Strangers from hell ซีรีส์จากเว็บตูนชื่อดังว่าด้วยเรื่องราวของ ยุนจงอู ผู้ชายที่เข้าเมืองหลวงมาเพื่อทำงานประจำกับรุ่นพี่คนสนิทแต่ด้วยว่าไม่ได้มีเงินมากเลยจำเป็นต้องอยู่ที่ห้องพักราคาถูกสภาพโทรมๆ ห้องนอนที่มีพื้นที่เท่าแมวดิ้นตาย ใช้ห้องน่้ำและห้องครัวร่วมกันกับเพื่อนร่วมหอสุดพิลึกที่เต็มไปด้วยความน่าหวาดระแวงว่าพวกเขาจะทำอะไรสักอย่าง
มารู้จักกับตัวละครกันหน่อยค่า
ยุนจงอู ชายหนุ่มจากต่างจังหวัดที่เข้ามาโซลเพื่อเริ่มต้นชีวิตการทำงานในเมืองหลวง
ซอมุนโจ ทันตแพทย์หนุ่มรูปหล่อที่ปรากฎตัวพร้อมกับรอยยิ้มพริมใจตลอดเวลา
เพียงแค่ตัวอย่างก็คงบรรยากาศความวังเวงน่ากลัวแบบหฤหรรย์ไว้แล้ว น่ากลัวมากว่าเพื่อนร่วมหอพักของเขาจะรังสรรค์อะไรให้เกิดขึ้นบ้าง
ต่อจากนี้ไปจะมีความคิดเห็นของเราร่วมด้วย รวมไปถึงน่าจะมีสปอยล์หลุดออกมาด้วยนะคะ ถ้ายังไมไ่ด้ดูก็อาจจะเจอสปอยล์ได้ 555555
stranger from hell เป็นซีรีส์ที่ใช้คอนเซปต์วัยเริ่มทำงานในการเล่าว่าสิ่งแวดล้อม สังคมรอบข้างสามารถเปลี่ยนเราได้ยังไงบ้าง ผ่านตัวละครต่างๆที่ถูกวางมาเพื่อเป็นนรกให้กับตัวยุนจงอู พระเอกของเราที่ไม่ได้มีทางเลือกมากนักในการเริ่มต้นชีวิตในเมืองหลวง ด้วยค่าครองชีพที่แพง ค่ามัดจำห้องต่างๆที่ราคาสูงเกินกว่าเขาจะเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานดีๆด้วยเงินเก็บที่มีได้ ที่บีบบังคับให้เขาต้องลงสู่นรกขุมนี้ด้วยค่าห้องที่ราคาถูกพอที่เขาจะสามารถดำรงชีวิตในเมืองหลวงแห่งนี้ได้
ยุนจงอูที่รับบทโดยอิมชีวานเป็นตัวละครที่มีภาพลักษณ์เป็นคนธรรมดาทั่วไป หนุ่มหัวร้อนที่เก็บความี่รู้สึกเดือดดาลทั้งหมดไว้ภายใต้ภาพลักษณ์สุภาพเรียบร้อยและไม่ค่อยพูด อาจด้วยสภาพครอบครัวที่ได้พบเจอ เขาเป็นที่พึงของแม่ในหลายคราต่างจากพี่ชายที่มีพัฒนาการไม่สมวัย ที่แม่ต้องคอยดูแลอยู่เสมอ หรือเป็นความทรงจำอันเจ็บปวดหลายครั้งสมัยที่อยู่ในกรมเลยทำให้เราพอจะเข้าใจได้ว่าสังคมรอบข้างหล่อหลอมเขามาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
ยุนจงอูเป็นตัวละครที่เราจะได้เห็นการพัฒนามากที่สุด เพราะเขาคือคนที่โดนสภาพแวดล้อมในเมืองหลวงแห่งนี้เปลี่ยนไปมากที่สุด เราชอบการเล่าให้เห็นถึงอารมณ์ภายในของตัวละครตัวนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ว่าเขารู้สึกนึกคิดยังไงภายใต้สถานการณ์ต่างๆที่เขาจำเป็นต้องเก็บอารมณ์ไว้ และความรู้สึกที่เก็บไว้ภายในที่เราได้เห็นก็ค่อยๆพัฒนาความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆไปพร้อมๆกับภาพลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
