1
ปลายปีบริษัทที่ผมทำอยู่จะมีการประเมินผลงานประจำปี(KPI) เพื่อตรวจสอบว่าปีที่ผ่านมาเราทำผลงานไปได้เท่าไหร่ โดยประเมินทั้งคุณภาพ ปริมาณงาน ความรู้ในสายงาน พฤติกรรม เวลาเข้างาน การวางแผน การติดตามงาน ฯลฯ
เรียกว่าละเอียดยิบทุกซอกมุม เพื่อใช้ในการมอบโบนัสสิ้นปี และขึ้นเงินเดือน ทำให้ผมได้กลับมาทบทวนว่าปีที่ผ่านมา ผลงานผมเป็นยังไง ทำอะไรไปบ้าง และไม่ได้ทำอะไร
น่าสนใจที่ไม่ได้ประเมินตอนสิ้นปี แต่จะประเมินล่วงหน้าถึงสองเดือน ต่างจากคนส่วนใหญ่ที่จะทบทวนปีที่ผ่านมาของตัวเองในวันที่ 31 ธันวาคมเท่านั้น
ทำให้ผมคิดว่า เราน่าจะทบทวนตัวเองล่วงหน้า โดยไม่ต้องรวันสิ้นปีก็ได้
2
“ช่างมัน”
“เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
น่าจะเป็นถ้อยคำยอดฮิตที่หลายคนใช้ในการให้กำลังใจและปลอบใจกัน เวลาเจอเรื่องไม่ดีเพื่อจะข้ามผ่านมันไป ข้อดีคือทำให้เราไม่นึกถึงความผิดพลาดดังกล่าวและมองข้ามไป แต่ข้อเสียคือ หากเราไม่หยิบความผิดพลาดมาทบทวน เราก็จะไม่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ปีนี้ชีวิตของคุณเป็นอย่างไรบ้างครับ?
บอบช้ำจากวิกฤติโควิดสามปีอันยาวนานหรือเปล่า คึกคักหรือเหนื่อยล้าจากความร้อนแรงทางการเมือง และเศรษฐกิจ?
ได้ทำตามเป้าหมายที่วางไว้ตอนสิ้นปีที่แล้วหรือไม่ เติบโตจากตัวเองในอดีตอย่างไร สิ่งที่คิดฝันลงมือทำสำเร็จหรือเปล่า หรืออยู่ระหว่างการเดินทางที่ต้องก้าวต่อไป ถ้ามีโอกาสเล่าให้ผมฟังบ้างนะครับ
เอาเป็นว่าผมให้กำลังใจทุกคน(และตัวเอง) เพื่อเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งผมมองว่าช่วงสิ้นปีแบบนี้ นอกจากหลายคนจะไปเที่ยวและพักผ่อนแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะมาทบทวนตัวเองด้วย
3
คอมพิวเตอร์เวลาใช้ไปนานๆ มีการเซฟไฟล์บ่อยๆ ฮาร์ดิส HDD หรือหน่วยความจำจะยุ่งเหยิง เพราะมีการเก็บข้อมูลไม่เป็นระเบียบจากการใช้งาน ทำให้เครื่องช้าหรือแฮงค์
วิธีแก้คือ นักเล่นคอมพิวเตอร์มักจะดีแฟกซ์เครื่องทุกสัปดาห์ ทุกเดือน หรือทุกปี เพื่อให้ฮาร์ดิส HDD จัดเรียงข้อมูลใหม่ โดยย้ายไฟล์ที่เหมือนกันมาอยู่ด้วยกัน จัดไฟล์ให้เป็นระเบียบ เพื่อที่ว่าเวลาใช้งานคอมจะเร็ว ไม่เสียเวลาหาข้อมูลนาน ซึ่งขั้นตอนดีแฟกซ์นี้จะใช้เวลานานขึ้นกับความยุ่งเหยิงของฮาร์ดิส
เราทำได้เพียงปล่อยให้คอมดีแฟกซ์ตัวเองไป ให้คอมพิวเตอร์ได้ทบทวนตัวเอง ซึ่งผมคิดว่า คนเราจะมีชีวิตที่ราบรื่นหรือไม่ ก็ต้องดีแฟกซ์ตัวเองไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์
4
ทำไมเราต้องทบทวนตัวเอง?
ก็เพราะว่าแต่ละวันมีสิ่งให้เราต้องทำและจัดการมากมาย มีข้อมูลข่าวสารสารพัดที่เราต้องอ่านดู ทำให้ชีวิตวุ่นวาย สับสน และยุ่งเหยิง หลายครั้งเราทำได้เพียงตอบโต้สถาณการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผ่านไปวันๆ โดยไม่มีเวลาคิด ว่าเรากำลังอยู่ในจุดหมายหรือเส้นทางของตัวเองหรือเปล่า หรือกำลังใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางของคนอื่น
เราจึงต้องหยุดพัก และหันหลังสักหน่อย เพื่อทบทวนว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ จะไปไหน และตอนนี้เราอยู่ที่ใด
การทบทวนตัวเอง จะทำให้เห็นตัวเองชัดขึ้น ว่าเราทำอะไรไปแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไร ควรทำอะไรเพิ่ม และควรเลิกทำอะไร
แม้ชีวิตตอนนี้จะวุ่นวายและสับสนจากชีวิตประจำวัน
แต่อย่าลืมหาเวลามาทบทวนตัวเองบ้าง
เพราะยิ่งเราทบทวนตัวเองมากเท่าไหร่
ก็จะเข้าใจตัวเองมากขึ้น
และเติบโตมากเท่านั้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in