เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
มนุษย์เงินน้อยWe Hello
เที่ยวทั้งๆ เงินไม่มี

  • "เมื่อเรา “เงินเราหาย...ตั้งแต่ต้นเดือน” เราต้องใช้เงินวันละ ร้อยแปดสิบบาทต่อวัน"

     

    HIGHLIGHTS

    -        วันเสาร์ เที่ยวก็งั้นๆ

    -        วันอาทิตย์ โครตตื่นเต้น

    หลังวันศุกร์ ฝาฟันกับขรี้มากหมาดๆ รักแท้ แพ้ขรี้ เสาร์-อาทิตย์ ถือเป็นวันพักผ่อนของมนุษย์เงินน้อยเรามองวันหยุดเป็นวันประหยัดเงินมากที่สุดแหละ มาเริ่มกันเลย หลังนอนอร่อย ชีวิตเปื่อยๆ อยู่บนเตียง ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันธรรมดาไม่มีอะไรให้เสียเงิน แต่ไอ้วันธรรมดานี้แหละน่ากลัวสุด ถ้าชีวิตว่าง ร่างกายเราจะต่อต้าน

    “ดูหนังก็เบื่อ นอนก็เบื่อ อยู่ในห้องก็เบื่อ เธอจะไม่ออกไปไหนเลยเหรอ”

    “ไม่เอาไม่มีเงิน”

    “ก็ไปเที่ยวที่เงินไปถึงดิ”

    “อ๋อ น่าสน”

    หลังบ้าคุยกับความคิดได้สักพันเราก็หาสถานที่เที่ยวด้วยงบร้อยแปดสิบาท จะไปไหนดีนะ ก็คงไม่พ้น เข้าวัด,พิพิธภัณฑ์, เดินห้าง, จบ.” งั้นไป  พิพิธภัณฑ์แล้วกัน แต่ขอสมัยใหม่หน่อยนะ

    .ขออยู่ใกล้ๆก็พอ ซึ่งหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เรายังไม่เคยไปอยากเห็นว่าหน้าตาศิลปะเป็นอย่างไร

    ออกเดินทางได้...เราเริ่มเดินทางเที่ยง ไปรถเมล์สายสี่ศูนย์ รอรถเมล์ก็กินเวลาไปครึ่งชั่วโมงแล้ว แถมรถเมล์ที่มาก็ไม่ใช่รถแอร์ด้วยไห้ตายสิ ร้อนก็ร้อน ก็ต้องจำใจนั่ง...นั่ง...นั่ง...นั่ง ผ่านแยกคลองตันก็แล้ว แยกรพระขโนงก็แล้ว ชีวิตติดอยู่กับรถเมล์เลย “รถโครตติด” สุดท้ายเราถึง หอศิลป บ่ายสาม

    “เป็นไงละนอนอยู่ห้องดีๆไม่ชอบ ต้องมาใช้ชีวิตกับรถเมล์นี้ไง” *รถเมล์จะเป็นพาหนะท้ายๆที่คิดจะขึ้นถ้าเราไม่รีบอะไรก็จะนั่ง แต่นี้สามชั่วโมงกับระยะทาง สิบกิโลว่าโธ่ ชีวิตดีๆ ที่กรุงเทพฯ

    หลังถึงหอศิลก็หาอะไรกินก่อนเพราะหิวมาก กินอะไรง่ายๆ อยู่ในงบ กินอิ่มก็ลองเดินเข้าหอศิลปแรกๆ เข้าไป ความรู้สึทำไมเล็กจัง เดินวนไปมามีแต่ร้านเล็กๆ แต่ความจริงเราโง่เดินยู่ชั้นสองชั้นสามแม่งมีชั้นสี่ชั้นห้าด้วย...ว่าแล้วก็เดินขึ้นไปดูหน่อยมีอะไรหน้าสนใจ...เดินจนถึงชึ้นห้ากำลังจะขึ้นบันใดไปชั้นถัดไป

    น้องค่ะ ฝากกระเป๋าก่อนคะ ห้ามนำกระเป๋าขึ้น

    ...งง ฝากกระเปาตรงไหน...เราก็ตอบไปว่า “ครับ อยู่ตรงไหนครับ”

    นั้นไงครับ (พนักงานชี้)

    “ขอบคุณมากครับ” (พร้อมอาการหน้าชา ฮ่าๆ ฝรั่งยังรู้ต้องฝากกระเป๋า ไอ้เราไม่ยอมสังเกตุให้รอบคอบเอง)

    ฝากกระเป๋าเสร็จก็เดินเข้าไปชมภาพเขียนของศิลปินซึ่งเราไปวันเสาร์ตรงกับงานภาพเขียนของ ร.9 พอดี เราถ่ายมาฝากเผื่อใครอยากแวะไปชม

     








     

     





    ดูซักครึ่งชั่วโมง ร่างกายเริ่มต่อต้านอยากกับที่พัก โอ้ยชีวิตฝ่าฟันรถติดกับรถเมล์มาเป็นชั่วโมง จะอ้อนกลับแล้วจริงงะ ... “จริงครับ” แล้วขากลับนี่ยิ่งกว่าขามากว่าจะกลับมาที่พักก็สองทุ่มพอดี จบทริปวันเสาร์แล้วนะ...นอนดูหนังดีกว่า zzzzz 

    สรุป ค่าใช้จ่าย ค่ารถเมล์ แปดบาท ข้าวเที่ยง สี่สิบห้าบาทค่ารถเมล์ขากลับสิบห้าบาท ข้าวดึกบวกเย็น(ก็กินตอนสองทุ่ม) สี่สิบบาทและซื้อขนมกลับที่พักห้าสิบบาท ยอดเงินคงเหลือ ยี่สิบสองบาท

    มาต่อสวัสดีวันอาทิตย์ วันนี้ไม่ออกไปเที่ยวแล้ว แต่ที่ไหนได้ พอมาถึงช่วงเย็น สายเลือดบอลไทย เข้าเส้นอีก ไหนๆ ก็พักอยู่แถวราชมังคลากีฬาสถาน แข็งกันทั้งทีขอจัดหน่อย เราไปซื้อบัตรหน้างาน ลุ้นเอาว่ายังมีขายไหมและก็มีจริงด้วย จัดบัตรที่นั่งสองร้อยบาทมา จบ. ตอนนั้นเราคุมสติไม่อยู่จริงๆ ตบะแตกมากๆ เพราะอยากดูมากๆ ไม่มีอะไรจะอธิบายยอมรับความจริงใช้เงินเกินจำนวนที่เราวางไว้จริงๆ


     


     

    แต่ก็ถือว่าคุ้มมากนะ ลุ้นสนุกมากๆ สรุป ขาดทุน ร้อยห้าสิบบาทอีกแล้วนะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
fridayokaeri (@fridayokaeri)
คิดซะว่าซื้อความสุขนะคะ5555 อ่านแล้วรู้สึกเลยว่า เป็นสองร้อยบาทที่คุ้มค่าเพราะดูมีความสุขมากเลยค่ะ ^^
We Hello (@wehello)
@fridayokaeri ใช่ครับลุ้นสนุกมาก ตอนช่วงยิงจุดโทษกันนะ หัวใจจะวาย ฮ่าๆๆ