เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว เงาเพลิงสะท้านปฐพี เล่ม 1-8
  • เงาเพลิงสะท้านปฐพี เล่ม 1-8

    ผู้เขียน: เอ๋อเหมย
    ผู้แปล: อวี้
    แจ่มใส มากกว่ารัก
    8 เล่มจบ

    ADVERTISEMENT


    นิยายสายแฟนตาซีจัดจ้านที่อ่านแล้วติดงอมแงม


              ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นคนอ่านนิยายแนวแฟนตาซีเทพเซียนจ๋าไม่ได้มากนัก ได้แบบเบาๆ และแบบบางเรื่องเท่านั้น ตอนที่เงาเพลิงสะท้านปฐพีคลอดเล่ม 1 ออกมาก็เข้าไปอ่านตัวอย่างก่อน แต่จำได้ว่าขอบายเลยเพราะไม่ใช่แนวจริงๆ มันแฟนตาซีจ๋ามากจนคิดว่าน่าจะไม่เหมาะกับเรา

              อ่ะ ทีนี้คงจะสงสัยว่าแล้วทำไมวันนี้มารีวิว มันอยู่ตรงที่ว่าเราอ่านเรื่อง สยบฟ้าพิชิตปฐพี ค่ะ เป็นแนวกำลังภายในและมีความแฟนตาซีอยู่นิดๆ แปลไทยของแจ่มใสเหมือนกันแต่อยู่ในหมวดเอ็นเธอร์ แล้วทีนี้สยบฟ้าฯ ก็ทำซีรีส์ออกมา เราก็ตามดู แต่ซีรีส์ช่วงครึ่งเรื่องหลังเริ่มเละเทะออกทะเลไปไกลจนเราที่ตามหนังสือผิดหวังมาก ทีนี้ก็ไปเจอทวิตนึงที่พูดถึงเรื่องสยบฟ้าฯ กับเงาเพลิงฯ มาเทียบความพระ-นางกัน เราก็เลยสนใจว่าเอ๊ะ สายสัมพันธ์พระ-นางของเรื่องเงาเพลิงฯ มันเหมือนสยบฟ้าฯ เหรอ พอเมนชั่นถามว่าช่วยรีวิวเรื่องเงาเพลิงสะท้านปฐพีให้หน่อย อีกฝ่ายก็รีวิวมาสั้นๆ และเชียร์ให้อ่าน เราก็ลังเลแต่สุดท้ายก็หยิบมาอ่าน และ โอเค...ติด 5555

              เราอ่านเล่ม 1-7 แบบยิงยาวเลยค่ะ เป็นช่วงที่เล่ม 8 ซึ่งเป็นเล่มจบจะคลอดพอดี (18 ธันวา ที่ผ่านมา) อ่านเล่ม 7 จบสองวันก่อนถึงวันที่ 18 เราเลยอดใจรอเล่ม 8 แล้วหยิบมารีวิวทีเดียวเลย

              เงาเพลิงสะท้านปฐพี เป็นเรื่องราวของผู้ฝึกตนที่เราน่าจะคุ้นเคยกันกับใครที่อ่านงานแนวนี้คือบำเพ็ญตนเพื่อเป็นเซียน แต่ในระหว่างนี้กว่าจะเป็นเซียนได้มันก็จะมีลำดับขั้นต่างๆ นานา มีอุปสรรคมากมายกว่าจะสำเร็จ ขั้นสูงสุดคือขั้นมหายานซึ่งแน่นอนว่าใครบรรลุขั้นนี้ได้คือเทพในหมู่เทพแต่มันก็ยากมากกกก แต่นิยายเรื่องนี้มันพูดถึงคนวิปริตสองคนที่โผล่มาแล้วลำดับขั้นก้าวพรวดๆ ไม่เว้นช่องให้คนอื่นหายใจได้เลยคือพระ-นางอย่าง จูจู และ อิ่นจื่อจาง

              บทนำของเรื่องจะเป็นช่วงความฝันประหลาดของใครคนหนึ่ง ส่วนบทแรกของเรื่องจะเฉลยว่าเจ้าของฝันนั้นคือ จูจู นังหนูจูจูนี่เป็นเด็กบ้านๆ อายุสิบสามสิบสี่คนนึงที่หน้าตาธรรมด๊าธรรมดา (แต่ในหนังสือชอบเขียนให้คนอื่นพูดถึงจูจูว่า "อัปลักษณ์") ไม่ได้เป็นสาวใช้แต่ก็ไม่ต่างอะไรกันนักในสายตาคนอื่นเพราะจัดการดูแลเรื่องในบ้านให้กับ อิ่นจื่อจาง เจ้าหนุ่มอายุสิบเจ็ดสิบแปดคนหนึ่งที่หน้าตาดีหล่อเหลาตามประสาพระเอกแต่นิสัยคล้ายจะมีปัญหา

