01
“ ท่านกำลังรบกวนเวลาอ่านคัมภีร์ของข้า หย่งชิน ”
“ เช่นนั้นยามไหนเล่าจึงจะไม่รบกวนเจ้าวันๆข้าก็เห็นเจ้านั่งคร่ำเคร่งอยู่กับคัมภีร์เหล่านี้ตลอด ”
“ ไม่มีธุระอื่นใดให้ทำหรอกหรือถึงได้มาก่อกวนข้า?” ม้วนบันทึกในมือวางลงกับโต๊ะไม้แม้จะไม่สบอารมณ์ที่ถูกรบกวนแต่สีหน้าก็หาได้แสดงท่าทีหงุดหงิดรำคาญแต่อย่างใดใบหน้านั้นยังคงเรียบเฉย น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง เฉยชาอีกเช่นเคย เห็นดังนั้นหย่งชินจึงคลี่ยิ้มบาง
“ ธุระ? ที่ข้ามาหาเจ้านี่ไม่เรียกว่าธุระหรอกรึ?”
“ แล้วท่านมีธุระอันใดกับข้าคุณชายหลี” คุณชายหลียกยิ้มเมื่อได้ยินคำถาม ดวงตากลมโตสุกสกาวราวกับได้ฟังถ้อยคำถูกใจ
“ อยากพบหน้า ”
“ ? ” คุณชายรองตระกูลต่งเลิกคิ้วเล็กน้อย แม้มิได้เอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดแต่หย่งชินรับรู้ได้ว่าต่งซือเฉิงกำลังสงสัย
“ข้าหมายความตามนั้นทุกคำซือเฉิง ”
“ หน้าข้ามี..
“ อยากพบ ”
“ พบข้า? ”
“ ใช่น่ะสิ ”
“ เหตุใดจึงต้องอยากพบ”
“ เพราะข้าจำต้องไปแล้วซือเฉิง ครั้งนี้ข้ามาเพื่อกล่าวคำลา ” สิ้นคำนั้นความเงียบพลันโรยตัวเข้าโอบอุ้มคนทั้งสอง หนึ่งเงียบนิ่งด้วยเฝ้ารออีกหนึ่งเงียบงันด้วยเหตุใดสุดยากจะคาดเดา
“ เช่นนั้นเอง ” แม้จะรู้ดีแก่ใจแต่สุดท้ายก็ยังอดคาดหวังไม่ได้ดวงตาที่เคยสุกสกาวของหลีหยงชิ่นไหววูบยามได้ฟังคำนั้น นี่ข้ากำลังจะจากไปไกลแท้ๆไม่คิดจะทัดทานหรือถามไถ่เลยสักนิดหรือไร
“ ไม่มีของแทนใจเลยหรือ?” น้ำเสียงนั้นแปลกไปกว่าทุกที ไร้ซึ่งทีท่าหยอกเย้าดั่งเช่นที่เป็นมาตลอดแต่กลับฟังดูคล้ายกำลังเว้าวอน
“ ไม่มี ”
“ อ้อ.. ” หยงชินหลุบตาลงต่ำ " เช่นนั้นข้าคงต้องขอลา " พูดทิ้งท้ายอีกครั้งพลางขยับกายหมายจะลุกขึ้น ทว่ายังไม่ทันที่จะได้เคลื่อนกายไปไหนฝ่ามือหนาของคนตรงหน้าก็เอื้อมมาจับชายเสื้อคลุมของเขาเอาไว้เสียก่อน
“ รักษาตัวให้ดี ” น้ำเสียงนั้นยังคงเรียบนิ่ง ทว่าดวงตาที่มองสบมากลับแฝงไว้ด้วยความนัย มือของซือเฉิงขยับเคลื่อนจัดเสื้อคลุมสีชาดที่อีกฝ่ายสวมใส่ให้เข้าที่ดั่งเช่นทุกครั้งที่เคยทำ
“ เสื้อคลุมนี้ข้ายังอยากได้คืน ”
เพียงเท่านั้นรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนดวงหน้างาม
แม้ครั้งนี้มีเหตุให้จำต้องลา แต่ด้วยสัญญา ภายภาคหน้าคงมีโอกาสได้หวนคืน
" เขาเว่ยซานจะรอเจ้า "
ดั่งเช่นที่เจ้าของแท้จริงแห่งเสื้อคลุมสีชาดเฝ้ารอนกนางแอ่นให้หวนกลับมา..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in