นั่นทำให้ยุนจงอูเป็นตัวละครที่ตีความออกมายากมาก ตามสภาพจิตใจที่บิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ อิมชีวานมาตีความตัวละครตัวนี้ออกมาได้น่าสนใจมาก เขาพัฒนาบุคลิกภายนอกของยุนจงอูจากอีพีแรกถึงอีพีสุดท้ายได้น่าสนใจมาก รวมไปถึงการระเบิดอารมณ์ของยุนจงอูในแต่ละครั้งที่อิมชีวานทำออกมาได้ดีและสมบูรณ์แบบมาก เราชอบการแสดงความหวาดกลัวที่มีมากขึ้นเรื่อยๆผ่านบุคลิกหลุกหลิกที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง และความอัดอั้นที่ไม่มีใครสักคนรับฟังความทุกข์ร้อนของเขา จนในวันที่เริ่มมีคนรับฟังมันก็สายเกินไปซะแล้ว อิมชีวานเล่นเป็นยุนจงอูได้ดีมากจนเราไม่รู้ว่าจะห้ามใจไม่ให้อวยเขาได้ยังไง
ตัวละครอีกตัวที่ต้องพูดถึงคือซอมุนโจที่ได้อีดงอุคมาทำให้ตัวละครนี้มีมิติมากขึ้น เป็นตัวละครที่ซับซ้อนมากและพาเราดำดิ่งไปถึงก้นบึ้งความดำมือของจิตใจมนุษย์ ภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูสุขุม นุ่มลึก มาพร้อมกับรอยยิ้มพริมใจในฐานะคุณหมอฟันใจดี กลับซ่อนเรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวไว้เต็มหมด เป็นตัวละครที่พกความบ้าคลั่งมาอย่างเต็มเปี่ยม
และอีดงอุคเล่นออกมาได้เนี้ยบมาก ทำให้ตัวละครตัวนี้ดูขนลุกตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นเขาปรากฎตัวขึ้นในฉากพร้อมกับรอยยิ้มพริมใจในฐานะคุณทันตแพทย์ สิ่งที่เราอาจจะไม่ชอบสักหน่อยคือการที่เขาวางแบล็คกราวน์ของตัวละครตัวนี้มาน้อยเกินไป ทำให้เราไม่ได้รู้จักเขามากเท่าไหร่ เลยเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีมิติให้พูดถึงเยอะนัก แต่ในเรื่องของการสร้างคาแรคเตอร์ตัวนี้ให้บิดเบี้ยวจนสามารถบิดจิตใจคนธรรมดาคนหนึ่งได้อันนี้คือไม่รู้จะพูดยังไงเลย ทำออกมาได้เพอร์เฟคมาก
นักแสดงกลุ่มนี้ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือชาวหอพักเอเดนที่คือเขาพาตัวละครไปจนสุดทางมาก สุดยอดมาเลยที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีขนาดนี้ เยิ่งดูก็ยิ่งขนลุกการแสดงของแต่ละคนเต็มไปด้วยความสยดสยองในแบบที่เราจินตนาการไม่ถึงว่าตัวละครพวกนี้มีความดำมืดอะไรในจิตใจอยู่บ้าง
ทั้งตัวป้าเจ้าของหอพักออมบกซุน(อีจองอึน)ที่ซ่อนความเลือดเย็นอำมหิตผ่านรอยยิ้มเป็นมิตรที่ชวนขนลุกและบุคลิกน่ารำคาญได้อย่างแนบเนียน
พี่ฝาแฝด(พัคจองฮวาน)สุดยอดมาก คือเขาเล่นเองคนเดียว แต่สร้างบุคลิกที่ต่างกันขนาดนี้ ในทางนี้ได้ยังไง เขาเล่นเป็นตัวละครฝาแฝดที่ดูจะมีปัญหาด้านการพูดและพัฒนาการ กับลุคพี่ชายที่ต้องคอยดูแลน้องได้ยังไงกัน
และชายผู้มีบุคลิกน่าขยะแขยง เห็นเขาปรากฎตัวขึ้นทีไรก็รู้สึกสะอิดสะเอียนทุกที อย่างฮงนัมบ๊ก(อีจองอ๊ก)ที่ชอบถือมีดป้วนเปี้ยนตลอดเวลา อีกทั้งยังชอบดูหนังโป๊แบบเปิดประตูห้องอีกด้วย
แน่นอนว่าสิ่งที่เราเสียดายคือตัวซีรีส์ไม่ได้เล่าถึงพื้นเพตัวละครพวกนี้ให้เราได้รู้จักมากนัก (เขาแง้มให้ดูนิดๆว่าตัวละครแต่ละตัวมีเบื้องหลังยังไง แต่มันแค่นิดเดียวจริงๆค่ะ 5555555) แต่ตัวนักแสดงถ่ายทอดออกมาได้ดีมากกับบุคลิกที่ยากขนาดนี้เลยอยากพูดถึงสามคนนี้เป็นพิเศษ
