"เมื่อเรา “เงินเราหาย...ตั้งแต่ต้นเดือน” เราต้องใช้เงินวันละ ร้อยแปดสิบบาทต่อวัน"
HIGHLIGHTS
- เราไม่ผิดแต่รถไฟผิด
- เงินติดลบ
______________________________________________________________________________________________
บันทึกเมื่อวาน “เสนห์บนทางเดิน” : หลังเมื่อวานเป็นวันสงบนิ่งของเราแต่วันนี้นะเหรอ โครตตบะแตก ขอเริ่มช่วงเช้าก่อนนะ เราก็ออกจากอปกติไม่มีเรื่องอะไรให้กังวลเดินฟังเพลง afire worth keeping ของ Hugo อย่างสบายอารมณ์จบเพลงเราเดินถึงสถานรถไฟพอดี เปิดเพลงสองต่อ I Need the Truth ของ Hugo จนจบเพลง เริ่มเอะใจปกติรถไฟต้องมาแล้วนิ แต่เพลงสามก็แล้ว เพลงสี่ก็แล้ว ปิดเพลงจับหนังสือพิมพ์ M2F มาอ่านก็แล้ว ยังไม่มีวี่แววรถไฟ
“เริ่มผิดปกติแล้วนะ” ในใจเริ่มหาทางเลือกอื่นไว้สำรอง ไปเรือดีไหม!! รถไฟฟ้าดีไหม!!! เจ็ดโมงสี่สิบห้านาที เราไม่อยากรอแล้ว ถ้าฝืนรอต่อไป เข้างานสายแน่นอน ตัดสินใจเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าพอหันหลังไปเท่านั้นแหละเสียงสัญญาณเตือนรถไฟมาพอดี ตอนนั้นใจเรากระวนกระวายมาก เพราะดูนาฬิกาใกล้แปดโมง ต้องลุ่นว่าทันหรือไม่ทัน "เอาวะตัดสินใจขึ้นรถไฟร่างนี้แหละไหนๆก็รอละ"
ภาพตัดมาที่เรายืนอยู่บนรถไฟพร้อมพนักงานออฟฟิศเต็มขบวน ดูทรงแล้วน่าจะทันอยู่นะถ้ารถไฟไม่ติดขัดอะไร แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอแต่ยาวเลยละกัน เพราะรถไฟมาติดขัดอะไรวันนี้ รถไฟหยุดอยู่สถานีคลองตันนานมากไม่รู้หยุดเพราะอะไร แต่เห็นคนข้างๆ พูดบอกว่ารถหยุดเพราะเปลี่ยนคนขับรถไฟ (คนขับรถไฟอาจตื่นสายแล้วทำตัวชิวๆ ก็ได้) เจ็ดโมงห้าสิบเจ็ดนาที ยังไร้วี่แวว อ๋อยังไหวอยู่นะ เพราะออฟฟิศเราตัดเวลาคนมาสาย แปดโมงสิบห้านาที
ขณะนี้เวลาแปดโมง เสียงเพลงชาติดังทั่วสถานีรถไฟคลองตัด ทุกคนต่างหยุดยืนตรงอย่างสงบนิ่ง “ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัย ชโย” ยังไม่มีวี่แววรถไฟจะออก คนในขบวนก็คงตบะแตกเหมือนเราแน่นอน จะทำไงได้ขึ้นมาแล้วต้องไปให้สุด จะมาหยุดไม่ได้เพราะ สถานนีนี้เป็นรอยเชื่อมต่อขบวน นั่งวินคงหมดหลายร้อยแน่ๆ ถ้าไปนั่งรถเมล์ จากมาสายคงถูกแทนที่ด้วย "ขาด" แน่นอน เอาวะอีกสิบห้านาทียังมีความหวัง
ปู๊นๆ ปู๊นๆ เสียงสัญญาณดังขึ้นขบวนรถไฟออกจากชานชลา “เยี่ยม” รถไฟค่อยๆ เลื่อนไปช้าๆ เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนถึงความเร็วคงที ผ่านไป แปดโมงห้านาที รถไฟถึงสถานีมักกะสัน "เหลือ สิบนาที" สมองคิดวิเคราะ “ถ้าไปวินทันแน่ แต่ต้องเสียเงินสี่สิบบาท หรืออาจมากกว่านั้น” ไป MRT คงไม่ทัน เอาวะไหนๆ ก็ไหนๆ สายโดนหักเงินหลายร้อยไม่ได้ต้องไม่สาย เรารีบวิ่งไปขึ้นวิน มองไปพอมีความหวังเพราะโชคเป็นใจ ไม่มีใครต่อแถววิน
“พี่ไปสุขุมวิท 20 ครับ”
เรารีบนั่งค่อม พี่วินขับออกไปอย่างเร็วมากๆ แต่ความเร็วค่อยๆ ลดลงเพราะทนพิษบาลแผลรถติดบนถนนอโศกไม่ได้ "เชียมาติดมากมายอะไรตอนนี้" (เปกติติดอยู่แล้วปะมาหัวร้อนอะไรตอนนี้) แปดโมงสิบนาที เรายังติดอยู่หน้า มศว. อยู่เลยมองไปตลาด มศว. (ในใจคิดเพื่อนต้องชวนมาแน่เลยยังไงวันนี้ต้องห้ามเด็ดขาด) พี่วินพยายามซอกแซกเลี้ยวซ้ายขวา ไปเลนนู้นเลนนี้ อย่างชำนาญแต่ไม่เคยชำเลืองดูเราบางเลยว่ารู้สึกปลอดภัยไหม “จะทำไงได้ขึ้นมาแล้วต้องไปให้สุด มาหยุดไม่ได้” สูตรความติดเดิม...ในที่สุด แปดโมงสิบห้านาที เราอยู่แยกอโศก ไม่ทัน (บอกตัวเอง สายหนึ่งครั้ง) ของเดือนนี้ (สายสามครั้งโดนหักเงิน) พี่วินจอดหน้าบริษัท
“เท่าไหร่ครับ”
“ห้าสิบบาทครับ”
เราจ่ายไปด้วยอาการไม่ขัดขืน เพราะใจตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรแถมพี่เขาก็พยายามแข่งกับเวลาให้เราแต่ไม่ทันจริงๆ สรุปยอดเงินคงเหลือหนึ่งร้อยสามบาท พร้อมจัดค่าอาหารเช้า สามสิบบาท สรุปยอดเงินคงเหลือ หนึ่งร้อยบาท
ข้าวเที่ยง เดินทางฟรีช่วงเย็น ก็ยังมีเงินเหลือ ห้าสิบบาทยังไหวอยู่แต่ไม่ใช่ตอนนี้เพราะเมื่อวานฝนตกหนักมากๆ ออกจากออฟฟิศได้ หนึ่งทุ่ม เงินห้าสิบบาทต้องมาเสียให้กับค่าเดินทาง แถมมีเงินไม่พอซื้อข้าวตอนเย็นอีกต้องใช้เงินอนาคตของพรุ่งนี้สามสิบบาท สรุปวันนี้ใช้เงิน สองร้อยสามสิบบาท
ชีวิตในกรุงเทพนี่ลำบากจริงๆค่ะ 55 (หัวเราะทั้งน้ำตา)
ไม่เป็นไรนะคะคุณ วันนี้ก็วันศุกร์แล้วค่ะ หยุดเสาร์อาทิตย์ไหมคะเนี่ย