              อีตาอิ่นจื่อจางก็คือชอบปากเสีย เป็นคนโฉดในสายตาจูจูแถมยังชอบเรียกจูจูว่าหมูโง่ หมูโง่เง่า หมูทึ่ม สารพัดจะขุดมาเรียก (นางเอกไม่ได้อ้วนนะ แต่ จู แปลว่าหมู) อิ่นจื่อจางเนี่ยจะเข้าเป็นศิษย์ของสำนักเซิ่งจื้อ เป็นสำนักบำเพ็ญตนในชายขอบแล้วก็กระเตงจูจูไปด้วย เพราะหนึ่งปีก่อนยายของจูจูได้ฝากฝังจูจูไว้กับพี่อิ่นของเรา แต่เอาจริงก็คืออีตานี่มันชินที่จูจูคอยทำโน่นนี่ให้แถมยังชอบกินอาหารฝีมือจูจูด้วย เพราะงั้นเลยไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะพกจูจูเข้าสำนักไปด้วยกัน

              แต่ก็เหมือนๆ นิยายแนวนี้ทั่วไปคือถ้าจะเข้าสำนักก็ต้องทดสอบพลังธาตุกันก่อน ตัวพระเอกของเราคือเทพมากเพราะมีพลังธาตุเดี่ยวสายน้ำแข็งซึ่งหายากมากทำให้ได้เป็นศิษย์เอกของ โหยวเชียนเริ่น ปรมาจารย์ขั้นกำเนิดใหม่ของสำนัก ศิษย์ทุกคนของเขามีแต่อัจฉริยะ แต่ในทางกลับกันนั้นจูจูกลับไม่มีทั้งพลังธาตุ ไม่มีตบะ ไม่มีอะไรเลย มีแค่ชีพจรศิลาแข็งโดยกำเนิดทำให้ฝึกบำเพ็ญไม่ได้ แถมหน้าตาก็ไม่น่ามองทำให้คนอื่นชิงชังตามท้องเรื่อง แต่พี่พระเอกของเรายังไง๊ยังไงก็ต้องเอาจูจูไปด้วย! ดังนั้นจึงจูงมือเข้าสำนักไปโดยโนสนโนแคร์ใดๆ ทั้งสิ้น

              อาจารย์ท่านอื่นๆ ก็คิดแค่ว่าจูจูคือของไร้ประโยชน์ เอามาทำอะไรก็ไม่ได้ เข็นยังไงก็ไม่มีวันเข็นขึ้นเลยไม่มีใครเอา แต่ เจิ้งเฉวียน นักหลอมโอสถขั้นหกของสำนักกลับออกปากว่า "จูจูจะเก่งกว่าอิ่นจื่อจางเสียอีก คอยดูไปเรยยยย" แล้วก็รับจูจูเป็นศิษย์คนแรกท่ามกลางความตกใจของทุกคน

              จูจูคือทำอะไรไม่ได้จริงๆ ไม่มีความสามารถใดๆ ทั้งสิ้น จะขึ้นจะลงเขาก็เหนื่อยต้องขี่หลังอิ่นจื่อจางเอา ใครๆ ก็ดูถูกแถมอาจารย์ก็ดูเหมือนจะดีด้วยแค่วันแรก วันต่อๆ มากลับทำหน้าเหมือนจูจูไปฆ่าบิดาเขายังไงยังงั้น (ในส่วนนี้จะมีเฉลยตามมาอย่างรวดเร็ว) แต่ว่านางเอกอ่ะยังไงก็เป็นนางเอกไง (ทำเสียงแบบโอปอลล์) จูจูแม้จะธรรมดามากแต่กลับมีพรสวรรค์ด้านหลอมโอสถ รู้จักพืชพรรณทุกอย่างเป็นอย่างดี ต่อมาโดนคนเล่นงานตกเขาแต่ยังเอาชีวิตรอดมาได้แถมยังได้หมูมหัศจรรย์มาไว้ในมือ เป็นลูกหมูหน้าตาน่ารักน่าชังตัวอ้วนๆ กลมๆ ที่สำรอกลูกกลอนคุณสมบัติดีออกมาแถมยังพ่นไฟได้อีกต่างหาก

