"รัก...ต้องลึกซึ้งเช่นไร
จึงทำให้การจากลาเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนได้ถึงเพียงนี้?"
- เสิ่นหลี
(เล่ม 1, หน้า 66)
"ปฐพีไร้พ่าย (與鳳行)"
ผู้เขียน: จิ่วลู่เฟยเซียง (九鹭非香)
ผู้แปล: ห้องสมุด
สนพ. ห้องสมุด, พิมพ์ครั้งที่ 1, ตุลาคม 2558
(2 เล่มจบ)
สปอยล์บางส่วนอีกแล้วค่ะ แต่ไม่เปิดเผยเนื้อหาหลัก รวมถึงตอนจบ
เคยเจอเรื่องนี้วางขายที่ B2S หยิบขึ้นมาอ่านเรื่องย่อแล้วก็เห็นว่าน่าสนใจ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อมาอ่าน จนอ่านเรื่อง
"ผลาญ (盛世王妃)" -
minimore.com/b/ytivU/6 จบนั่นแหละ ถึงเริ่มสนใจหนังสือของสนพ. ห้องสมุดจริง ๆ จัง ๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อเรื่องนี้มาอ่านต่อทันที
อ่านสนุกดีค่ะ เป็นนิยายแฟนตาซีแนวเทพเซียน มารอสูร มีครบทั้งดราม่า โรแมนติก แอคชั่น และตลก นางเอกมีบุคคลิกคล้ายผู้ชาย เก่งกาจห้าวหาญ เป็นถึงจอมทัพของเผ่าอสูร ส่วนพระเอกเป็นถึงมหาเทพองค์สุดท้ายผู้ค้ำจุนหกภพภูมิ เฉยชาไม่แยแสต่อสรรพสิ่ง หากแต่ภายใต้รูปลักษณ์งามสง่า ดูสูงส่งเขากลับเป็นพวกชอบแกล้งผู้อื่นยิ่งนัก ยียวนกวนประสาทที่สุด นางเอกเราถูกแกล้งเสียจนแทบจะลงมือฆ่าเขาทิ้งอยู่หลายหน ความรักของพวกเขาเป็นรักต้องห้าม ความเย้ายวนจึงรัญจวนดึงดูดให้ติดตามและร่วมลุ้นบทสรุปไปกับพวกเขายิ่งนัก
"พวกเขามิใช่ไร้รัก หากแต่ถูกบีบบังคับมิให้รัก"
- สิงจื่อ
(เล่ม 2, หน้า 333)
เรื่องย่อ:
เสิ่นหลี คืออ๋องปี้ชาง จอมทัพผู้เกรียงไกรของเผ่าอสูร รบคราใดไม่เคยแพ้ ชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว หากแต่เพราะความเจ้ากี้เจ้าการของ "เขา" นางจึงถูกจับให้แต่งงานกับหลานชายขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ผู้เจ้าชู้ เจ้าสำราญ ลอยชายไปวัน ๆ หาได้มีความองอาจสง่างามอันใด แล้วมีหรือที่อ๋องปี้ชางอย่างนางจะยิมยอมแต่งงานกับคนเหลาะแหละพันธุ์นั้น! แต่ขณะหลบหนีจากการถูกจับคลุมถุงชนนั้นเอง นางได้รับบาดเจ็บสาหัสจนกลับคืนสู่ร่างจริง คือหงส์ไฟ หากแต่...ไร้ขน เพียงเท่านั้นเหมือนจะยังซวยไม่พอ นางยังถูกจับมาขายในตลาดด้วยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นไก่อัปลักษณ์ไร้ขน และถูกชายพิการขาเป๋ขี้โรคซื้อไป นี่นางเป็นถึงนักรบมากฝีมือของเผ่าอสูรเชียวนะ หงส์ไฟผู้สง่างามเยี่ยงนางต้องกลายมาเป็นไก่ไร้ขนให้เจ้าคนผู้นั้นกลั่นแกล้งสารพัด รอนางหายดีก่อนเถิด จะฆ่าทิ้งเสียให้สาใจ! ท่านอ๋องปี้ชางไม่คาดคิดเลยว่า นับแต่นั้นชะตาของนางและชายขาเป๋ก็เกี่ยวกระหวัดเข้าด้วยกันจนยากจะแยกออกเสียแล้ว
มหาเทพสิงจื่อ พระเอกเรื่องนี้นิสัยละม้ายคล้ายมหาเทพตงหัวในเรื่อง "
สามชาติ สามภพ ลิขิตเหนือเขนย (三生三世,枕上书)" เลยค่ะ เพียงแต่ระดับชั้นในความหน้าด้านหน้าทน และกวนตีนนั้นยังนับว่าห่างไกลจากตงหัวมากอยู่ (
menalin.blogspot.com/2016/01/blog-post_21 - ลิขิตเหนือเขนย) คือนางเป็นเทพองค์สุดท้าย อยู่คนเดียวมาเนิ่นนาน วันทุกวันก็เหมือน ๆ กันไม่มีอะไรน่าสนใจ พูดง่าย ๆ คือนางว่างมาก 55 วันดีคืนดีก็อวตารลงมาโลกมนุษย์ แถมชอบหาเรื่องแกล้งคนอื่น เสิ่นหลีนี่ตอนแรก ๆ ก็โดนเล่นงานเสียอ่วม แต่ภายในลึก ๆ แล้วเขากลับอ้างว้างโดดเดี่ยว และต้องแบกภาระมากมายไว้บนบ่า กฎสวรรค์บังคับเขาไม่ให้มีรัก เพราะนั่นจะนำมาซึ่งการล่มสลายของหกภพภูมิ ความรักของพระนางเรื่องนี้ก็เลยยากเข็ญเอาเรื่องทีเดียว
