เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Beautiful North Americanew
รื้อฟื้นความทรงจำกับเซ็นต์หลุยส์
  • เริ่มต้นเช้าอันแสนสดใสด้วยการออกจากที่พักไม่ได้
    ติดอยู่ประมาณ 10นาที สาเหตุคือ....เปิดประตูผิดบาน โอ๊ยยยย มึนกว่านี้มีอีกมั้ย 

    คืนที่มาถึงโฮสต์ลงมารับไง เราก็เลยเดินตามเค้าอย่างเดียวไม่ได้ตั้งใจจำทาง แล้วประตูเหมือนเหมือนกัน มันมี2ฝั่ง เราก็เสียบกุญแจเข้าไปได้แต่หมุนไม่ได้ ในใจตอนนั้นแบบ ชิบหายล่ะ ทำไงดี เลยลองเดินไปทางอื่น มันก็ไปโผล่ที่ลานจอดรถ แล้วบังเอิญจากลานจอดเค้าไม่ได้ใส่กุญแจที่ประตู้รั้ว ก็เลยผลักเดินออกไปด้วย แต่ความสงสัยเรายังไม่หาย ก็เลยลองเปิดประตูเข้าอพาร์ทเม้นท์ใหม่ ถึงได้รู้ว่ายืนไขกุญแจผิดประตู ก็เลยออกไปไม่ทันรถเมล์คันที่ดูไว้ต้องรอคันต่อไปประมาณ15นาที ระหว่างนั่งรถเมล์ไปก็จับโปเกม่อนไปเพลินๆ

    สวนสัตว์ที่นี่เข้าฟรี มีหมีขั้วโลกให้ดู ถ้านั่งรถเมล์มาก็ต้องเข้าทางNorth Entrance นอกจากหมีขั้วโลกแล้วก็ยังมีพวกสัตว์ในโซนแอฟริกาให้ดู หลายๆ ตัวเราก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ใครสนใจลองเข้าไปดูในเว็บได้ ครั้งที่แล้วเราเดินแค่โซนriver's age (Asia) ครั้งนี้เราตั้งใจจะเดินแค่the wild อยากดูหมี เดินไปเดินมากลายเป็นเดินเกือบรอบสวนสัตว์เลย ร้อนจนต้องไปยืนตากพัดลมที่เป็นละอองน้ำ
    เข้าประตูมาจะเจอปลาหมึกยักษ์
    Polar bear น่ารักมาก ว่ายน้ำไปมาให้เด็กๆ ดู
    ตัวข้างล่างนี้ตลกดี okapi เหมือนม้าลายแต่ไม่ใช่ มีลายแค่ตรงก้น

    ออกจากสวนสัตว์ ก็นั่งmetrolinkไปเดินห้างต่อ ใจจริงอยากไปวอลมาร์ทก่อนแต่ร้อนและหิวข้าวมาก เลยไปห้างแทน ระหว่างรอรถไฟก็เจอแก๊งวัยรุ่นเปิดเพลงดังๆ เมื่อก่อนเราคงไปกล้าไปนั่งรอใกล้ๆ แต่จุดนี้คือเหนื่อยมาก ต้องการนั่งพัก ย้อนอดีตไปเมื่อหลายปีก่อน ช่วงแรกๆ ที่มาเซ็นต์หลุยส์เราเคยโดนพวกแก๊งวัยรุ่นจับก้นตอนกำลังจะขึ้นรถไฟ เพื่อนก็โดนคนเดินตาม เคยเจอคนดำขับรถผ่านแล้วตะโกนใส่ว่า "Go back to your country"ด้วย เหยียดกันเป็นทอดๆ อะ คนขาวเหยียดคนดำ คนดำก็เหยียดเอเชียต่อ ตอนแรกๆ นั้นกลัวมาก แต่พอผ่านไปสักพักมันก็กลายเป็นความชิน แล้วเราก็คิดว่าคนดีๆ ก็มีนะ ตอนหลังก็เจอคนดำมาคุยด้วย เราก็คุยกลับ เออ พวกนี้ก็ตลกดี เค้ามาถามว่าคิดว่าเค้าหล่อมั้ย เราก็ตอบไปว่า "I have no idea" คนบนรถไฟขำกันหมดเลย

    กลับมาปัจจุบัน พอถึงสถานี.....(ลืมชื่อสถานี)....ก็ถ่ายรูปแลนด์มาร์คเป็นที่ระลึก จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร

    แลนด์มาร์คที่กล่าวถึง
    ทางเดินไปst.louis galleria มี3ห้างติดกันคือmacy's, nordstrom, dillards
    ห้างใหญ่มาก แต่คนไม่เยอะเลย
    อาหารฟู้ดคอร์ท รวมน้ำแล้วประมาณ9บาท เยอะมาก เรากินไปไม่ถึงครึ่งก็อิ่ม

    ตอนแรกเล็งไว้ว่าจะกินชีสเค้กแฟคตอรี่ พอเจอมื้อมื้อบ่ายๆ เข้าไป ข้าน้อยขอยอมแพ้ นั่งรถไฟไปกินไอติมที่8th&pieก็ได้ แต่สิ่งที่เจอเมื่อไปถึงคือ
    1.หน้าร้านไม่มีโต๊ะให้นั่งกินขนมแล้ว
    2.ไอติมรสช็อคโกแลตอยู่ลึกมาก หยิบไม่ถึง
    .....โธ่....ไปก็ได้ จุดหมายต่อไปคือthe arch
    ดาวน์ทาวน์ร้าง

