เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หนังชีวิตI-love-thee
A Beautiful Day in the Neighborhood เราทุกคนล้วนมีคุณค่าแตกต่างกันออกไป
  • "It’s a beautiful day in this neighborhood,
    A beautiful day for a neighbor,
    Would you be mine? Could you be mine? …"


    - Won’t You Be My Neighbor?, Fred Rogers

    นี่คือเนื้อในท่อนแรกของเพลง Won’t You Be My Neighborhood? ที่ใช้ประกอบรายการ Mister Rogers’ Neighborhood ของ Fred McFeely Rogers หรือ Mister Rogers ของเด็กๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่สำคัญของหนังเรื่องนี้

    A Beautiful Day in the Neighborhood ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงในบทความ "Can You Say … Hero?" ของ Tom Junod ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Esquire เป็นผลงานการกำกับของ Marielle Heller เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ บ.ก.สำนักพิมพ์ ได้มอบหมายให้ Lloyd Vogel (Matthew Rhys) นักข่าวสารคดีหัวขบถผู้รักการตีแผ่ความจริงไปสัมภาษณ์ Fred Rogers (Tom Hanks) หรือ Mister Rogers พิธีกรรายการเด็กผู้เป็นที่รักของคนทั้งอเมริกาเพื่อมาตีพิมพ์ลงในนิตยสารฉบับพิเศษ

  • ถ้ายังนึกไม่ออกว่ารายการ Mister Rogers’ Neighborhood มันเป็นแบบไหนกันนะ? ให้ลองนึกถึงรายการสโมสรผึ้งน้อย เจ้าขุนทอง ที่นี่มีเพื่อน ดิสนี่ย์คลับยุคที่ยังมีพี่นัทพี่แนน รายการนี้ก็มีลักษณะร่วมบางอย่างที่คล้ายกัน คือมีการให้ข้อคิดสอนใจเพื่อหวังให้เด็กๆได้เติบโตคนผู้ใหญ่ที่ดี และมีความสุขในอนาคตรวม ทั้งต้องมีผู้ดำเนินรายการที่ดูอบอุ่นใจดีและไม่มีพิษมีภัย และ Mister Rogers ก็เป็นเช่นนั้น

    ด้วยลักษณะงานที่ทำบวกกับความเว้าแหว่งในชีวิตวัยเด็กของ Lloyd มันจึงทำให้เขาไปพบ Mister Rogers ด้วยอคติมากมาย และเขาก็ไม่เชื่อว่าสิ่งที่ซานต้าคลอสมีชีวิตคนนี้แสดงออกมานั้นมันมาจากความปรารถนาดีและความจริงใจที่มีต่อทุกคนจริงๆ Lloyd พยายามหาข้อบกพร่องต่างๆที่อาจจะมีในตัว Mister Rogers แต่เขาก็ยังหามันไม่พบสักที แต่กลายเป็นเขาเองนั่นแหละที่โดนตอบคำถามกลับด้วยคำถามที่มันจริงเสียจนแทงใจดำเขาอยู่หลายครั้ง

  • Mister Rogers ดูเป็นบุคคลในอุดมคติที่ดีจนดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีอยู่จริงซึ่งขัดกันกับ Lloyd ที่ดูเป็นบุคคลขวางโลก เย็นชา ยึดมั่นถือมั่น และเต็มไปด้วยอคติ เมื่อทั้งคู่ได้มีอากาสคุยกันจึงมักต่อบทสนทนากันได้ไม่ยาวนักในช่วงแรก เพราะต่างคนต่างก็พยามที่จะนำเสนอความคิดในรูปแบบของตนเอง Lloyd ก็พยายามถามอะไรที่มันเป็นสาระสำคัญของงานตัวเองคือการสัมภาษณ์และตั้งคำถามอย่างจริงจังและต้องการคำตอบที่ตรงประเด็นในขณะที่บทสนทนาของ Mister Rogers นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึก ดูเป็นนามธรรมและเวิ่นเว้อมากในความรู้สึกของ Lloyd ซ้ำยังมาถามเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาเองอีก ในบางครั้งเลยกลายเป็นว่า Lloyd กลายเป็นคนถูกสัมภาษณ์ไปเสียอย่างนั้น

    ไม่ใช่แค่กับ Lloyd เท่านั้นแต่กับคนอื่นๆที่ Mister Rogers ได้พบเจอไม่ว่าจะเป็นแฟนรายการหรือใครก็ตามที่เขาได้มีโอกาสพบปะ เขามักจะถ่ายรูปและจดจำชื่อของพวกเขาไว้เสมอซึ่งในสายตาของ Lloyd รวมถึงคนอื่นๆหรือรวมถึงตัวเราด้วยอาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นมันออกจะดูไร้สาระไปสักหน่อย แต่สิ่งที่เขาทำนั้นมันคือการแสดงออกถึงการเห็นคุณค่า และให้ความสำคัญกับทุกคน เข้ารู้สึกว่าตนได้เรียนรู้จากผู้คนเหล่านั้นถึงแม้ว่าจะเป็นแค่บทสนทนาสั้นๆเพียงไม่กี่นาทีแต่มันก็ถือว่ามีคุณค่ามากสำหรับเขา

    ตัวเราทุกคนต่างก็มีคุณค่าในรูปแบบของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นพ่อผู้ไร้ความรับผิดชอบของ Lloyd ที่ทอดทิ้งเขาและครอบครัวไปตั้งแต่ยังเด็ก น้องสาวที่แต่งงานใหม่ทุกปี ภรรยาที่เป็นเวิร์คกิ้งวูแมนเต็มขั้นแต่ต้องสละงานที่รักมาเลี้ยงดูลูกอยู่กับบ้าน ภรรยาใหม่ของพ่อผู้ซึ่งไม่เคยรับรู้เรื่องราวความเว้าแหว่งของครอบครัวเขาเลย ไม่ว่าจะดีหรือร้ายยังไงพวกเขาเหล่านี้ก็มีส่วนในการหล่อหลอม Lloyd ให้เป็น Lloyd อย่างที่เป็น ทำให้เป็น Lloyd ที่จริงจังกับงานและได้รับรางวัลนักข่าวสารคดีดีเด่น ทำให้เป็น Lloyd ที่ได้เจอภรรยาที่ดีและรักเขา ทำให้เป็น Lloyd ที่กล้าให้อภัยกับทุกสิ่งที่ผ่านมาในอดีต




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in