นเจ้าหนูจำไมแต่เราก็แบบเออ คิดตามนะ แล้วความถามหน้าเรียบๆ มันเลยตลกมากอ่ะ

              ส่วนพี่หวาอี๋เองเล่มแรกก็จะได้เห็นเขาอยู่ในจุดสูงสุด จุดต่ำสุด แล้วก็ค่อยๆ ปีนขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้งแบบล้มลุกคลุกคลาน ชีวิตที่ผ่านมาหลายปีของเขาเหมือนตั้งหน้าตั้งตาทำแต่เรื่องอันตรายเพื่อแลกกับทรัพยากรต่างๆ จนลืมไปแล้วว่าความสุขคืออะไร กระทั่งได้มาเจอกับฉางอันนี่แหละที่ทำให้เขาหวนคิดถึงช่วงเวลาที่เคยมีความสุข และใช่ค่ะ อีตาพระเอกก็เริ่มจะใจเต้นกะลูกเราแล้ว แต่ลูกเรายังเป็นเด็กน้อยในอ้อมอกคุณแม่ ไม่ประสีประสาเรื่องพรรค์นี้หรอก ก็พยายามหน่อยนะอี๋เกอ

              ตัวละครที่ชอบอีกตัวคือเป่ยซื่อที่เป็นอาจารย์ บอกไม่ถูกว่าชอบหรือชังเพราะคิดว่าฉางอันอยู่กับคนประหลาดพรรค์นี้นิสัยเลยเพี้ยนๆ ไปหรือเปล่านะ 5555 แต่ก็ทำให้น้องมีภูมิคุ้มกันคนประหลาดได้ดีในระดับหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าโชคดีแล้วที่ฉางอันได้ใช้เวลาหลายปีต่อจากนั้นกับเป่ยซื่อ และเป่ยซื่อก็เลี้ยงฉางอันจนโตมาได้ (แต่เดี๋ยวหลังจากนี้มี๊จะเลี้ยงต่อเองค่ะ ขอบคุณ)

              อีกตัวที่เรียกได้ว่าเป็นสีสันมากๆ และคิดว่าหลายคนน่าจะชอบคือ สั่วหลายมู่ หนึ่งในสหายไม่กี่คนที่หวาอี๋มี คนคนนี้เป็นมนุษย์สัตว์ระดับล่างชอบแต่งตัวพิลึกกึกกือแถมยังเป็นพวกคลั่งเทพเจ้า บูชาทุกสิ่งอย่าง เป็นสายมูที่แท้จริง แต่เห็นงี้คือเป็นแขกมรณะอาวุโสผู้รอบรู้ เป็นซือแป๋ประจำตัวพี่หวาอี๋เลย ไม่รู้ในเล่มถัดๆ ไปจะได้เห็นพี่แกโชว์เทพมั้ยเพราะเล่มนี้มีแต่ความตลกโปกฮา เป็นสีสันหนึ่งของช่วงครึ่งหลังของเล่มจริงๆ

              เรื่องรูปเล่มสวยดี สวยมาก น้องฉางอันของมี๊สวยมากๆๆๆๆ ง้าวที่ถือยาวกว่าตัวเร้กๆ ของหนูอีกลูกกก พรีเมี่ยมก็น่ารักมากค่ะ เรื่องคำผิดมีเห็นประปรายนะ ส่วนการแปลก็ถือว่าโอเคแต่เราว่ามันยังมีหลายๆ ประโยคที่แปลแล้วอ่านงงๆ อ่านซ้ำๆ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจแต่ในภาพรวมก็ถือว่าได้แหละ

              ถามว่าจบค้างมั้ย สำหรับเราคือค้าง เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เชื่อมต่อกัน แบบว่าจะอ้าขาวิ่งละนะ แต่ข้าไปวิ่งต่อเล่มสองแทนไรงี้ แล้วแต่คนนะคะว่าจะลุยอ่านเลยหรือจะดองไว้ก่อน

    contact me
    twitter : @malavitabb




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in