    สวนตรงthe archเค้ากำลังปรับปรุง นั่นหมายความว่าเราต้องเดินอ้อมโลก เมื่อก่อนเนี่ยเราสามารถเดินตรงลงไปได้เลย แล้วทางขึ้นไปชมวิวข้างบนอยู่ทางซ้ายมือของรูปข้างล่าง แต่ตอนนี้....เราต้องเดินอ้อมไปทางขวา ผ่านโบถส์ แล้วถึงเลี้ยวกลับมาทางซ้าย เดินตากแดดท่ามกลางอุณหภูมิแบบประเทศไทย orz แต่มาถึงนี่แล้วอะ ไม่อยากจะย้อนไปวอลมาร์ท หรือเดินย้อนไปcity museumแล้ว 
    ก่อนเดินไปthe arch ก็แวะold courtก่อน
    เดินขึ้นไปชั้นบนมีห้องพิจารณาคดีให้ชม ฝั่งหนึ่งเป็นห้องขนาดเล็ก อีกฝั่งเป็นห้องขนาดใหญ่ ที่เราถ่ายรูปมาคือห้องใหญ่

    ตามทางเดินจะมีสัญลักษณ์แบบนี้คอยบอกว่าต้องเดินไปทางไหน เพราะฉะนั้นมือใหม่ไม่หลงแน่นอน
    สูง630ฟุต
    ช่องเล็กๆ คือหน้าต่างชมวิว
    ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำฝั่งอิลลินอยส์ หรือเรียกว่า east st.louis ฝั่งนั้นน่ากลัวเราก็เลยไม่เคยข้ามไปเลย
    คิดดูสิแค่ดาวน์ทาวน์ยังค่อนข้างไม่ปลอดภัยเลย แล้วไปฝั่งนั้นจะขนาดไหน
    รอคิวขึ้นข้างบนเป็นชั่วโมง มีหลายคนที่ถอดใจแล้วเดินไปขอคืนเงิน
    ลิฟต์ที่ใช้ขึึ้นไปด้านบน นั่งได้ตัวละ5คน ลักษณะเหมือนขึ้นชิงช้าสวรรค์ 
    วิวจากด้านบน ทางซ้ายเป็นbusch stadium เป้าหมายที่แท้จริงของเราวันนี้
    มุมตรงกลาง
    มุมด้านขวา
    สวนระหว่างเดินไปthe arch

    ระยะทางไปสนามเบสบอลนั้นช่างยาวไกลยิ่งนัก จริงๆ มันไม่ไกล ถ้าเราไม่เดินมาถ่ายรูปมุมนี้ T_T สำหรับคนไม่รู้ทาง วิธีเดินไปสนามเบสบอลนั้นก็ไม่ยากเลยแค่เดินตามคนหมู่มาก มีแต่คนใส่เสื้อสีแดง ไม่ก็หมวกแดง ทุกคนเดินไปทางเดียวหมด และทุกคนล้วนมากันเป็นกลุ่ม มีแค่เรานี่แหละที่ไปคนเดียว ฮืออออ
    ถ้าใครอยากดูคอนเสิร์ต ก็เดินไปทางป้ายฟอร์ด
    มีบันไดเลื่อนขึ้นด้านบนด้วย เกร๋ตรงนี้ แต่ตั๋วเราอยู่ชั้นล่าง

    ก่อนจะไปประจำที่นั่งเราต้องมีพร็อพและของกินก่อน จัดไป หมวกคาร์ดินัลส์และโค้ก1ขวด โค้กที่ราคา6บาท แม่ม...แพงกว่าข้างนอกเท่าตัว โค้กที่ได้ขวดเป็นไบรอันท์ รู้สึกเหมือนโดนตามกลับไป แต่ปีนี้ไปไม่ได้ ตัดสินใจเชียร์คาร์ดินัลส์แล้ว 5555 

    เนื่องจากเกมวันนี้แข่งแบบดับเบิ้ลเฮด (แข่ง2รอบในวันเดียว เพราะรอบก่อนหน้าเลื่อนเพราะฝนตก) รอบเย็นที่เราดูก็เลยอดเห็นยาดิ นี่ตั้งใจมาดูMolina ดูCarpenter ดูPiscottyและOh เราไม่ได้ดูออนไลน์เลย(แอบดูไม่ได้) แต่ก็คอยเช็คว่ามีใครลงเล่นบ้างแล้วเหมือนว่าพิสกัทที่ไม่ค่อยลง ส่วนโอเป็นพิชเชอร์ก็เลยไม่ได้หวังเท่าไรว่าจะเห็น แต่กับยาดิเนี่ย หวังไว้มากเพราะเค้าเป็นแคชเชอร์ก็ต้องลงตลอด แต่มันก็ต้องมีวันซวยบ้าง เช่นวันนี้ที่เราดูรอบเย็นแล้วยาดิเล่นรอบบ่าย


    คนขวาคือPiscotty
    เคราดกคนนี้คือMatt Carpenter
    ป้ายขึ้นว่าใครลงมาตี บางทีป้ายนี้ก็จะขึ้นขอเสียงเชียร์ (แต่จากที่ดูมานะแฟนไจแอนทส์เชียร์มันมาก)
    อินนิ่งท้ายๆ ส่งโอลงมาก็ไม่ช่วยอะไร ประชุมกันกลางสนามก็ไม่ช่วยอะไร แพ้อยู่ดี

    พอรู้ว่าแพ้แน่ เราก็รีบออกเลย กลัวคนเยอะ ขนาดรีบออกแล้วคนยังเยอะเลย ตอนนั่งรถไฟกลับก็มีคนถ่ายวีดีโอตัวเองบนรถไฟแล้วหันมาบอกทุกคนบนรถให้ส่งเสียงหน่อย ทุกคนก็เฮ้~ 



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in