เมื่อคนรอบข้างกลายเป็นนรกสำหรับเรา เราจะทำยังไงเพื่อให้หลุดพ้นจากนรกนี้ได้ละ อาจจะเป็นจุดหลักของเรื่องนี้ ซีรีส์เล่าถึงการที่คนธรรมดาคนหนึ่งซึ่งมีชีวิตธรรมดาต้องดิ้นรนเข้ามาทำงานและใช้ชีวิตในเมืองหลวงพบเจอกับสภาพแวดล้อมที่รายล้อมไปด้วยนรกจนไม่รู้จะหันหน้าไปคุยกับใครว่าจะถูกเปลี่ยนไปได้แค่ไหนกับสภาพแวดล้อมแบบนี้
แน่นอนว่านรกแรกที่ได้เจอคือหอพักเอเดน หอพักราคาถูกที่ยุนจงอูจำเป็นต้องเข้าไปอาศัยอยู่ ซึ่งสภาพแวดล้อมก็เต็มไปด้วยคนพิลึกๆที่ทำเอาเราประสาทเสียได้ การทืี่มีที่ซุกหัวนอนเปรียบเหมือนนรกคงยังไม่พอ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดทำให้จงอูยังต้องเจอสภาพแวดล้อมในการทำงานที่แย่อีก
ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องราวนรกรอบตัวยุนจงอูนั้น ต้องขอชื่นชมงานภาพมาก การใช้มุมกล้อง เทคนิคภาพมาใช้เล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ รวมไปถึงการบิล์ดอารมณ์เราคนดูหน้าจอให้ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆตามมุมกล้องที่เคลื่อนผ่านกำแพงไป การ transition ฉากเจ๋งมาก งานอย่างเนี้ยบ เขาตัดต่อฉากหนึ่งไปอีกฉากหนึ่งเพื่อใช้เล่าเรื่องเชิงเปรียบเทียบได้เนี้ยบมาก มีการคิดมาอย่างดีตั้งแต่หน้างานแน่เลย สุดยอดมาก ดูแล้วอ้าปากค้างเพราะมันเจ๋งมากจริงๆ
นรกที่ชื่อว่าหอพักเอเดน เป็นนรกที่ถูกวางให้ปรากฎชัดในสายตาเราผ่านการกระทำที่เต็มไปด้วยความผิดปกติทางจิตของแต่ละตัวละครในห้องพักที่คอยจับจ้องเขาตลอดเวลา และคอยพยายามทำอะไรแปลกๆกับเขาอยู่เสมอ หอพักเลยกลายเป็นกรงที่เขาจะถูกจับจ้องด้วยคนพวกนั้นอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ในสวนสัตว์อย่างไรอย่างนั้น แน่นอนว่าเมื่อที่พักไม่ได้กลายเป็นที่พัก มันก็สร้างความเครียดให้กับเขมากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเราจะเห็นได้จากบุคลิกของจงอูที่จะเปลี่ยนไปเรื่อย เขากลายเป็นคนหวาดระแวงมากขึ้นเรื่อยๆ และเสียงในหัวก็เริ่มแข็งกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ จนในวันหนึ่งเสียงในหัวก็กลายเป็นสิ่งที่เขาทำจริงๆขึ้นมา
นอกจากเพื่อนร่วมหอพักที่ดูประหลาดแล้ว สภาพหอพักก็ไม่ได้ชวนให้อยู่เหมือนกัน สภาพห้องคับแคบที่แม้แต่จะยืดขาอย่างอิสระก็ทำไม่ได้ ห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท ผนังที่บางเสียจนคุยโทรศัพท์ยังได้ยิน พื้นที่ใช้สอยส่วนกลางก็ดูเก่าและเขรอะเสียจนไม่น่าอยู่อาศัย แต่นี่คือสิ่งที่ยุนจงอูต้องทนเพราะเป็นที่เดียวที่คนอย่างเขาที่เพิ่งเริ่มทำงานแบบไม่มีเงินเก็บมากนักพอจะจ่ายเพื่ออาศัยซุกหัวนอนได้ เพื่อเก็บเงินหาค่ามัดจำที่พักที่ตัวเขาพูดถึงอยู่หลายครั้ง
สำหรับเรามันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่โลกการทำงานและทุนนิยมบีบให้ตัวละครต้องทนแบบนี้ บางทีซีรีส์อาจจะชวนให้เราตั้งคำถามกับรัฐว่าเขาอาจจะมองข้ามคนกลุ่มนี้ไปรึเปล่า กลุ่มคนที่ต้องเริ่มชีวิตด้วยตัวเองแต่ค่าที่อยู่อาศํย ค่าครองชีพก็สูงเสียจนเขาไม่สามารถจะมีชีวิตที่อยู่ในสภาพแวดล้อมดีๆได้ถ้าไม่มีพริวิเลจ และก็แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมแบบนี้ส่งผลกับการทำงานของเขาอยู่แล้ว
มาถึงส่วนที่สอง นรกที่แอบซ่อนอยู่คือสภาพนอกห้องพักที่ตัวยุนจงอูต่อเผชิญในรูปแบบของที่ทำงานและคนรอบตัวนอกหอพัก สเต็ปการค่อยๆฉายภาพส่วนนี้ให้ชัดของเรื่องดีมาก เขาใช้ปัญหาที่จงอูเจอในหอพักเอเดนมาเป็นส่วนช่วยทำให้เราได้เห็นนรกในพาร์ทชีวิตนอกหอพักของเขาชัดขึ้น
นรกที่มาในรูปแบบของที่ทำงาน ทำให้เราคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้วิพากษ์สังคมเกาหลีเกี่ยวกับ First jobber ได้น่าสนใจมาก เราชอบที่เขาเลือกจะหยิบวัยเริ่มต้นทำงานมาพูดถึง มันเป็นช่วงเวลาที่เราจะสยบยอมต่ออำนาจนิยมเพราะทุนนิยมมากที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่หลายคนโดนมองข้าม เพราะหลุดจากสถานะนักศึกษาแล้ว เป็นวัยทำงานแล้ว แต่ก็ไม่ได้แข็งแรงพอที่จะตั้งไข่ได้ด้วยตัวเองในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำสูงมากขนาดนี้ เขาเล่าเรื่องนี้ผ่านทั้งตัวยุนจงอูและยังใช้เรื่องนี้เป็นการสร้างให้คิมจีอึนแฟนสาวของเขาห่างออกไปทีละนิด
ซีรีส์ได้เซ็ตสภาพแวดล้อมที่ทำงานที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลยสำหรับเขา มันเริ่มไม่เป็นมิตรตั้งแต่แรกที่รุ่นพีี่ในมหาลัยชวนเขามาทำงานให้ ด้วยความอนุเคราะห์อยากเห็นเขามีงานทำ ตัวละครรุ่นพี่คนนี้ยังถูกวางมาเพื่อกดเขาโดยเฉพาะ ชินแจโฮคือรุ่นพี่บ้านรวยที่ดูเหมือนจะใจดี ชวนเขาเข้ามาทำงาน แต่ระหว่างที่อยู่ด้วยกันก็กดเขา และยกยอปอปั้นตัวเองเสียจนคนดูอย่างเราอึดอัด ไหนจะการที่พูดถึงแฟนเขาอย่างดูสนใจและกึ่งคุกคามอีก แต่ตัวจงอูก็ต้องทนเพราะเขาคือ 'นายจ้างที่ใจดี' อุตส่าห์ตามตัวรุ่นน้องที่มหาลัยมาช่วยทำงาน
และนั่นทำให้จงอูมีภาพลักษณ์เป็นเด็กเส้นในสายตาของหัวหน้าในที่ทำงาน อีกทั้งหน้าตาของเขาที่ชวนเป็นที่หงุดหงิดใจของหัวหน้ายิ่งทำให้เขาอยู่ยากเข้าไปใหญ่ หัวหน้าเขาตั้งป้อมตั้งแต่วันแรกที่มาทำงาน ทำให้ทุกวันที่ต้องมาทำงานของยุนจงอูก็ไม่ต่างกับนรก เพียงแต่อาจจะดีกว่าที่หอพักเสียหน่อย เพราะต้องเจอ แต่คำเสียดสีดูถูกของหัวหน้าตลอดเวลาที่สบโอกาส แม้ว่าอาจจะมีเพื่อนร่วมงานที่คอยช่วยเบรกหัวหน้าบ้าง แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก
ส่วนในพาร์ทของจีอึน แฟนสาวของเขา เธอก็ถูกงานทำให้ห่างจากเขาไปเรื่อยๆเหมือนกัน หัวหน้าของจีอึนคือหัวหน้าในแบบที่เราไม่อยากทำงานด้วย เธอโดนหัวหน้ากลั่นแกล้งเรื่องงานอยู่หลายที และโดนเสียดสีอีกหลายครั้ง ทำให้ตัวเธอเองก็มีเรื่องราวมากมายที่ต้องทำและต้องคิด และนั่นทำให้เธอไม่ได้พร้อมหรือมีเวลาฟังเรื่องราวของทุกข์ใจของจงอูเท่าไหร่นัก และเริ่มไม่เข้าใจนรกที่จงอูต้องเจอที่หอพักมากขึ้นเรื่อยๆ
เราชอบที่เขาเลือกที่จะพูดถึงความชอบของยุนจงอูอย่างการเขียนนิยาย ชอบเขียนนิยาย และเขียนดีอยู่เลยในระดับหนึ่งถ้าอิงจากคำพูดของชินแจโฮ ที่ได้พูดถึงเขาไว้ช่วงต้นเรื่อง แต่สภาพสังคมแบบนี้อาจจะไม่ได้มีพื้นที่ให้ได้ทำงานที่ฝันอย่างจริงจังมากนัก ตัวเขาก็ยังต้องมาเริ่มทำงานที่ไม่คุ้นเคยในเมืองโซลเพื่อเลี้ยงชีพเหมือนกัน เป็นการวิพากษ์ทุนนิยมได้อย่างน่าสนใจมาก
ซีรีส์ยังเล่าถึง trauma ในการเข้ากรมของเขา พูดถึงการกลั่นแกล้งในค่ายทหาร วิพากษ์ระบบค่ายทหารเกณฑ์ของเกาหลีใต้ ว่ามันได้สร้างบาดแผลให้กับตัวละครของเรามากแค่ไหน ระดับที่เขาต้องเก็บมาฝันอยุ๋เรื่อยๆแม้จะออกมาแล้ว เราชอบตรงนี้นะ มันคือการตีแผ่ให้เห็นว่าตัวละครนี้เขาเจออะไร ต้องเก็บซ่อนอะไรไว้บ้าง และยังแวะกัดระบบอำนาจนิยมในกองทัพอีกด้วย
เรื่องสภาพแวดล้อมเปลี่ยนคนเราได้มากแค่ไหน ตัวซีรีส์ได้ให้คำตอบเราไว้ในเบื้องต้นผ่านตัวซอมุนโจทั้งในแง่เป็นผลลัพธ์และเป้นคนสร้างสภาพแวดล้อมนั้นเสียเอง ผู้ชายห้อง 302 เป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่เขาได้สร้างไว้ว่าเขาสามารถทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งกลายเป็นคนที่มีสภาพจิตใจที่บิดเบี้ยวได้ และเขาก็ยังเป็นผลงานที่เกิดจากการเลี้ยงดูของออมบกซุนเจ้าของหอพักที่แฝงความอำมหิตไว้ในรอยยิ้มป้าใจดีแสนเป็นมิตร แต่ได้เล่าถึงขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงผ่านการพัฒนาตัวละครของยุนจงอู ที่เราจะได้เรียนรู้และจับตาดูไปพร้อมๆกัน
สำหรับเราซีรีส์เรื่องนี้ชวนเราตั้งคำถามถึงความเหลื่อมล้ำและชนชั้นได้อย่างน่าสนใจมาก ผ่านสภาพการเป็นอยู่ของคนวัยเริ่มทำงานที่ไม่มีทุนทรัพย์อะไร ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดในเมืองหลวง โดยยกมาเทียบกับตัวละครชินแจโฮที่บ้านมีตังค์จบออกมาก็ไม่ต้องดิ้นรนมาก อยากเปิดบริษัทก็ได้เปิดเลย และยังแวะกัดการสงเคราะห์โอกาสของคนรวยอย่างชินแจโฮ รุ่นพี่ยุนจงอูที่ทำราวกับว่าการให้โอกาสจงอูได้เริ่มต้นในโลกทุนนิยมแบบนี้คือการสงเคราะห์ครั้งใหญ่ โดยไม่ได้เข้าใจถึงมิติอะไรเลยที่คนชั้นล่าง คนใต้บังคับบัญชาต้องเผชิญ สักแต่คิดว่าได้ทำดีแล้ว ก็เป็นความน่าหดหู่ที่เพราะเงินทำให้เขาต้องทนอยู่กับคนประเภทนี้ เพียงเพราะมันเกิดมารวยกว่า
