เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หนังชีวิตI-love-thee
Hidden Figures ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีครั้งแรกเสมอ
  • ขึ้นรถเมล์ครั้งแรก ไปโรงเรียนวันแรก เกรดเอฟตัวแรก ทำงานวันแรก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นครั้งแรกมักสร้างความประหม่า หวาดหวั่นให้เราอยู่เสมอ เราจะรู้สึกเคอะเขิน ติดขัด ไม่ชินกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความไม่สบายใจทั้งหลายนี้บีบคั้นให้เราอยากถอยหลังกลับ ไม่อยากเผชิญกับอะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้า เหมือนกับเวลาที่เท้าเราได้สัมผัสกับน้ำทะเลตรงชายหาดครั้งแรก เมื่อคลื่นลูกย่อมซัดเข้ามาเราจะลังเลว่าควรยืนอยู่กับที่ ขยับหนี หรือกระโจนเข้าใส่มัน

    Hidden Figures เป็นภาพยนตร์ที่เล่าอัตชีวประวัติของสามสาวสุดแกร่งแห่ง NASA ผลงานการกำกับของ Theodore Melfi เค้าโครงเรื่องจากหนังสือ "Hidden Figures" เขียนโดย Margot Lee Shetterly นำแสดงโดย Taraji P. Henson Octavia Spencer และ Janelle Monáe เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 1961 Katherine Goble (รับบทโดย Taraji P. Henson) ทำหน้าทีเป็นคณิตกรหน่วยทดสอบอวกาศของนาซ่า เธอมีเพื่อนสนิทอีกสองคนคือ Mary Jackson (รับบทโดย Janelle Monáe)  ทำหน้าที่เป็นคณิตกรผู้ช่วยวิศวกร และ Dorothy Vaughan (รับบทโดย Octavia Spencer)   ที่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกคณิตกรผิวสีแบบไม่เป็นทางการ ในยุคนั้นอเมริกากำลังแข่งขันกับรัสเซียในเรื่องของการออกสำรวจอวกาศ ซึ่งในตอนนั้นรัสเซียได้นำไปแล้วหนึ่งก้าวจากความสำเร็จในการส่ง Yuri Gagarin ออกไปนอกโลก

  • ด้วยความสามารถทางด้านเรขาคณิตวิเคราะห์ Katherine จึงถูกส่งไปทำงานในทีมของ Al Harrison (รับบทโดย Kevin Costner) ซึ่งเป็นหน่วยที่ไม่เคยมีผู้หญิงผิวสีทำงานมาก่อน การทำงานในทีมนี้ไม่ค่อยราบรื่นนักสำหรับ Katherine ถึงแม้ว่าเธอจะเก่งกาจในงานคำนวณมากขนาดไหนแต่การคำนวณโดยที่เกือบทุกตัวเลขที่สำคัญถูกปิดเป็นความลับก็ค่อนข้างหนักหนาสำหรับเธอ นอกจากนี้ในทุกวันเธอยังต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำสำหรับผู้หญิงผิวสีในตึกอีกฝั่งที่ห่างออกไปกว่าครึ่งไมล์

    Mary ได้ทำงานในตำแหน่งคณิตกรในทีมออกแบบเกราะป้องกันความร้อนของยานอวกาศเธอมักจะมีความคิดเห็นดีๆ เสมอเมื่อได้รับคำถามจากหัวหน้าทีม ความหลักแหลมและความเฉลียวฉลาดของเธอทำให้หัวหน้าพยามที่จะผลักดันให้เธอสมัครเข้าทำงานในตำแหน่งวิศวกรของนาซ่า

    การแบ่งแยกสีผิวที่เกิดขึ้นในองค์กรทำให้พวกเธอต้องใช้ชีวิตเหมือนพลเมืองชั้นสอง Dorothy ทำหน้าที่เสมือนเป็นหัวหน้าทีมคณิตกรผิวสี แต่ก็เป็นได้แค่ในทางพฤตินัยเพียงเท่านั้น กาลเวลาผันผ่านเทคโนโลยีเริ่มเข้ามาแทนที่เพื่อช่วยทุ่นแรง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งกันกับทางรัสเซีย จึงมีนโยบายที่จะนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้คำนวณแทนคณิตกรที่มีอยู่ ทั้งสามรู้สึกว่าตัวเองต้องตกที่นั่งลำบากหากเจ้าเครื่องนั่นได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มกำลัง แต่อย่างไรก็ดีด้วยทักษะและความรู้ที่ไม่มากของเจ้าหน้าที่เครื่องคอมพิวเตอร์จึงยังไม่ถูกใช้งานได้เต็มที่นัก

