สลักรักที่กลางใจ
ผู้เขียน : ปู๋เวิ่นซานจิ่ว
ผู้แปล : เหอมู่
Iris Book
เล่มเดียวจบ


          ตัดสินใจซื้อมาเพราะปกสวยตะลึง โปสการ์ดที่แถมให้ก็อลังการ ที่สำคัญคือเป็นแนวแบบที่เราชอบมากพอดี

          ไม่รู้ว่าไม่ค่อยถูกโปรโมทหรือว่ายังไง แต่รู้สึกเหมือนเรื่องนี้ไม่ค่อยมีกระแสเท่าที่ควรทั้งที่ความจริงแล้วเราว่ามันดีมากกกก ใครที่ชอบแนวอบอุ่นหัวใจ จีบกันสไตล์ผู้ใหญ่ ตัวเอกไม่น่ารำคาญนี่น่าจะชอบเรื่องนี้เลยนะ ทำไงดีล่ะ อยากให้แมสมาก 55555

          สำหรับ สลักรักที่กลางใจ เป็นนิยายวายเล่มเดียวจบที่หนาเอาการ เนื้อเรื่องพูดถึง เซียวเค่อ อาจารย์หนุ่มมหาวิทยาลัยที่เฮิร์ทจากการต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบกันมานานถึง 5 ปี ในวันเกิดอายุครบ 30 ปีของเขา เซียวเค่อตัดสินใจไปนั่งดื่มเหงาๆ ที่บาร์ประจำของตัวเอง และในวันนั้นเขาได้พบกับ โจวจุ้ย ช่างสักหนุ่มผู้เงียบขรึมวัย 35 ปี ท่าทีเฉยชาทว่าตรงสเป็คเซียวเค่อเข้าอย่างจัง

          และเมื่อรู้สึกชอบแล้ว อาจารย์เซียวมีหรือจะปล่อยอีกฝ่ายไป ถึงจะไม่ได้จีบใครเพื่อบริหารเสน่ห์ตัวเองมานาน ครั้งนี้ต้องงัดวิชามาใช้อีกครั้ง แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาท้อใจเลยสักนิด

          แม้กระทั่งว่าโจวจุ้ยคนนั้นมีปราการหัวใจสูงลิบลิ่ว ใช่ว่าจะสามารถจีบให้ติดได้ง่ายๆ แต่คนอย่าง เซียวสุดหล่อ ไม่เคยจีบใครไม่ติด แถมถ้าจีบติดง่ายๆ ไม่ใช่ว่าจะน่าเบื่อเกินไปหรือ

          ดังนั้นอาจารย์เซียวของเราจึงเดินหน้าจีบช่างสักคนนี้อย่างสุดความสามารถ แม้อีกฝ่ายจะมีอดีตดำมืดที่คอยผลักดันให้เจ้าตัวไม่อยากริเริ่มมีความรักขนาดไหน อาจารย์เซียวคนนี้ก็จะผ่านมันไปให้ได้เอง!

          ฟังดูยิ่งใหญ่ ความจริงมันก็เป็นเนื้อหาการพยายามจีบคนของหนุ่มหล่อวัย 30 ปีนั่นแหละค่ะ 5555 แต่ว่าการจีบครั้งนี้มันน่าสนใจตรงที่ 1. เป็นการจีบแบบผู้ใหญ่ และ 2. เป้าหมายของอาจารย์เซียวมีปราการหัวใจหนาปึก

          แต่เอาเข้าจริงนะ โจวจุ้ยก็ไม่ได้มีปราการหนาอะไรขนาดนั้นหรอก เจอลูกจีบคุณชายเซียวไปหน่อยก็อ่อนระทวยไปหมดแล้ว 55555

          เราชอบตรงที่เนื้อหามันไม่ได้ดูทำให้คนอึดอัดใจอ่ะ ปกติเราไม่ค่อยชอบเรื่องราวการพยายามตามตื๊อจีบของตัวเอกเท่าไหร่ เพราะส่วนตัวเวลาเราเจออะไรแบบนี้เรามักจะรู้สึกอึดอัดเสมอ แต่ว่าเซียวเค่อเป็นผู้ชายที่รู้ว่าจังหวะไหนควรรุก จังหวะไหนควรถอย เขาหน้าตาดี มีมารยาท ไม่ได้ตื๊อจนน่ารำคาญ แค่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายๆ ค่อยๆ เอาตัวเองเข้าไปในโลกของเขา จนกระทั่งตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งในโลกใบนั้นอย่างไม่สามารถขาดไปได้แค่นั้นเอง

          อีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบคือเซียวเค่อเคยมีคนรักที่รักมากอย่าง หลินอัน คบมานานตั้ง 5 ปี แต่สุดท้ายต้องเลิกกันด้วยปัญหาที่ทางบ้านของหลินอันอยากให้เขาแต่งงาน และแทนที่จะเสียใจฟูมฟายเสียดายความรักและเวลาที่ทุ่มเทไป เซียวเค่อกลับมูฟออนได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าเขาเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองจมปลักอยู่กับมันเนิ่นนานจนกินเวลาชีวิต

          พอได้มาเจอโจวจุ้ย พอรู้ว่าตัวเองชอบก็เดินหน้าทันที ดูเป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยให้เวลาชีวิตเสียเปล่ามากๆ และเขาก็ชื่นชอบในการพยายามสังเกตสังกาสีหน้าและอารมณ์ของช่างสักวัย 35 คนนี้เสียเหลือเกิน

          ฝ่ายโจวจุ้ยเขามีอดีตบางอย่างที่จะไม่ขอสปอยล์ อันที่จริงจะเรียกว่าหนักก็หนัก แต่ถ้าลองคิดดีๆ ก็ไม่ใช่ความผิดของเขาสักนิด (แต่ว่ามันก็มีบางคนที่ trigger กับสถานการณ์แบบนี้อยู่เหมือนกัน) และเพราะแบบนั้นโจวจุ้ยเลยปิดกั้นตัวเองไม่ยอมมองหาความสัมพันธ์ครั้งใหม่ เขาเหมือนหมาแก่โสดๆ ตัวหนึ่งที่เพื่อนๆ มองว่าหนีไม่พ้นต้องแก่ตายอย่างโดดเดี่ยว แต่แล้ววันหนึ่งเซียวเค่อก็เข้ามาในชีวิต

          โจวจุ้ยเปิดสตูดิโอสักชื่อดัง ไม่สนใจเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่สนใจชื่อเสียง ก็แค่ทำงานของตัวเองไปเรื่อยๆ มีลูกศิษย์คนหนึ่งชื่อ ลู่เสียวเป่ย เป็นเด็กน้อยที่ตามติดเขามานานหลายสิบปี นิสัยก็คลับคล้ายกันแต่ว่าพูดเก่งด่าเก่งกว่าคนเป็นอาจารย์มากโข

          เซียวเค่อเองก็รู้ดีว่าจะจีบทั้งทีก็ต้องเข้าหาคนรอบข้างของเป้าหมายด้วย เขาเทียวไปร้านสักบ่อยๆ จนสนิทกับทั้งลู่เสียวเป่ยและคนอื่นๆ ในร้าน ไม่ได้พยายามเข้าไปพูดคุยกับโจวจุ้ยมากเกินไป แต่พยายามโผล่หน้าไปให้เห็นจนคนรอบข้างโจวจุ้ยรู้สึกสนิทสนมกับเขา ต่อให้ไม่ได้โผล่หน้าไปที่ร้านสัก ก็สั่งดอกไม้ไปส่งให้ที่ร้านทุกวันจนลู่เสียวเป่ยเรียกเขาว่า เทพดอกไม้

          นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเพื่อนๆ ของโจวจุ้ยที่ชื่นชอบลักษณะนิสัยของเซียวเค่อมาก ทุกคนรอบกายโจวจุ้ยล้วนแล้วแต่รู้สึกขอบคุณเซียวเค่อที่โผล่เข้ามาในชีวิตเหงาๆ ของคุณลุงช่างสักคนนี้ แก๊งเพื่อนของโจวจุ้ยน่ารักมากจริงๆ อ่านแล้วยังรู้สึกอยากมีเพื่อนแบบนี้บ้างเลย

          ตอนที่โจวจุ้ยเริ่มเปิดใจและตัดสินใจดำเนินความสัมพันธ์คลุมเคลือแบบที่เรารู้กันสองคนกับเซียวเค่อ เขาก็ดูเป็นมนุษย์มนามากขึ้น แต่การปรากฏตัวของ ถังย่าเหวย ก็ทำให้เซียวเค่อเริ่มอยากรู้เรื่องราวในอดีตของโจวจุ้ยมากขึ้น แต่เขาไม่ได้ถาม เพียงแค่รอให้อีกฝ่ายพร้อมที่จะบอกเขาเท่านั้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม

          กระทั่งทั้งสองอยากรู้สึกทำความสัมพันธ์ครั้งนี้ให้เคลียร์ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ จะคบก็คบเลยเหอะ โจวจุ้ยจึงได้บอกเล่าอดีตดำมืดของตัวเองออกไปให้เซียวเค่อฟัง สิ่งนั้นทำให้เซียวเค่อสับสนเพราะบางอย่างก็ขัดต่อหลักการที่เขายึดมั่น แต่ว่านั่นแหละ...ในเมื่ออาจารย์เซียวรักโจวจุ้ยเข้าแล้ว จะยกให้เป็น the only exception ก็ไม่แปลก

