"Anna is beautiful,
Beautiful enough for me.
The sun hits her yellow house,
It’s almost like a sign from God."

นี่คือบทกวีที่หนูน้อย Jimmy Roy (Parker Sevak) เด็กอนุบาลห้าขวบครึ่งได้พึมพำออกมาระหว่างรอให้พี่เลี้ยงมารับกลับบ้านหลังเลิกเรียน และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในการพยายามปูเส้นทางสู่ความเป็นนักกวีให้กับหนูน้อยคนนี้

The Kindergarten(2018) ในเวอร์ชั่นอเมริกันนี้เป็นผลงานการกำกับของ Sara Colangelo ซึ่งอาศัยเค้าโครงจากภาพยนตร์ของอิสราเอลที่มีชื่อเรื่องเดียวกัน(กำกับโดย Nadav Lapid) เล่าเรื่องของ Lisa Spinelli (Maggie Gyllenhaal) ครูอนุบาลที่ได้บังเอิญค้นพบพรสวรรค์สุดวิเศษของเด็กน้อยคนหนึ่ง และพยายามที่จะรักษามันเอาไว้ก่อนที่โลกนี้จะลบเขาออกไป

Jimmy เป็นเด็กอนุบาลที่เหมือนกับเด็กทั่วๆไปในวัยเดียวกัน เขามักจะพึมพำประโยค หรือวลีบางอย่างขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยอยู่เสมอ แต่คนรอบข้างเขาดูจะไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนัก ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือพี่เลี้ยงก็ตามและก็ดูเหมือนว่าจะมีแค่ Lisa เท่านั้นที่สังเกตเห็นสิ่งนี้ว่ามันเป็นบทกวีสุดวิเศษ 

Lisa เป็นทั้งครูอนุบาลและก็เป็นคุณแม่ที่มีลูกวัยรุ่น หลังเลิกงานเธอมักจะไปเข้าชั้นเรียนเพื่อศึกษาเกี่ยวกับบทกวีซึ่งเป็นสิ่งที่เธอสนใจ ผลงานในชั้นเรียนไม่โดดเด่นนัก บทกวีของเธอมันเรียบง่ายและดูไม่มีอะไรใหม่ หลังจากที่เธอได้ลองนำบทกวี 'Anna' ของ Jimmy ไปนำเสนอในชั้นเรียนโดยที่ไม่ได้บอกว่าเจ้าของที่แท้จริงคือใครนั้นทำให้เธอกลายเป็นนักเรียนที่โดดเด่นขึ้นมา

เธอพยายามนำเทคนิคที่ได้เรียนรู้มาจากชั้นเรียนค่อยป้อนให้กับ Jimmy โดยอาศัยทักษะการสอนแบบครูอนุบาล พยายามสร้างแรงบันดาลใจให้กับเขา และบอกเสมอว่าถ้าคิดบทกวีได้เมื่อไหร่ให้รีบบอก และนั่นก็ทำให้เธอมีผลงานของ Jimmy ไปนำเสนอในชั้นเรียนบทกวีอีกทั้งได้รับคำชื่นชมอยู่เรื่อยมา

เธอพยายามที่จะติดต่อกับพ่อของเขาเพื่อจะบอกว่าพรสวรรค์นี้มันวิเศษขนาดไหน และเขาควรจะได้รับการสนับสนุนอย่างไร พ่อของ Jimmy กลับปฏิเสธในเรื่องนี้โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้ลูกเป็นแค่เด็กธรรมดาๆเท่านั้น แต่ไม่ว่าอย่างไร Lisa ยังคงไม่ย่อท้อและแอบเทรน Jimmy อย่างลับๆอยู่เสมอ

ในตอนแรกหนังทำให้เราคิดว่าสิ่งที่ Jimmy พูดออกมานั้นอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ และเข้าใจว่าเด็กวัยนี้มักจะไปจำคำพูดของผู้ใหญ่แล้วเอามาพูดซ้ำๆ และ Lisa ก็อาจจะคิดไปเองผนวกกับปมในใจของเธอที่เคยรู้สึกว่าลูกๆของเธอในวัยเด็กนั้นดูจะว่านอนสอนง่าย รวมถึงคิดว่าพวกเขาอาจจะประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ถ้าไม่ถูกกลืนไปกับวัตถุหรือสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และรู้สึกว่า Jimmy คือตัวแทนของลูกๆในวัยเด็กที่น่ารักของเธอ

ในบางครั้งการกระทำของ Lisa ก็ทำให้รู้สึกว่าเธอกำลังเอาเปรียบเด็ก และยัดเยียดความหวังรวมถึงความฝันของตัวเองที่ทำไม่สำเร็จให้ Jimmy รับไว้และสานต่อมันแทนตัวเธอเองจนทำให้เธอตัดสินใจทำบางอย่างดูจะไม่สมเหตุสมผลและเกินขอบเขตมากเกินไป แต่ในที่สุดหนังก็ทำให้เราเข้าใจเหตุผลของ Lisa ทำให้เรารู้สึกว่าเธอคือครูอนุบาลตัวจริงที่อ่านเด็กน้อยได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และอาจมีแค่เธอคนเดียวจริงๆเท่านั้นที่จะช่วยไม่ให้ Jimmy ถูกลบออกไปจากโลกนี้ได้