Girl "ฝันนี้เพื่อเป็นเกิร์ล" ภาพยนตร์เบลเยียมภาษาฝรั่งเศสผลงานการกำกับของ Lukas Dhont นำแสดงโดย Victor Polster เค้าโครงเรื่องได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของ Nora Monsecour นักเต้นอาชีพชาวเบลเยียมซึ่งเป็นผู้หญิงข้ามเพศ

Lara Verhaeghen (Victor Polster) สาวน้อยวัย 15 ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมตัวเพื่อเป็นหญิงข้ามเพศ เธอมีความรักในการเต้นบัลเลต์และใฝ่ฝันจะเป็นนักบัลเลต์อาชีพ ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้เธอต้องได้เข้าเรียนในชั้นเรียนเต้นเสียก่อน พ่อของเธอให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีในทุกด้าน เขาลงทุนพาทั้งครอบครัวย้ายมาตั้งรกรากที่นี่เพื่อให้ Lara ได้เข้าเรียนในโรงเรียนบัลเลต์ที่ดีที่สุดพร้อมทั้งได้อยู่ใกล้หมอเพื่อให้สะดวกต่อเตรียมพร้อมร่างกายและจิตใจของลูกสาวสุดที่รัก หนทางไม่ได้ง่ายซะทีเดียวเมื่อทางโรงเรียนยินดีจะรับ Lara เข้าเรียนแต่ต้องมีการทดลองเรียนเพื่อประเมินเสียก่อนเพราะเธอไม่เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป  

Lara ใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่วไป เธอมีน้องชายตัวน้อยหนึ่งคนในครอบครัวมีแค่พ่อ ตัวเธอและน้องชายเท่านั้น Lara รับหน้าที่ดูแลน้องชายตัวน้อยเกือบทุกอย่าง ทั้งทำอาหารให้ อาบน้ำแต่งตัว ส่งเข้านอน และสิ่งอื่นๆที่เธอพอจะทำได้ แต่น้องชายของเธอยังปรับตัวได้ไม่ดีนักสำหรับการย้ายโรงเรียนในครั้งนี้

ชีวิตในโรงเรียนของเธอเรียบง่ายและไม่มีอะไรหวือหวานักเพราะส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่คลาสบัลเลต์หลังเลิกเรียนเสียมากกว่า เธอแต่งตัวเหมือนกับเด็กผู้หญิงในชั้นเรียนแต่เพื่อนร่วมชั้นต่างก็รู้ดีว่าเธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงทั่วไป Lara ได้รับอนุญาตให้ใช้ห้องน้ำร่วมกับเด็กผู้หญิงคนอื่นได้แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็เลี่ยงที่จะอาบน้ำหลังจากเรียนเสร็จอยู่ดี ทุกครั้งที่ต้องออกไปพบผู้คนเธอเลือกที่จะใช้เทปกาวเพื่อปกปิดสิ่งที่เธอไม่ต้องการอยู่เสมอถึงแม้ว่ามันจะทำให้การทำกิจวัตรต่างๆของเธอยากขึ้นก็ตาม

เพื่อนผู้หญิงในชั้นเรียนดูเหมือนว่าจะเป็นมิตรกับเธอ แต่ในบางครั้งพวกเธอก็ดูจะอยากรู้อยากเห็นจนเกินควรซึ่งสร้างความลำบากใจให้กับ Lara อยู่เสมอ ครั้งหนึ่งในการเข้าค่ายเพื่อเก็บตัวที่ต่างเมือง เพื่อนสาวของเธอพยายามบีบบังคับให้ Lara เปิดสิ่งที่เธออยากให้มันหายไปที่สุดในชีวิตให้ดูโดยอ้างเหตุผลที่ว่าในเมื่อ Lara มีสิทธิ์ที่จะเห็นเรือนร่างของพวกเธอจากการใช้ห้องน้ำร่วมกัน ดังนั้นพวกเธอก็มีสิทธิ์ที่จะได้เห็นอะไรๆของเธอบ้าง

ชีวิตที่เหมือนจะดีกลับไม่ได้ดีอย่างที่คิด พ่อพาเธอไปพบแพทย์ตามปกติ เธอเลือกที่จะบอกว่าสบายดีทุกครั้งเพื่อให้หมอรู้สึกว่าเธอพร้อมเสมอ และแล้วการบำบัดด้วยฮอร์โมนก็มาถึง คุณหมออธิบายว่าทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่เธอรู้สึกอดรนทนไม่ได้ว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงทางกายถึงได้เกิดขึ้นช้าเหลือเกิน จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ฮอร์โมนอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ 

อาจด้วยเหตุผลจากการใช้เทปกาวปกปิดที่ทำให้เข้าห้องน้ำลำบาก เธอจึงไม่ค่อยทานอาหาร และดื่มน้ำน้อย เธอโหมซ้อมอย่างหนักทุกวันสำหรับโชว์สำคัญที่กำลังจะมาถึง ร่องรอยความเครียดและสุขภาพที่แย่เริ่มปรากฏ ทั้งๆ ที่บอกพ่อและหมอว่าสบายดี แต่หมอกลับบอกว่าสุขภาพของเธอไม่สู้ดีนัก อวัยวะเพศของเธอเกิดการติดเชื้อจากการใช้เทปกาวปกปิด เธอขาดสารอาหาร เครียด และอ่อนแอ จิตแพทย์บอกว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขไม่ว่าตอนนี้ร่างกายเธอจะเป็นอย่างไร หากเธอยังทำเช่นนี้อีกร่างกายเธอจะไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดครั้งสำคัญที่เธอเฝ้ารอ

ความเจ็บปวดทางใจของ Lara นั้นไม่ได้เกิดจากบุคคลสำคัญที่อยู่ในเส้นรอบวงของเธอ หนังสะท้อนให้เห็นว่าครอบครัวได้ support เธออย่างถึงที่สุดจึงตัดปัจจัยที่เกิดจากครอบครัวออกไปได้อย่างไม่ต้องสงสัยแต่คนที่อยู่นอกเส้นรอบวงของเธอต่างหากที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด 

คนส่วนใหญ่ชอบที่จะติดป้ายชื่อและจัดหมวดหมู่ให้กับสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่เสมอ ความรู้สึกก้ำกึ่ง ครึ่งๆกลางๆของ Lara ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม เธอไม่ได้อยากเป็นผู้ชายแต่ก็ยังเป็นผู้หญิงไม่ได้ เธอเลยรู้สึกว่าในตอนนี้ตนเองยังไม่มีสิทธิ์ที่จะมีความสุขจนกว่าเธอจะรู้สึกว่าตนเองได้ถูกติดป้ายชื่ออย่างสมบูรณ์

ความลำบากในชีวิตของเธอนั้นมีมากมาย การไม่ได้รับการฝึกขึ้นปลายเท้า(en pointe)แบบเด็กผู้หญิงมาตั้งแต่แรก ทำให้เธอต้องพยายามและเจ็บปวดมากกว่าคนอื่น อย่างไรก็ตามเมื่อฝึกฝนจนแข็งแรงความเจ็บปวดทางกายเหล่านั้นก็คงบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง แต่ความเจ็บปวดทางใจนั้นยากที่จะบรรเทาและควบคุม