              คนอ่านโดนหมูตกไปแล้วหนึ่ง ต่อมาคือโดนศิษย์พี่ตก อย่างที่บอกไปว่าโหยวเชียนเริ่นอาจารย์ของอิ่นจื่อจางมีแต่ศิษย์อัจฉริยะ แต่ศิษย์ของเขากลับมีน้อย ด้วยเพราะคุมยอดเขาเดียวกับเจิ้งเฉวียน จูจูก็เหมือนเป็นศิษย์ของโหยวเชียนเริ่นไปด้วยอีกทาง ศิษย์พี่ของจูจูนอกจากอิ่นจื่อจางแล้ว หนังสือก็จะค่อยๆ คายศิษย์พี่คนอื่นๆ ออกมาซึ่งนิสัยไม่ปกติพอกันแต่สร้างสีสันให้หนังสือเล่มนี้ไปถึงตอนจบเลย ศิษย์พี่ใหญ่มีนามว่า ตี่ฉานซั่ง เป็นศิษย์พี่แต่ตัวกระเปี๊ยกเดียวเพราะตอนเด็กซนจัด ไปแอบกินสมุนไพรวิเศษที่เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงลูกกลอนชะลอวัยทำให้ไม่โตอีกเลย แต่ความเลือดร้อนนั้นไม่ต้องพูดถึงแถมยังหื่นกามขัดกับภาพลักษณ์อีกต่างหาก

              ศิษย์พี่รองคือ จีโยวกู่ หล่อเหลามาดคุณชายแต่ชอบตีกับศิษย์พี่ใหญ่ผู้มีปมร่างกายไม่ยอมโต ศิษย์พี่สามคือ สืออิ้งลวี่ เป็นศิษย์พี่หญิงหน้าตางดงามแต่ไร้เดียงสาคิดอะไรเชื่องช้าทำให้โดนศิษย์พี่รองตกไปเป็นที่เรียบร้อย ศิษย์พี่ศิษย์น้องเหล่านี้คือสีสันของเรื่องเลย จะออกไปทำภารกิจนอกสำนักรวมถึงการ "ทำความดี" ด้วยกันบ่อยๆ ซึ่งไอ้การ "ทำความดี" นี่ขอไม่สปอยล์ละกัน 5555 และในระหว่างนั้นเราจะค่อยๆ ได้รู้ความลับความหลังของแต่ละคนซึ่งหนักบ้างเบาบ้างแต่แน่นอนว่าหนักสุดก็คืออิ่นจื่อจางและจูจูนี่แหละ

              อิ่นจื่อจางคือตัววิปริตอันดับหนึ่งในสายตาผู้อื่น เพราะอายุยังน้อยแต่สามารถบำเพ็ญตนก้าวข้ามระดับได้อย่างรวดเร็ว เป็นอัจฉริยะของแท้ แต่เรื่องในอดีตกลับไม่น่าชมดูนัก เหตุผลที่เขาฝึกตนอย่างบ้าคลั่งมีด้วยกันสองข้อคือ หนึ่ง...ปกป้องดูแลจูจู และสอง...แก้แค้น

              ส่วนจูจูแม้จะธรรมด๊าธรรมดาแต่ภูมิหลังกลับห่างไกลจากคำว่าธรรมดาไปมากโข จูจูในสำนักเจิ้งซื่อนั้นสามารถหลอมลูกกลอนระดับดีออกมาได้มากมายทั้งยังมีลูกหมูพ่นไฟเป็นสัตว์เลี้ยง แต่อดีตของจูจูกลับมีอะไรมากกว่านั้น และนั่นจะเฉลยว่าทำไมจูจูถึงไม่มีพลังธาตุแต่กลับรู้เรื่องเกี่ยวกับการหลอมโอสถทั้งยังเป็นนายของลูกหมูพิสดารตัวนี้ได้

              ตัวร้ายของเรื่องมีมาบ่อยๆ เป็นฉากๆ แต่ตัวร้ายระดับบอสคือ รัชทายาท ซึ่งเจ้ารัชทายาทเนี่ยเป็นคำที่ใช้เรียกคนคนนี้มาหลายเล่มมาก กว่าจะมารู้ชื่อจริงของเจ้ารัชทายาทก็ปาไปเล่ม 5 โน่นแน่ะ ตัวร้ายของเราคนนี้มีนามอันสูงส่งว่า เยี่ยนซื่อเทียน เป็นรัชทายาทแคว้นตันที่เป็นตัววิปริตอีกตัวเหมือนกัน แต่นี่คือวิปริตขั้นบอสเพราะมันโหดโฉดชั่วมากๆ ความโหดของตัวละครตัวนี้เราจะได้ทำความรู้จักกันตั้งแต่หน้าแรกของเรื่องและเมื่ออ่านไปเรื่อยๆ เราจะพบว่าเยี่ยนซื่อเทียนนี่เกิดมาเพื่อเป็นตัวร้ายจริงๆ ค่ะ

