เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FilmWATCHIES
HIDE AND SEEK | เมื่อความเหลื่อมล้ำมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน
  •               ถ้าคุณคิดว่า PARASITE คือหนังตลกร้ายที่เสียดสีชนชั้นแบบสุด ๆ เรื่องหนึ่งแล้ว วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับหนังทริลเลอร์ที่พูดถึงการดิ้นรนของคนจนได้อย่างน่าสนใจที่มาก่อน parasite ถึง 7 ปี เรียกได้ว่า before it was cool เลยทีเดียว นั่นก็คือ "HIDE AND SEEK" นั่นเอง

             HIDE AND SEEK คือหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของชายผู้ได้ข่าวเกี่ยวกับพี่ชายที่เขาเคยทำผิดด้วยในอดีตเลยทำให้เขาออกตามหาพี่ชายคนเดียวที่เขาเคยทำไม่ดีไว้ในอดีตและนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เลวร้ายเกินกว่าที่คนคนหนึ่งจะจินตนาการได้



    "ต่อจากนี้ไปจะมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่องแน่เลยค่ะ

    ใครที่อยากไปดูเองอาจจะต้องระวังหน่อยนะคะ หรือไม่ก็ปิดบทความนี้ก่อนเลย

    เรากลัวจะทำให้หมดอรรถรสในการดูเหลือเกิน

    และมีการใส่ความคิดเห็นของเราเพิ่มเติมปะปนอยู่ด้วยนะคะ"

                  หนังเล่าเรื่องผ่านตัวละครชายวัยกลางคนที่มีครอบครัวที่ดีและฐานะมั่นคงกับการออกตามหาพี่ชายที่ตัวเขาเคยทำผิดไว้ในอดีตแต่เพราะการทำผิดในอดีตครั้งนั้นได้ผลักพี่ชายเขาให้ไกลออกไปจนอยู่ในคนละชนชั้นกัน เขาเลยต้องออกตามหาพี่ชายตามสถานที่ต่างๆ ที่ดูจะเป็นที่อยู่ในสถานที่เสื่อมโทรมมาก นั่นก็ทำให้เขาได้เจอกับเรื่องราวแปลก ๆ ที่ไม่คาดคิด เริ่มจากการสัญลักษณ์เล็กๆ ที่ถูกทำไว้หน้าบ้านเพื่อบ่งบอกถึงจำนวนคนในบ้าน ไปจนถึงสองแม่ลูกที่ดูใจดีแบบแปลกๆ ที่อาศัยอยู่ในห้องใหญ่ที่สุดในอพาร์ทเม้นท์โทรมๆ แห่งนี้

                   คงเพราะความฝันที่อยากจะมีบ้านดีๆมีอะพาร์ตเมนต์หล้งใหญ่ใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบครันตามนิตยสารแต่งบ้านหรือการโฆษณาชวนเชื่อจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ฝันที่จะมีบ้านที่ดี แต่ทว่าราคาของการทำตามความฝันมันสูงลิบลิวเนื่องด้วยมีคนไม่กี่คนที่ถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ไว้ทำให้ต่อให้ทำงานทั้งชีวิตก็ไม่อาจไขว่คว้าบ้านหลังนั้นมาเป็นของตัวเองได้ และนั่นก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะลงมืออุกอาจในการสังหารเจ้าของห้องที่เธอแอบหลบอาศัยอยู่นานเพื่อยึดครองห้องที่ใหญ่ที่สุดอะพาร์ตเมนต์โทรม ๆ แห่งนี้

                   เรื่องดูเหมือนจะไปได้สวยแต่พอมีสิ่งที่เป็นโอกาสที่ดีกว่าเดินเข้ามาในชีวิตเธออย่างซอนซู ที่ก้าวเข้ามายังอะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ เพราะเจอเบาะแสของพี่ชาย ทำให้เธอดูจะมีเป้าหมายในการย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ จนต้องเริ่มวางแผนเพื่อที่จะย้ายมาอยู่ในบ้านของครอบครัวนี้โดยสมบูรณ์มีบ้านตามนิตยสารในแบบที่โลกทุนนิยมโฆษณา และกำหนดฝันของเธอไว้

