สำนักพิมพ์ everY

        เฟื่องนคร ดารานักแสดงที่รับบทเป็นตัวร้าย แม้จะเป็นตัวร้ายในละครแต่ในชีวิตจริงเป็นตัวเอกสุดๆ มองโลกในแง่ดี สุภาพ ยิ้มเก่ง ไม่มีข่าวเสียหาย ด้วยความที่เฟื่องนครไม่ได้เล่นโซเซียลใดๆ เลย แต่เล่นแค่แอป 'เซนดาย่า' (แอปที่ต้องโพสแต่สิ่งดีๆ มีพลังบวกเท่านั้น) บรรดาแฟนคลับที่ติดตามเฟื่องนครก็เลยแห่กันมาเล่นด้วย ทำให้แอปนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและโด่งดังขึ้นมา 

        นาวี หรือ กรม พนักงานสัญชาติไทยของเซนดาย่าที่อเมริกา คอยดูแลโพสแฟนคลับของเฟื่องนครที่มีพลังลบค่อนข้างเยอะและนั่นทำให้เขารู้จักเฟื่องนคร เขาได้ลาพักร้อนกลับไทยเป็นเวลา 2 เดือน ตอนมาถึงสนามบิน นั่งรอคนมารับที่ร้านกาแฟ มีชายใส่หมวกและแว่นปรอทมาขอนั่งด้วยเพราะคนเต็มร้าน เขาได้ยินชายตรงหน้าพึมพำอะไรบางอย่างและแผ่รังสีน่ากลัว กรมตัวสั่นจนชายตรงหน้ารับรู้ เขากล่าวขอโทษขอโพยแล้วแสดงตัวว่ากำลังซ้อมบทอยู่ เขาคือ เฟื่องนคร นั่นเอง เขาทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน พอเฟื่องนครรู้ว่ากรมคือพนังงานของเซนดาย่า เขาตื่นเต้นมาก ขอถ่ายรูปกับกรมและขอโพสลงเซนดาย่า ทำให้บรรดาแฟนคลับกริ๊ดกร๊าดจนเกิดคู่จิ้นขึ้น และงานกำจัดโพสพลังลบยุ่งยากขึ้นไปอีก

        พอกรมกลับมาถึงบ้านก็ได้รู้ว่าครอบครัวมีลูกชายคนใหม่ที่อยู่ข้างบ้านเขานี่เอง และคนๆ นั้น คือ เฟื่องนคร นั่นแหละครับบบ จุดใต้ตำตอมาก อะไรมันจะขนาดนั้น 

       และแล้วทั้งสองคนก็ค่อยๆ รู้จักกันมากขึ้น มากขึ้น...

       เฟื่องนคร เป็นตัวละครที่เราคิดว่าถ้ามีอยู่ในชีวิตจริงก็คงจะดีมาก เป็นคนที่คิดดีทำดีด้วยหัวใจจริงๆ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรเขามักยิ้มรับปัญหา ยิ้มรับความใจร้าย คิดถึงส่วนน้อยนิดที่เป็นแสงริบรี่ของเขา เราตกหลุมรักตัวละครนี้มากๆ เลยค่ะ

       ในเรื่องมีรุ่นพี่ของเฟื่องนคร ชื่อ กอ หรือ กรดิฐ เป็นดารานักแสดงที่รับบทพระเอกในจอ แต่นอกจอเป็นตัวร้าย  มีข่าวกับผู้หญิงไปทั่ว เจ้าชู้ เที่ยวกลางคืน วีน เหวี่ยง จนเป็นข่าวหน้าหนึ่งเป็นเรื่องปกติ ตัวละครตัวนี้เป็นตัวฮาของเรื่องเลยก็ว่าได้ ชอบแซวพระเอกกับนายเอกอ่ะ เฮียเขาออกมาที่ทีก็ตลก 

       เรื่องราวของเรื่องก็เกี่ยวกับความกดดันในวงการบันเทิง นักแสดงเปรียบเสมือนสินค้า ต้องคอยแคร์แฟนคลับ รักษาภาพลักษณ์ ปกปิดสังคมในสิ่งที่ไม่ยอมรับ มีผลร้ายมากกว่าผลดี และโลกโซเซียวที่ไปไกลเกินกว่าที่จะควบคุมได้ ทุกๆ สิ่งที่คุณนักเขียนต้องการจะสื่อ คือ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นและเกิดขึ้นจริงๆ ในสังคมของเราเลยค่ะ ที่พี่เฟื่องไม่เล่นโซเซียลก็เพราะแบบนี้นี่แหละค่ะ 

        กว่าจะผ่านหลายๆ อย่างมาได้ก็ทุลักทุเลพอดูค่ะ