              เงาเพลิงสะท้านปฐพีจะไม่ได้ดำเนินเรื่องยาวๆ นัก แต่หลักๆ จะเหมือนว่าทำภารกิจตรงนี้จบก็ขยับไปอีกภารกิจหนึ่งอะไรทำนองนี้ เล่มแรกๆ บอกเลยว่ามึนงงไม่น้อยเพราะชื่อตัวละครค่อนข้างจำได้ยาก ชื่อวิชาชื่อโน่นนี่นั่นก็ยาวเหยียดไปหมดแถมยังมีรายละเอียดยิบย่อยที่ต้องตั้งใจอ่าน ทำให้อ่านได้ค่อนข้างช้า แต่ว่าดำเนินเรื่องเร็วมาก ชอบตรงนี้แหละ

              อีกเรื่องที่ชอบคือตัวละคร เป็นตัวละครที่มีสีสันมากๆ นอกจากตัวหลักๆ ด้านบนอีกตัวละครหนึ่งที่เราชอบคือ จิ้งจอกปีศาจ คิดว่าใครได้ทำความรู้จักตัวละครนี้ก็คงต้องชอบเหมือนกัน สำหรับนิยายเรื่องนี้อย่างที่บอกไปว่าดำเนินเรื่องเร็วแต่รายละเอียดค่อนข้างเยอะ เรายังเฉยๆ นะตอนอ่านเล่มแรกๆ แต่ว่าตั้งแต่เล่ม 4 เป็นต้นไปคือวางไม่ลงของแท้เลย อ่านยันตีหนึ่งเพราะมันสนุกมากลุ้นมากจนอยากอ่านให้จบเล่มแล้วค่อยนอนไรงี้ ซึ่งอันที่จริงตั้งแต่ช่วงเล่ม 4 ไปจะเข้าสู่พล็อตหลักแบบจริงจังละ เหมือนเราอ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์เล่ม 7 ที่เกี่ยวข้องกับการหลบหนีและวางแผนเพื่อเอาชนะโวลเดอมอร์ยังไงยังงั้น

              ในความคิดเรา เงาเพลิงสะท้านปฐพีมีตัวเอกอย่างอิ่นจื่อจางและจูจูที่ทำให้เรานึกถึง หนิงเชวีย กับ ซังซัง จากเรื่องสยบฟ้าพิชิตปฐพีจริงๆ เพราะดูแลและใส่ใจอีกฝ่ายมากอย่างเห็นได้ชัด มีอะไรจะคิดเผื่อกันเสมอ แต่สองคู่นี้ต่างกันตรงที่อิ่นจื่อจางรักเดียวใจเดียวไม่เหลียวตามองใครเลยนอกจากจูจู คือกับหญิงอื่นแม้จะหน้าตางดงามขนาดไหนอีตานี่ก็ตีหน้าน้ำแข็งใส่กลับไปทุกคนยกเว้นกับจูจู แต่หนิงเชวียคือมองผู้หญิงไปทั่ว แม้ใจจะมีแค่ซังซังแต่ก็ยังขอให้ได้แอ๊วคนอื่นอะไรทำนองนี้

              ในส่วนของเล่มจบถือว่าทำออกมาได้ดีมากกก มันคือแฮร์รี่และผองเพื่อนผนึกกำลังเพื่อพิชิตลอร์ดโวลเดอมอร์ที่แท้จริง แถมจบแล้วก็ตามธรรมเนียมคือมีตอนพิเศษมาให้เรากระชุ่มกระชวยหัวใจ เราจะได้ทราบว่าหลังจากตอนจบแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง พูดถึงเทพมังกรหลงเซ่อหลันที่ออกมาช่วงหนึ่งแต่คิดว่าหลายๆ คนน่าชอบและสงสัยว่าชีวิตเขาจะเป็นยังไงต่อ เรื่องของศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์น้องหญิงของเขา หรือเรื่องของจิ้งจอกปีศาจที่เราหลงรัก สำหรับเราเรื่องนี้ให้ 9/10 หักไปตรงที่เล่มแรกๆ อาจจะเฉยไปนิดและสำนวนแปลบางประโยคมันแปลกๆ อ่านแล้วไม่ค่อยไหลลื่น คำซ้ำคำซ้อนเยอะมาก คิดว่าตัดๆ ออกไปบ้างประโยคมันจะสวยขึ้นนะ เพราะตอนอ่านคือต้องแบบตั้งสติและอ่านซ้ำว่าเอ๊ะ มันยังไงนะ อะไรทำนองนี้บ่อยมากเลย แต่โดยรวมแล้วก็โอเค

