ในบทความนี้เลยอยากที่จะนำเสนอเกี่ยวกับชุดความคิดที่บิดเบี้ยวและการกระทำบางอย่างที่ไม่ได้ตระหนักถึงความเจ็บปวดจากการถูกกดขี่ของกลุ่ม LGBT ที่เกิดขึ้นในสังคม เพื่อหวังให้เกิดการตระหนักและฉุกคิดในการกระทำบางอย่างของคนในสังคม ว่าอาจเป็นการลิดรอนสิทธิของกลุ่ม LGBT
จากภาพยนตร์เรื่องLove, Simon เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับความรักของเพศที่สามในช่วงวัยรุ่นเรื่องแรก ๆ ที่บริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่จัดทำขึ้นและภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เกิดความสนใจเกี่ยวกับประเด็นการเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศและทำให้ฉุกคิดว่าหากภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นในบริบทสังคมไทยจะมีผลลัพธ์เป็นอย่างไรและมีวาทกรรมหรือชุดความคิดใดที่ถูกผลิตซ้ำจนทำให้เกิดการปฏิบัติต่อกลุ่ม LGBT แบบที่กำลังเป็นอยู่ในสังคมไทยปัจจุบันนี้
เรื่องราวของตัวละครที่เปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศในภาพยนตร์เรื่องLove, Simon
รากฐานที่ทำให้เกิดชุดความคิดที่เข้าใจผิดคือ แบบเรียนของไทยที่ปลูกฝังความคิดผิด ๆ เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศและ สื่อที่ถูกผลิตโดยกลุ่มคนที่ไม่ได้เป็น LGBT ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากกลุ่ม LGBT เปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศในสังคมไทย
Love, Simon | อีเมลลับฉบับไซมอน - Official Trailer
Love, Simon ภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่ออกฉายในช่วงปี 2018 พูดถึงเรื่องการเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศของตัวละครหลัก Simon Spierซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเปิดเผยเพราะถูกเพื่อนร่วมชั้น Martin ขู่ว่าจะนำบทสนทนาที่เขาคุยผ่านทางอีเมลกับ Blue นักเรียนที่เปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศในเว็บบอร์ดของโรงเรียน โดยที่ไม่เปิดเผยตัวตนมาเปิดเผยให้คนอื่นในโรงเรียนรู้ ส่งผลให้ Simon ต้องทำตามคำขอของเพื่อนซึ่งก็คือต้องช่วยให้ Martin ได้พูดคุยกับ Abby เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ถูกเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ถูกพรากสิทธิที่จะเปิดเผยตัวตนด้วยตัวเองเพราะว่าMartin ที่ถูก Abby ปฏิเสธได้ทำการเผยแพร่ภาพบทสนทนาในอีเมลของ Simon ลงในเว็บบอร์ดโรงเรียน แต่ว่า Simon ก็สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นมาได้เพราะมีครอบครัว เพื่อน และคนรอบตัวที่เข้าใจเขา และเอาใจช่วยให้ผ่านเรื่องราวแย่ๆ มาได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนเข้าใจความหลากหลายทางเพศหรือ สิทธิในการเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่ม LGBT มากขึ้น และนอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ LGBT เปิดเผยตัวเองต่อครอบครัวและสังคมที่ตัวเองอยู่ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ภาพยนตร์เสนอออกมาเป็นเพียงผลลัพธ์ด้านที่ประสบความสำเร็จ นั่นคือการที่คนรอบข้าง สังคมยอมรับและเปิดกว้าง แต่ทว่าก็มีกลุ่ม LGBTจำนวนไม่น้อยที่ยังต้องเผชิญกับความขมขื่นและเจ็บปวดจากการเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองกับครอบครัวหรือสังคม
