มนุษย์สร้างรถยนต์ขึ้นตามจุดประสงค์ของการใช้งาน เช่น รถเก๋ง รถกระบะ รถบรรทุก แต่ละรุ่นมีสเป็กต่างกัน บางรุ่นใช้งานเบาๆ บางรุ่นใช้รับน้ำหนักมากๆ ใช้เบนซิน ดีเซล ไฟฟ้าแล้วแต่จะกำหนด ชิ้นส่วนแต่ละชิ้น มีวิธีดูแลและใช้น้ำมันต่างกัน ถ้ารถได้รับการดูแลรักษาและใช้งานอย่างเหมาะสมตรงกับสเป็ก รถคันนั้นจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ถ้าคันไหน เจ้าของปล่อยปละละเลย ก็จะอายุสั้น และถ้าเผลอเติมน้ำมันผิด เครื่องพังทันที
ร่างกายมนุษย์ก็เป็นเครื่องจักรชนิดหนึ่่งแต่เป็น "เครื่องจักรชีวภาพ" ที่ "ธรรมชาติออกแบบและสร้างขึ้น" โดยกำหนดว่าร่างกาย "รุ่นปัจจุบันที่เรากำลังใช้กันอยู่ตอนนี้" มีสเป็ก มีวิธีใช้งาน และการบำรุงรักษาอย่างไร เช่น
- นอนกลางคืนวันละ 7-8 ชม. ตื่่นกลางวัน โดยต้องหลับสนิทช่วงเที่ยงคืน-ตี 2 ทุกวัน เพื่อเข้าศูนย์เช็คระยะ และ ซ่อมบำรุงอวัยวะต่างๆ
- ดื่มน้ำเพียงพอ กินอาหารครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมและหลากหลาย เพื่อเติมเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นให้กับชิ้นส่วนต่างๆ (ซึ่งถูกสมมุติให้เรียกว่าอวัยวะ) ของเครื่องจักรที่เรียกว่าร่างกาย
- เคลื่อนไหวร่างกายอยู่เป็นประจำเพราะมีข้อต่อ หากไม่ใช้เป็นเวลานานๆ จะเกิดพังผืดได้ (เหมือนข้อต่อเครื่องจักร ถ้าไม่ใช้จะขึ้นสนิม) ถ้าออกแบบมาให้อยู่นิ่งๆ ไม่ต้องเคลื่อนไหวก็ไม่จำเป็นต้องมีข้อต่อ เช่นเดียวกับต้นไม้
ถ้าเราทำได้ตรงกับที่ถูกออกแบบมา ก็ปกติ แข็งแรงดี ถ้าผิดก็เจ็บป่วย มากน้อยขึ้นอยู่กับเจ้าของร่างกายว่าละเลยแค่ไหน ธรรมชาติไม่เพียงออกแบบและสร้างร่างกายเท่านั้น แต่ยังกำหนดและจัดสรรอาหารให้เราด้วย เช่น ฤดูหนาวที่อากาศเย็น ภูมิคุ้มกันร่างกายจะลดลงแต่เราจะได้ภูมิเพิ่มจากผลไม้ที่ออกผลในช่วงเวลานี้ เช่น ส้มและผลไม้วิตามินซีสูงอื่นๆ หรือ ทุเรียนที่มีฤทธิ์ร้อนแต่มีมังคุดที่มีฤทธิ์เย็นออกผลในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นความบังเอิญหรือเป็นความตั้งใจของธรรมชาติกันนะ!!
ในธรรมชาติไม่มีอาหารวิเศษใดๆ ที่มีสารอาหารครบถ้วน 100% อาหารเสริม ยาต่างๆ ล้วนได้จากสิ่งที่เราสกัดจากธรรมชาติ เราสกัดสิ่งที่เรา "คิดว่า" ค้นพบและตั้งชื่อให้มัน จากสิ่งที่เราค้นพบและตั้งชื่อให้มันแล้วอีกที แต่ยังมีส่วนที่มนุษย์ไม่รู้จัก ค้นไม่พบ และไม่ได้ตั้งชื่อให้อีกมาก และด้วยศักยภาพที่ร่างกายมนุษย์ตอนนี้มี เราก็อาจไม่มีวันได้ค้นพบเลยก็เป็นได้ เรากินวิตามินซี 1 เม็ด ได้วิตามินซีอย่างเดียว แต่ถ้าเรากินส้มแค่ 1 กลีบ เราอาจได้ปริมาณวิตามินซีน้อยกว่าแต่เราได้สารอาหารอื่นๆ ที่รู้จักและยังไม่รู้จักอีกมากมาย ธรรมชาติอาจจะต้องการให้เราได้สิ่งอื่นๆ ที่จำเป็นและสำคัญต่อร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม จึงให้เราทานส้มหลายๆ กลีบเพื่อให้ได้ปริมาณวิตามินซีตามที่ร่างกายต้องการ
สิ่งที่มนุษย์คิดค้นและสร้างขึ้นนั้น อยู่ภายใต้ศักยภาพของร่างกายที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้เรามีเท่านั้น แต่มนุษย์อาจหาญ คิดว่าตนเก่งกล้าสามารถกว่าธรรมชาติผู้สร้างเรา และ คิดว่าตนเอาชนะได้ อ. หมอปัญญา เคยกล่าวว่า "ร่างกายคือหมอที่เก่งที่สุดในโลก เพราะร่างกายสามารถรักษาตนเองได้" กรณีกระดูกหักจะเห็นได้ชัด เพราะ "ร่างกาย" คือผู้ที่ทำให้กระดูกกลับมาติดกัน ส่วนหมอแค่ใส่เฝือกเพื่อลดการเคลื่อนไหว อำนวยความสะดวกให้กระดูกติดได้ง่ายขึ้น ให้ยาแก้ปวดเพื่อลดอาการปวด และให้แคลเซียมเสริมเพื่อให้ "ร่างกาย" นำไปซ่อมกระดูก แต่ไม่มียาใดๆ ที่ทำหน้าที่ "กาว" ซ่อมกระดูก ตัวอย่าง เราเคยข้อมือหัก เรารู้ว่าร่างกายต้องการแคลเซียมในปริมาณมาก และหมอก็สั่งแคลเซียมให้แล้ว แต่เราก็ประหลาดใจเพราะยังอยากกินชีสตลอดเวลา ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนชอบชีส แต่ช่วงนั้นต้องหามากินให้ได้ทุกวัน จนใกล้จะหายจึงได้รู้ว่า ตัวเองกินแคลเซียมไม่ครบตามหมอสั่ง เพราะประมาทไม่ยอมอ่านฉลากยา "ร่างกาย" จึงสั่งให้เราดื่มนม กินชีสเพิ่มขึ้น เพื่อรับแคลเซียมที่ขาดไป แต่เมื่อหายแล้ว เราก็ไม่เคยรูัสึกอยากกินชีสมากขนาดนั้นอีกเลย
ร่างกายมนุษย์มหัศจรรย์มาก ถ้าเราตั้งใจฟังเสียงที่ร่างกายบอก เตือน เราจะมีร่างกายปกติ แข็งแรงดี เอาไว้ใช้งานได้ยาวนาน ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องเข้าอู่ซ่อม (โรงพยาบาล) บ่อยๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in