              ใครที่ยังลังเลเราแนะนำให้อ่านค่ะ ถ้าชอบแนวแฟนตาซียิ่งต้องอ่าน ย้ำอีกรอบเลยว่า ตั้งแต่เล่ม 4 มันสนุก มันลุ้น มันวางไม่ลงจริงๆ เริ่มชอบนิยายแนวๆ เข้าสำนักแล้วสิ ใครมีอะไรคล้ายๆ เงาเพลิงฯ ก็มาแชร์กันได้นะคะ จะไปหาอ่านบ้าง สนุกดี ^^

              Best Quote 1:
              จูจูสะอื้นฮักพลางว่า "ขะ...ข้าไร้ประโยชน์มากใช่หรือไม่"
              อิ่นจื่อจางถอนหายใจ "ใช่แล้ว"
              อย่าพูดตรงเพียงนี้ได้หรือไม่เล่า! ปลอบข้าสักคำสองคำเนื้อจะถูกเฉือนหายไปหรืออย่างไร!
              จูจูเบิกสองตาแดงก่ำกว้าง เอ่ยแย้งเสียงเบา "ข้าหลอมโอสถเป็น ทำงานบ้านเป็น..."
              อิ่นจื่อจางเขกศีรษะนางทีหนึ่งก่อนพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ "เจ้ามีประโยชน์หรือไม่มีก็ล้วนเป็นหมูโง่เง่าของข้า"
              (เงาเพลิงสะท้านปฐพี เล่ม 2)

              Best Quote2:
              "ก่อนหน้านี้ท่านถามข้าว่าถ้าท่านไม่อยู่แล้วข้าจะทำอย่างไร เช่นนั้นท่านเล่า ถ้าข้าไม่อยู่แล้วท่านจะทำอย่างไร"
              อิ่นจื่อจางอึ้งไป ยกมือลูบเรือนผมยาวของนางเบาๆ ก่อนตอบยิ้มๆ "เจ้าไม่อยู่แล้วข้าก็ไม่มีบะหมี่ไก่กินน่ะสิ"
              "ข้า...ข้าถามจริงจังนะ" จูจูย้ำด้วยความโมโห แต่ใบหน้าที่งามเกินไปนั้นกลับไม่ได้ดูทรงพลังแม้แต่นิดเดียว
              อิ่นจื่อจางหุบรอยยิ้มบนริมฝีปากก่อนกล่าวเนิบๆ "ถ้าเจ้าไม่อยู่แล้ว ข้าก็จะบำเพ็ญตนต่อไป รอข้าขึ้นสวรรค์กลายเป็นเซียนเมื่อใดย่อมจะมีวิธีพาเจ้ากลับมา"
              (เงาเพลิงสะท้านปฐพี เล่ม 7)

              Best Quote3:
              ไม่ว่าอนาคตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากอะไร จงพยายามปกปักรักษาสิ่งที่ตนเองอยากปกปักรักษา เชื่อในสิ่งที่ตนเองควรเชื่อ โยนสิ่งที่มิใช่ของตนเองเหล่านั้นทิ้งไป แล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้าก็พอ
              (เงาเพลิงสะท้านปฐพี เล่ม 8)

              Note: เงาเพลิงสะท้านปฐพีไม่เชิงเป็นนิยายรักแต่เป็นนิยายบู๊ เราคิดว่าโยนเรื่องนี้เข้าหมวดเอ็นเธอร์ยังไม่รู้สึกผิดเลยนะเอาจริง เพราะงั้นเล่มแรกๆ ใครหวังโมเม้นต์ฟินๆ คือถอดใจได้เลย กว่าอิ่นจื่อจางจะเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์ก็หลังจากที่จิ้งจอกปีศาจโผล่มานั่นแหละ (ช่วงเล่ม 4) แต่ว่าก่อนหน้านี้คือหึงแบบไม่รู้ตัว หวงจูจู ไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามกับจูจู แต่พอรู้ใจตัวเองคือแสดงออกบ่อยมาก เป็นโมเม้นต์นิดๆ แต่ฟินเว่อร์ 


    contact me
    twitter : @malavitabb


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
mulan (@nudeelanie)
เรื่องนี้เล็งมานานแล้ว มาเจอรีวิวอันนี้รีบกดซื้อเลยค่ะ เชียร์ได้น่าอ่านมาก ?
VanilLa_Thesky (@narugama)
นึกถึงเรื่องเก่า แนวเข้าสำนักก็ตำนานรักเหนือภพ แต่จะดราม่าหน่อยๆ