อย่างในประเทศไทยที่ดูเหมือนว่าจะเป็นสังคมที่เปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่พอเป็นคนในครอบครัวตัวเองที่กลายเป็นกลุ่ม LGBT ก็มีครอบครัวจำนวนไม่น้อยที่รับไม่ได้และต้องการให้ลูกหลานตัวเองมีเพศสภาพหรืออัตลักษณ์ทางเพศที่ตรงกับเพศกำเนิดมากกว่า นอกจากนี้ยังมีวาทกรรมอีกมากมายที่ถูกผลิตซ้ำทำให้เกิดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่กลุ่ม LGBTจะต้องปฏิบัติตามถึงจะได้รับการยอมรับจากครอบครัวและสังคมไทย อาทิ เป็นเพศไหนก็ได้ขอแค่เป็นคนดี เป็นประโยคที่ผู้ใหญ่มักจะพูดกับลูกหลานที่เป็น LGBT คล้ายว่าจะยอมรับและเปิดกว้างเรื่องเพศแต่กลับเอาประโยคนี้มาพูดสร้างเป็นเงื่อนไขว่า การที่จะเป็น LGBT ได้ต้องเป็นคนดีเท่านั้นหรือในอีกแง่มุมหนึ่งคือ หากกลุ่มคนรักต่างเพศเป็นคนไม่ดีก็จะถูกมองว่าเป็นคนไม่ดีเฉย ๆ แต่ว่าคนที่เป็นLGBTหากกลายเป็นคนไม่ดีจะถูกมองว่า เป็นตุ๊ด, เกย์, เลสเบี้ยน ฯลฯ แล้วยังเป็นคนไม่ดีอีก กลายเป็นว่าการที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิดนั้นเป็นสิ่งที่ทวีการกระทำที่เป็นความผิดของพวกเขาหรือ เป็น LGBT ได้แต่ต้องประสบความสำเร็จถึงจะได้รับการยอมรับ ซึ่งคนรักต่างเพศไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการประสบความสำเร็จก็ยังได้รับการยอมรับจากสังคม แต่พอเป็น LGBT กลับต้องประสบความสำเร็จถึงจะได้รับการยอมรับซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมและไม่ได้เปิดกว้างเรื่องเพศอย่างที่คนในสังคมเข้าใจไปเอง
นอกจากเรื่องแบบเรียนที่สร้างภาพจำหรือชุดความคิดที่ผิดเกี่ยวกับ LGBT แล้ว ยังมีสื่อในสังคมไทยที่สร้างภาพจำให้กับกลุ่ม LGBT เช่นการสร้างลักษณะตัวละครที่เป็น LGBT ในรูปแบบของกะเทยที่ตลกหรือเกย์ที่มีความต้องการทางเพศอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นการ Stereotype ทำให้สังคมเหมารวมพวกกลุ่มLGBT ว่าจะต้องมีแต่คนที่มีลักษณะนิสัยแบบนี้ซึ่งในความเป็นจริง LGBT ก็เหมือนคนทั่ว ๆ ไปมีความหลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและที่สำคัญคือสื่อในสังคมไทยมักไม่นำเสนอภาพของกลุ่มหญิงรักหญิง (Lesbian) ทำให้เพศหญิงรักหญิงกลับไม่ถูกมองเห็นบางคนไม่เชื่อด้วยซ้ำว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีอยู่จริง ทำให้การเป็น LGBT ที่มีเพศกำเนิดเป็นผู้ชายจะเป็นชายขอบในสังคมแล้ว การเป็น LGBT ที่มีเพศกำเนิดเป็นผู้หญิงเลยกลายเป็นชายขอบในชายขอบมากกว่าเดิมอีก
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากกลุ่ม LGBT เปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศในสังคมไทยที่ยังไม่เข้าใจถึงความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริงมีดังนี้
จากที่กล่าวมาไม่ได้จะเหมารวมว่าทุกคนในสังคมไทยไม่เข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศและไม่ตระหนักถึงปัญหาทุกคน เพียงแต่ต้องการให้คนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้ฉุกคิดและพิจารณาการกระทำของตัวเองมากขึ้น เพื่อรักษาและเยียวยาความเจ็บปวดจากการถูกกดขี่ของกลุ่มคนที่เป็น LGBT ในประเทศไทยเพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาก็มีคุณค่าเท่ากับเพศชายและหญิงและสมควรที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานทุกอย่างในฐานะที่เป็นประชากรของประเทศนี้และหวังว่าวันนึงสังคมไทยของเราจะเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริงและตระหนักถึงปัญหาในสังคมเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in