                  ในตอนแรกที่เริ่มเรื่องดูเหมือนว่าเรื่องจะเน้นไปที่การเล่าถึงการที่ตัวละครซองซูออกตามหาพี่ชายแล้วไปพบเจอกับเรื่องราวเลวร้ายขึ้นแต่พอกลับมามองแล้วเราพบว่าเขาก็ได้ถ่ายน้ำหนักให้กับตัวละครของจูฮีที่ต้องต่อสู้และมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองและลูกน้อยในโลกแห่งนี้โดยที่ไม่เลือกวิธีเหมือนกันทำได้แม้กระทั่งสังหารคนเพียงเพื่อจะได้มีชีวิตดั่งฝันใฝ่ตามที่สังคมทุนนิยมคอยประโคมโฆษณาและขีดเขียนสิ่งที่เราควรเป้นไว้ดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า

     เรื่องจะค่อย เผยให้เราได้รู้จักกับเบื้องหลังของชายที่ดูจะมีฐานะที่ดีว่าแท้จริงแล้วเขาก็มาจากชนชั้นล่างเหมือนกันเพียงแต่อาจจะเป็นคนโชคดีไม่กี่คนที่ได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวที่มีกำลังทรัพย์จนทำให้เขาสามารถมีทุกวันนี้ได้ ในขณะที่จูฮีไม่ได้โชคดีขนาดนั้นเธอมีลูกติดอีกคนเป็นภาระที่ต้องเลี้ยงดูด้วยซ้ำ นี่อาจจะยิ่งเป็นการทำให้ให้เห็นถึงการมาจากจดเริ่มต้นที่ดูเหมือนกันแต่ไม่ได้เหมือนกัน เพราะในที่สุดแล้ว อำนาจเงินครอบครัวที่เต็มไปด้วยกำลังทรัพย์ก็มีแต้มต่อมากกว่าเสมอ ในโลกทุนนิยมแบบนี้

    แน่นอนว่าเราไม่ได้บอกว่าตัวละครนี้ทำถูกการฆ่าคนมันผิดอยู่แล้ว และไม่มีข้ออ้างใดๆ ให้กับตัวละครนี้เพียงแต่อยากชวนให้มองลึกลงไปถึงต้นตอของปัญหาว่าแท้จริงแล้วอะไรกันที่เป็นตัวผลักให้เขามาถึงจุดนี้สังคมทุนนิยมที่แสนจะเข้มข้นก็อาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยนั้น มันอาจจะเป็นภาพที่สังคมมองเห็นไม่ชัดนักและเมื่อมองลงมากจากคนข้างบนการดิ้นรนของคนข้างล่างเนื่องจากความเหลื่อมล้ำก็ดูเป็นเพียงนิทานปรัมปราที่เขานึกภาพไม่ออกด้วยซ้ำว่าคนแบบไหนกันที่จะไปแอบอาศัยอยู่ในบ้านคนอื่น

    เช่นเดียวกับการที่เสียงบรรยายในตอนสุดท้ายของเรื่องได้เล่าราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงตำนานเรื่องสยองขวัญที่มีคนเล่าๆ ต่อกันมาเพียงเท่านั้น คงเพราะว่าความจนที่ต้องดิ้นรนขนาดนี้ดูห่างไกลกับวิถีชีวิตของพวกเขาจนพวกเขาจินตนาการไม่ออก

    การที่เล่าถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมเกาหลีผ่านแง่มุมของอสังหาริมทรัพย์ที่หนังเรื่องนี้หยิบออกมาก็ทำได้น่าสนใจเลยทีเดียวและเราว่าเป็นการสะท้อนถึงปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ในเกาหลีที่ดูจะสูงขึ้นเรื่อย ๆจนการจะครอบครองมันในฐานะคนธรรมดาทั่วไปดูยากมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นแล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำในทีแรกที่ดูจะเป็นเรื่องของคนจนที่มีฐานะไม่ดีต้องหาที่อยู่อาศัย ด้วยวิธีที่แอบไปอาศัยบ้านคนอื่นอยู่กลับกลายเป็นปัญหาของคนชั้นบนขึ้นมาทันที เมื่อพวกเขากลายเป็นเป้าหมายใหม่ของการย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้