อีกเรื่องหนึ่งที่คิดว่าต้องพูดคือซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราตระหนักถึงหนึ่งอย่างว่าสังคมเราละทิ้งคนชั้นล่างมากไปรึเปล่า ในเรื่องมีตัวละครหลายตัวที่ไม่อยากจะเชื่อว่าที่หอพักนั้นมีการฆาตกรรม ไม่ได้คิดว่าจะมีการฆาตกรรมต่อเนื่องกลางโซลที่ใหญ่ขนาดนี้ นั้นก็เพราะคนแต่ละคนที่หายไปเป็นคนที่ไม่ได้สำคัญในสายตาของคนชั้นกลาง เป็นนักเลง เป็นแรงงานข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นพลเมืองชั้นสองในสายตาใครหลายคนอยู่แล้ว การที่เขาจะหายตัวไป หาไม่เจอมันก็เลยไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก จากซีรีส์จะเห็นได้ว่าจุดเริ่มต้นของการสืบสวนจริงๆ (ไม่นับการที่ตัวคุณตำรวจโซจองฮวาเริ่มสงสัยและตามหาความจริงอยู่คนเดียว) ก็คือการที่ตำรวจหายตัวไป
สิ่งที่เราว่าน่ากลัวมากคือ ซีรีส์ทำให้เรารู้สึกว่าการฆาตกรรมแบบนี้เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้บนโลกใบนี้ ในพื้นที่ที่เราที่อยู่ห่างไกลจากวิสัยทัศน์การรับรู้ของเรา เขาเล่าค่าของชีวิตคนชนชั้นล่างที่สังคมไม่อยากเหลียวแลผ่านการถูกฆ่าเป็นผักปลาในเรื่องนี้ได้อย่างน่าสลดใจ
อาจจะชวนให้คิดได้ว่าภายใต้สภาพสังคมทุนนิยมแบบนี้มันได้เปลี่ยนให้คนรอบตัวเรากลายเป็นนรกสำหรับเราไปแล้วรึยัง และร่วมสำรวจตัวเองว่าเราที่อยุ่ภายใต้สังคมทุนนิยมแบบนี้กำลังตกนรกอยู่รึเปล่า ที่เราต้องคอยละทิ้งความฝันที่ทำไม่ได้เพียงเพราะเราไม่สามารถแปลงมันเป็นเงินได้ในโลกแห่งนี้ แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่เราไม่ได้ชอบนัก สภาพแวดล้อมที่ทำงานทีี่ห่วยแตก แต่ก็ต้องกัดฟันทนเพื่อเงินเดือนที่พอยาไส้ในแต่ละเดือน
บางทีเราก็ก็อาจจะอยู่ในนรกขุมเดียวกันกับที่จงอูเผชิญ
เพียงแต่ไม่ได้โชคร้ายเท่าเพราะไม่ได้เจอหอพักเอเดนเท่านั้นเอง
ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้ยุนจงอูเดินมาไกลขนาดนี้คงต้องตอบว่าทุกอย่างรอบตัวเขา จงอูมาเจอคนที่พร้อมจะรับฟังเขาในวันที่สายเกินไปแล้ว เขาไม่สามารถออกจากขุมนรกนี้ได้แล้ว แน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้รับฟังคนได้ทุกคน แต่ดูจบแล้วก็ทำให้เราอยากจะใส่ใจสิ่งที่คนรอบข้างอยากระบายขึ้นบ้าง เพราะเราก็ไม่ได้อยากเป็นนรกให้คนที่เราเป็นห่วงเหมือนกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------
จบแล้วค่ะกับ strangers from hell เหนื่อยมากกับการดู 10 ตอน 55555
จังหวะเรื่องดูแล้วมันลุ้นมาก เราดูไปพอสไปอีกแล้ว เพราะต้องหยุดพักของหายใจหน่อย เป็นซีรีส์ที่เครียด และเอฟเฟคมากจริงๆ 5555555
นอกจากนั้นแล้วยังวิพากษ์สังคมได้น่าสนใจมากอีกด้วย ภายใต้หนังสยองขวัญกลับเต็มไปด้วยประเด็นวิพากษ์สังคมมากมาย งานภาพก็ดีเยี่ยม นักแสดงก็โคตรดีเยี่ยม ถ้าไหวก็อยากให้ลองดูกันนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in