ส่วนตัวเราประทับใจพระเอกแบบมหาเทพตงหัว (ลิขิตเหนือเขนย) กับมหาเทพสิงจื่อ ใน ปฐพีไร้พ่าย คือนอกจากจุดร่วมที่เหมือนกันอย่างนิสัยยียวน ขี้แกล้งได้อย่างน่ารักน่าชัง พวกเขายังมุ่งมั่นเดินหน้าเพื่อความรักโดยไม่หวั่นสิ่งใด แต่ก็นะ กว่าจะรู้ใจตัวเองก็เมื่อตอนที่รู้ว่าได้สูญเสียสิ่งสำคัญไปเสียแล้ว มหาเทพตงหัวไม่แยแสต่อชะตาฟ้า เขาเชื่อมั่นแต่เพียงนางต้องเป็นของเขาเท่านั้น (จุดนี้แอบเบะปาก มองบนเบา ๆ ก็แหม ตอนแรกไม่เคยจะแยแส พอรู้ว่าเสียไป ก็มาทำเป็นเห็นค่า ชิชะ) ส่วนสิงจื่อ เมื่อได้รับโอกาสอีกครั้ง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโง่เขลาเสียเหลือเกินที่เคยพยายามอย่างหนักที่จะไม่รักเสิ่นหลี และครั้งนี้เขาตั้งใจแล้วว่าจะไม่ยอมเสียนางไปอีก เพราะเคยสูญเสียไปแล้ว จึงรู้ว่ามีค่าเพียงใด
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา อ๋องปี้ชางมีแต่ปกป้องผู้อื่น ยืนด้วยขาของตัวเอง นางจึงเป็นพวกขาลุยพึ่งตนเอง สิงจื่อเลยเหนื่อยใจกับนางยิ่งนักที่หาเรื่องเจ็บตัวอยู่เรื่อย ความน่ารักของคู่นี้คือ ต่างฝ่ายต่างมองข้ามหน้าฉากภายนอก แล้วมองเห็นส่วนที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ภายในของกันและกัน เขาอยากปกป้องนาง ด้วยว่าในสายตาเขานางเองก็เป็นสตรีที่น่าทนุถนอม มีมุมอ่อนแอบอบบาง ส่วนนางก็มองเห็นความอ้างว้างโดดเดี่ยวในใจเขา และเป็นห่วงกังวลในตัวเขาอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ปมหนักของเรื่องทิ้งน้ำหนักกดทับลงในใจตอนอ่านอย่างมาก หากรักกันแล้วจะทำให้หกภพภูมิต้องประสบภัยพิบัติ แล้วพวกเขาจะยังเห็นแก่ตัวฝืนชะตารักกันให้ได้อย่างนั้นหรือ เสิ่นหลีไม่ยินยอมให้เป็นอย่างนั้น ภาระหน้าที่ต่อแดนอสูรก็ยังค้ำคอนางอยู่ นางทนกล้ำกลืนความรัก ความเจ็บปวดของตัวเองเอาไว้ได้ แต่จะไม่ยอมทำให้เขาต้องลดตัวลงมาเพื่อรักนาง ทั้งยังไม่ยอมให้ภพอื่นต้องเดือดร้อน ส่วนสิงจื่อเมื่อยอมรับความรู้สึกในหัวใจตัวเองแล้ว เขากลับไม่คิดหวั่นเกรงต่อสิ่งใด เขาคิดเพียงแต่จะรักและปกป้องนางเอาไว้ให้ได้ ทำเช่นนี้พลังแห่งเทพที่เขามีจึงจะไม่สูญเปล่า จุดนี้ทำให้เรานึกเปรียบไปถึงพระเอกอีกคนของนิยายเรื่องโปรดอีกเรื่อง
ไป๋จื่อฮว่า แห่ง "
ตำนานรักเหนือภพ (花千骨)" นั่นเอง (
menalin.blogspot.com/2016/01/spioler-alert ) รายนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมทำผิดต่อหกภพภูมิ จนสุดท้ายกลับผิดต่อคนที่ตัวเองรักและรักเขา ผิดต่อใจตัวเอง ต้องทนอยู่ดูหกภพภูมิที่แลกมาด้วยชีวิตของฮวาเชียนกู่ไปตลอดกาล เช่นนั้นแล้วมันคุ้มกันไหมเล่าหนอ?
กว่าจะถึงตอนจบนี่ก็ลุ้นตัวโก่ง สุข เศร้า ฮา ครบรส ฉากต่อสู้ก็มันดี เสียแต่จอมมารลั่วหมิงนี่ก็เดี้ยงง่ายไปหน่อยนะ คือบทจะแพ้ก็ ฟิ้วววว สลายหายไปกับสายลม หรืออาจเป็นเพราะตอนนั้นเหลือแค่เสี้ยวดวงจิตก็ไม่รู้ถึงได้ด๋อยแบบนั้น ฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างพระนางก็น้อยไปนิด ส่วนตอนพิเศษแถมท้ายอีกสองตอนนี่เรื่องน่ารักดี ถ้าสนใจลองอ่านตัวอย่างทดลองอ่านก่อนได้ที่
hongsamut.com ส่วนบทสรุปความรักของมหาเทพ และอ๋องปี้ชางจะจบลงอย่างไร คงมีแต่ต้องอ่านให้จบจนหน้าสุดท้ายถึงจะได้คำตอบ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in