    ผนวกกับการที่หนังใช้แนวทางของทริลเลอร์ที่อาศัยมุมกล้อง จังหวะการร้อยเรื่อง องค์ประกอบศิลป์ต่าง ๆ ในการเล่าเรื่องยิ่งทำให้เรื่องยิ่งระทึกมากขึ้นแต่นั่นก็ทำให้คนดูสามารถสนุกกับมันไปได้ไม่ยาก ภายใต้ภาพหนังทริลเลอร์สั่นประสาทที่คนดูจะจดจำในแง่ของความน่ากลัวของคนแล้วยังแฝงไปด้วยการวิพากษ์และตั้งคำถามถึงสิ่งที่ความเป็นทุนนิยมมอบให้แก่สังคมในแบบฉบับหนังเกาหลีที่มาก่อนชนชั้นปรสิต (parasite) จะฉายเสียอีก

    และในความคิดเห็นส่วนตัวเพราะเลือกที่จะใช้องค์ประกอบต่างๆที่ว่ามายิ่งขับเน้นให้เห็นถึงความดิ้นรนปากกัดตีนถีบของคนชนชั้นล่างที่อยากจะโผล่ขึ้นมาหายใจเต็มปอดมากแค่ไหนอย่างที่เขาว่าความจนมันน่ากลัว คงเพราะมันยากที่จะคาดเดาว่าการไม่มีเงินในสังคมแบบนี้มันจะสามารถขับเคลื่อนเราไปได้ไกลแค่ไหน

    โดยส่วนตัวเราประทับใจการทำสัญลักษณ์หน้าห้องมาก เป็นไอเดียที่ดูจะเรียบง่ายแต่ว่าเจ๋งมาก ยิ่งทำให้เห็นการค่อย ๆ เฝ้าสังเกตและการรอคอยอย่างจดจ่อ คือมันไม่ใช่การกระทำชั่ววูบเลย ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว และด้วยการใช้ภาพ จังหวะต่าง ๆ ยิ่งทำให้เรื่องดูระทึกมากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะเรื่งมันดีมาก ยิ่งพวกซีนที่ศพแอบซ่อนอยู่ในตู้รอให้ตัวพระเอกมาพบเห็นทีละนิด เหมือนกับกำลังเล่นเกมซ่อนหาเลย ฉากที่ไล่ล่ากันคือสุดมาก ดูแล้วต้องกรี๊ดเรื่อยๆ ระทึกแบบไม่มีหยุดพัก สำหรับใครที่ชอบทริลเลอร์แนวไล่ล่ากัน ช่วงสุดท้ายของเรื่องน่าจะไม่ผิดหวังนะ คนเป็นแม่ที่ต้องดิ้นรนจะทำได้สุดแค่ไหน ก็ต้องมาลุ้นกัน

                  สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราได้จากการดูหนังเรื่องนี้ (ที่ไม่รู้ว่าผู้กำกับตั้งใจหรือไม่ในการที่จะสื่อสารตรงนี้หรือเป็นเพียงเราที่คิดมากไป) อาจจะเป็นการที่เรื่องยังเน้นให้เห็นถึงว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องของเราในทุกคนในสังคมการที่คิดว่าเราอาจจะหลุดพ้นจากปัญหาความเหลื่อมล้ำแล้วเพราะวันนี้เราก็มีบ้านดี ๆอยู่แล้ว มีชีวิตดี ๆ อยู่แล้ว ก็อาจไม่จริงเสมอไปในเมื่อท้ายที่สุดแล้วเราก็ยังต้องอยู่ร่วมในสังคมเดียวกันเพราะฉะนั้นตราบใดที่ยังหายใจร่วมกันเราก็ไม่อาจหลุดบ่วงของปัญหาที่จะเกิดจากความเหลื่อมล้ำได้โดยสมบูรณ์เช่นเดียวกับตัวละครในเรื่องนี้


    ----------------------------------------------------------------------------------

    เรื่องนี้อาจจะมีไวบ์ที่เราเขียนต่างจากเรื่องอื่น ๆ อยู่นิดหน่อย โทนเลยอาจจะจริงจัง (คนงงว่าจริงจังแล้วหรอ 5555) ไม่คุ้นตาไปหน่อยนะคะ 55555

    ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่ะ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in