  • Dorothy ได้ไปแอบด้อมๆมองๆแถวห้องเก็บคอมพิวเตอร์อยู่บ่อยครั้งด้วยความสงสัยว่าเพราะเหตุใดเจ้าเครื่องนี้จึงไม่ถูกเปิดใช้งานเสียที เธอแอบอ่านคู่มือการใช้งานและพบว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เธอค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าภาษาฟอร์แทรน เพราะเธอพบว่ามันจำเป็นต่อการทำงานของเครื่องพวกนี้ นอกจากนี้เธอยังถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้กับเพื่อนคณิตกรอีกสามสิบคนเพราะรู้ว่ามันจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น จู่ๆวันหนึ่งเธอสามารถเปิดเจ้าเครื่องนี้ได้สำเร็จทุกคนต่างตามหาบุคคลที่เปิดเจ้าเครื่องนี้ได้ แต่เมื่อพบเป็นเธอซึ่งเป็นผู้หญิงผิวสีพวกเขาต่างลังเล แต่เพื่อแลกกับความสำเร็จของอเมริกาพวกเขาจำต้องละทิ้งอคติทั้งหลายที่มีและยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นหัวหน้าหน่วยที่คุมเครื่องนี้

    ประจวบเหมาะกับที่ทางนาซ่าได้เปิดรับสมัครตำแหน่งวิศวกร Mary จึงไม่รอช้ารีบร่อนใบสมัครไปทันทีทั้งที่รู้ว่าเป็นไปได้ยากแต่ยังคงมีความหวังอยู่ลึกๆ  แต่แล้วความหวังก็มีอันต้องสะดุดลงเมื่อทางหน่วยงานดันเพิ่มเกณฑ์เรื่องวุฒิการศึกษาเพิ่มเติมทั้งที่ตอนแรกไม่มีระบุไว้ทำให้เธอขาดคุณสมบัติในทันที แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเข้าเรียนเพิ่มเติมในโรงเรียน Hampton High ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับคนผิวขาวเพื่อให้เธอมีคุณสมบัติครบถ้วนพอที่จะสมัครเข้าเป็นวิศวกร

    โดยเธอให้เหตุผลกับผู้พิพากษาว่าไม่เคยมีผู้หญิงผิวสีคนไหนในเวอร์จิเนียที่ได้เรียนในโรงเรียนคนผิวขาวมาก่อน และก่อนที่ Alan Shepard จะได้ออกไปยังอวกาศก็ยังไม่เคยมีชาวอเมริกันคนไหนที่ได้แตะอวกาศมาก่อนเหมือนกัน เธอมีความหวังว่าจะได้เป็นวิศวกรของนาซ่าแต่เธอจะไม่สามารถเป็นได้หากไม่ได้เข้าเรียนหลักสูตรเพิ่มเติมซึ่งหลักสูตรนี้มีสอนแค่ในโรงเรียนคนผิวขาว และเธอไม่สามารถเปลี่ยนสีผิวของตัวเองได้ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะเป็นคนแรก และเธอก็จะไม่สามารถเป็นคนผิวสีคนแรกที่เข้าเรียนในโรงเรียนคนผิวขาวได้หากไม่ได้รับการอนุมัติจากท่านผู้พิพากษา 



  • เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำหน้าที่คำนวณแทนคณิตกรได้แล้ว Katherine จึงไม่จำเป็นต่อทีมของ Harrison อีกต่อไป ในวัน John Glenn (รับบทโดยGlen Powell) กำลังจะถูกส่งไปยังอวกาศได้มีการทบทวนจุดลงจอดและปรากฏว่าเครื่องมีการคำนวณจุดลงจอดที่ผิดพลาดจำเป็นต้องมีการคำนวณจุดลงจอดใหม่ก่อนที่ Glenn จะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกภายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า Katherine ได้ถูกเรียกตัวด่วนตามคำเรียกร้องของ Glenn เพื่อให้เธอช่วยยืนยันจุดลงจอดใหม่อีกครั้งเขาไว้ใจเธอแค่คนเดียวเนื่องจากความสามารถทางการคำนวณที่เขาเคยได้เห็นในการประชุมครั้งก่อน Katherine ทำการคำนวณจุดลงจอดได้สำเร็จทันเวลาจึงช่วยให้ Glenn กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้อย่างปลอดภัย

    สิ่งที่ทั้งสามสาวได้ทำคือการกระโจนเข้าหาน้ำทะเล ในช่วงแรกมันอาจจะดูอึดอัดและยากลำบากจากอคติและความไม่รู้ แต่เมื่อพวกเธอได้ก้าวข้ามเส้นความลังเลนั้นมาได้ อคติต่างๆ ถูกทำลายลง นอกจากตัวของพวกเธอเองที่ได้รับการยอมรับแล้ว สิ่งที่พวกเธอทำยังส่งผลให้คนข้างหลังได้รับการยอมรับตามไปด้วย เมื่อผ่านพ้นสิ่งที่เรียกว่าครั้งแรกไปแล้ว ครั้งอื่นๆ ก็จะตามมาเอง



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in