แสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่ใกล้ตกดิน เมื่อรวมกับเสียงฝนตกภายนอกตัวบ้านทำให้รู้สึกเศร้าและโดดเดี่ยวได้อย่างน่าประหลาด ฉันยืนพิงประตูห้องครัวที่มืดสนิทและมองกิ่งไม้ที่สั่นไหวเพราะหยดน้ำที่ตกลงจากฟ้าอย่างไม่ขาดสาย
ข้างหลังฉันคือห้องสีขาวที่สว่างเพราะแสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ มันช่างดูตัดกันกับบรรยากาศภายนอกตัวบ้าน ห้องครัวที่ปิดไฟนั้นเป็นเหมือนเส้นกั้นฉันกับโลกภายนอก
ตอนนี้ฉันเปรียบตัวเองเป็นเหมือนกับหลอดไฟสีขาวบาดตาที่ติดอยู่บนเพดานห้อง มันให้ความสว่างได้และใช้แทนแสงจากดวงอาทิตย์ ซึ่งนั่นเป็นข้อดี
แต่มันก็ดูปลอมเสียจนน่าขำ
ความฝันและความหวังที่ฉันมีตอนนี้เป็นเหมือนกับหลอดไฟ หากดับไปแล้วมันก็จะดับไปตลอดกาล แม้จะมีไฟหลอดใหม่เข้ามาเปลี่ยน แต่ก็ยังคงเป็นแสงที่ดูปลอม ไม่เจิดจรัสดั่งพระอาทิตย์ ไม่สวยงามเมื่อยามรุ่งสางหรือพลบค่ำ ไม่สามารถให้ความอุ่นในวันที่หนาวเหน็บ
ในโลกนี้มีบุคคลที่เป็นพระอาทิตย์อยู่มากมาย และหลายคนที่เป็นดั่งหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์
อาจมีหลายคนที่มองฉันเป็นดั่งพระอาทิตย์ แต่ตัวฉันเองกลับเห็นเป็นหลอดไฟ
ฤดูฝนทำให้ผืนดินชุ่มชื่นและนำพาท้องฟ้าที่สดใสตามมา แต่มันทำให้หลอดไฟเสีย
อารมณ์ของฉันในตอนนี้คงเป็นเหมือนหลอดไฟที่โดนฝน มันพังและช็อต ติดๆดับๆทุกครั้งที่ฝนตก ในขณะที่ท้องฟ้าคำรามเหมือนหัวเราะให้กับความปวกเปียกนี้ ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างและอยากก้าวไปเป็นพระอาทิตย์
แต่มันช่างยากเหลือเกิน
สุดท้ายมือของฉันก็เอื้อมไปกดเปิดสวิตซ์ไฟห้องครัว
ในบางครั้งความฟุ้งซ่านเมื่อตอนมองฝนเพียงสิบนาทีก็ก่อให้เกิดเรื่องสั้นชวนหม่นใจ มันพาฉันไปสำรวจตัวตนและความรู้สึกทั้งในปัจจุบันและอดีต แต่กลับกันก็ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าเพิ่มขึ้นอย่างน่าอึดอัดใจ
สักวันหนึ่ง ฉันหวังว่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวตนแสนธรรมดาและอ่อนแอของหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์นี้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in