          ส่วนตัวเรารู้สึกว่าการคงอยู่ของคนเป็นน่ากลัวกว่าคนตาย คนตายไม่สามารถทำอะไรได้อีก เราเชื่อแบบนี้มาโดยตลอด แรกๆ จึงยังไม่เข้าใจต่อความกังวลของเซียวเค่อนัก แต่จนหนังสือเล่าไปถึงการปรับตัวเข้าหากันในช่วงที่เซียวเค่อคบกับโจวจุ้ยแล้ว มันแสดงให้เห็นว่าบุคคลที่สามสามารถทิ้ง disorder บางอย่างไว้ให้โจวจุ้ยจนเขาต้องใช้ชีวิตให้ผ่านไปในแต่ละวันอย่างลำบากยากเย็น เราก็ต้องเลิกคิ้วจุปากในใจว่าแม่งเชี่ยจัง การกระทำแบบนี้คือใจร้ายมากจริงๆ

          แต่นั่นแหละ มีอาจารย์เซียวซะอย่าง เซียวเค่อจะอยู่ข้างๆ คุณเอง!

          อ่านจบก็คืออิ่มเอมใจมาก มาคิดได้ตอนใกล้จะจบว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราอ่านนิยายที่ตัวเอกเป็นช่างสัก รู้สึกแปลกๆ ดีเหมือนกันเพราะบางอย่างก็เปิดโลกดี จากใจคนไม่เคยคลุกคลีกับวงการสักร่างหาย แหะๆ

          ที่สำคัญคือนิยายมันถูกจริตเรามาก เราชอบความค่อยๆ ตามจีบ ค่อยๆ โปรยเสน่ห์ใส่ ทำทุกอย่างอย่างไม่รีบร้อน รู้จักถอยรู้จักรุก เมื่อสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างแล้วก็ไม่ยอมไปไหนจริงๆ เป็นความรักแบบผู้ใหญ่ที่ต่อให้มีเรื่องให้ขุ่นเคืองใจกันก็หันหน้าปรับความเข้าใจกันเสมอ

          อีกอย่างคือ...คบกับคนมีอายุมันก็แซ่บๆ นะ 5555 ถึงแม้ว่าโจวจุ้ยออกจะทื่อๆ ไปบ้างในเรื่องความรัก แต่อย่าให้คนแก่มีอารมณ์โรแมนติกเชียว เพราะเรารับไม่ไหวหรอก เดี๋ยวจูบเดี๋ยวอ้อน งงไปหมด พ่อบ้านกลัวเมียนี่หว่า (บอกตรงนี้ว่า nc ตัดเข้าโคมนะคะ แอบเสียดายเพราะถ้าบรรยายคงแซ่บ แต่ว่าแหม เขารักกันขนาดนั้น ต่อให้ไม่มี nc ก็แซ่บอยู่แล้วเนอะ)

          เราชอบช่วงตอนจบของเรื่องที่โจวจุ้ยเปรียบเทียบการสักกับความรู้สึกที่ต้องแบกรับรอยสักนั้นตลอดไป ชอบการที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเดินมาจนถึงการแบกรับซึ่งกันและกัน จบได้ในแบบที่เหมาะสมดี

          อ้อ เรื่องนี้มีสองคู่นะ แต่ว่าคู่สองบทน้อยมากกก มีเมนชั่นมาให้เราแอบเดากันช่วงครึ่งเล่มหลัง แล้วไปขยายเรื่องราวของทั้งคู่เพิ่มเติมในตอนพิเศษ ไม่บอกว่าเป็นใคร แต่เราชอบตัวละครนี้มากเลย เป็นตัวละครที่โดนคนเขย่าหัวมาทั้งเรื่อง สุดท้ายเจ้าตัวก็สามารถหาใครสักคนมาเขย่าหัวเล่นบ้างในท้ายที่สุด 5555 เอ็นดูวววว

          ในส่วนนี้มีเนื้อหาอัดอั้นตันใจที่อยากพูดมาก แต่คิดว่าจะคลุมดำเอาไว้เพราะมันถือเป็นการสปอยล์เนื้อหาสำคัญ (หรือเปล่า?) แต่คือมันเป็น fact ที่ทำเอาเราช็อกเล็กน้อย (ช็อกในทางที่ดีนะคะ 5555) อยากระบายมันออกมามากแต่ไม่รู้จะทำยังไงดี ใครอยากอ่านคลุมดำอ่านนะ