เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องสั้น--ความรู้สึกimonkey7th
"กะหล่ำผัด--น้ำตา"



  • 1


    วันเกิดปีที่สามสิบสี่ของผม มีลูกน้อยสองคน ภรรยา คัพเค้กชิ้นเล็ก ๆ สามชิ้น วางอยู่ตรงหน้า เราร้องเพลงฉลองวันเกิดกัน ปรบมือ และจบลงด้วยรอยยิ้ม มีลิงสองตัวเป็นผู้เป่าเทียนบนเค้กน้อยให้ดับวูบแทน




    2


    “แม่ซื้อแต่กะหล่ำมาเหรอ วันนี้วันเกิดผมนะ” เสียงผมถามแม่ที่เดินเข้าบ้านมาตอนค่ำ สำหรับเด็กวันเกิดคือกิจกรรมไม่กี่อย่างที่เรารอคอย ผมรู้สึกว่าโดนหักหลัง พ่อเอาเงินผมไปแล้วให้แม่ซื้อแค่กะหล่ำมาในค่ำคืนพิเศษนี้ ราวกับพวกท่านรอคอยให้ถึงวันเกิดเพื่อที่จะฆาตกรรมผมอย่างไร้ปราณี จงใจทำลายพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของเด็กน้อย

    “มีอะไรก็กินไปลูกเอ้ย!” แม่เดินผ่านผมเข้าไปในครัวอย่างไม่แยแส
     


    3


    จำได้ว่าปีนั้นแม่สร้างบ้านใหม่แทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมแต่ดันไปตรงกับช่วงปีเงินบาทลอยตัว เศรฐกิจฝืดเคืองและเหนื่อยยาก เราอาศัยอยู่บ้านเช่าตรงข้ามบ้านเราที่ตอนนี้เป็นเพียงเสาชี้โด่เด่ ไร้ชีวิต ผมกับน้องมักข้ามถนนเพื่อไปเล่นดินทรายและกองหิน ในวันหยุดเราพี่น้องจะอยู่กันตามลำพัง เพราะพ่อกับแม่ต้องออกไปข้างนอก หาเงินมาหมุนเวียนในครอบครัว ให้ทุกอย่างมันเดินไปได้

    ช่วงนั้นเราหัดทำกระปุกออมสินจากขวดเหล้า ผมได้ขวดเหล้า จอห์นนี วอร์คเกอร์ เรด เลเบิ้ลมา ส่วนน้องจะได้ขวด สเปร์ รอยัล วิธีการคือเราจะเอาหินขัดผิวมา นำขอบหินมาถูเบา ๆ บริเวณต่ำกว่าคอขวดนิดหน่อย เล็งให้สมมาตรสวยงาม หินจะค่อย ๆ เซาะเป็นรอยและเกิดรู ทำจนกว้างพอให้เหรียญหรือธนบัตรพับเข้าไปได้ ฝนด้วยตะใบลบคม แล้วตัดกระดาษกาวมาปิดกรีดขอบให้สวยงาม

    ผมบรรจงหยอดเหรียญ ตามจำนวนที่พอจะหามาออมได้ สองพี่น้องมักจะอ้างกันถึงความเจริญเติบโตของเหรียญในขวด ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
     


    4


    เสียงตะหลิวฟาดฟันกับกะหล่ำหั่นในกระทะอย่างร้อนแรง เสียง ฉ่า ๆ ของน้ำมันผสมคลุกเคล้าเครื่องปรุง เคล็ดลับความอร่อยของมันอยู่ที่เมื่อผัดเสร็จ แม่จะราดน้ำปลารอบกระทะให้มันค่อย ๆ ไหลลงไปผสมกับผัดผัก น้ำปลาที่โดนความร้อนของกระทะจะโชยกลิ่นหอมอย่างน่าอัศจรรย์มายั่วยวนผู้ที่ได้สูดดม

    ผมเดินไปยืนดูแม่ทำอาหารจานถนัด แต่ไม่ได้อยู่ในอามรณ์โหยอยาก จิตใจเด็กน้อยต้องการเค้กวันเกิดหรืออาหารพิเศษ มากกว่าผัดกะหล่ำหัวละห้าบาท

       


    5


    “พ่อขอยืมกระปุกออมสินได้ไหม” พ่อผมเดินมาถามในเช้าวันเกิดของผม ขณะที่เรากำลังจะไปโรงเรียน ผมยื่นขวดบรรจุเงินให้อย่างไม่เต็มใจนัก พ่อรับแล้วเดินเข้าไปในห้อง ก่อนเดินออกมา ยื่นเงินไปโรงเรียนให้พวกเราคนละยี่สิบบาท น้องผมรับแล้วเดินไปก่อน ส่วนผมยืนนิ่งกับเงินในมือที่เป็นของผมเอง

    เราเดินออกมารอรถสองแถวเพื่อไปโรงเรียน ผมยังคิดถึงขวดกระปุกออมสินของผมที่มีเหรียญและธนบัติอัดกันเกินกึ่งหนึ่งแล้ว เหลือกตามองเสาบ้านไร้ชีวิต มันเหมือนป้ายหลุมศพ มันคือตัวการพรากความสุขของเราไป แล้วยังทิ้งความลำบากแร้นแค้นไว้ให้ ผมก้มหยิบหินขว้างไปที่เสาเหล่านั้น น้ำตารื้น น้องผมไม่รู้ว่าผมทำอะไร ยืนมองและหัวเราะ ก่อนจะก้มหยิบหินมาขว้างแข่งกัน

    “ใครขว้างโดนเสาก่อนชนะ” น้องผมตั้งกติกา

    “ไม่หรอก ไม่ว่าจะขว้างโดนหรือไม่โดน เราก็แพ้”
    ผมพูดกับตัวเอง
     




    6


    แม่ผัดผักเสร็จ ปิดเตาแกสแล้วมองหาบางอย่าง ขวดน้ำปลาเปล่าถูกยกขึ้นมาส่อง ผมกัดฟันยืนมองแม่ด้วยสายตาชิงชัง แม่ค่อย ๆ วางขวดน้ำปลาลงยืนนิ่ง เสียงฉ่า ๆ ในกระทะยังคงอยู่ ฟังดูคล้ายเสียงหินถูกับคอขวด

           มันค่อย ๆ กัดหัวใจผมให้เป็นรู 
    ยาวนานราวนิรันดร์ที่ผมยืนจ้องอาการไม่ไหวติงของแม่ บรรยากาศตอนนั้นแผ่ความกดดันหนักหน่วง พ่วงด้วยความเสียใจ ลอยออกมาเล็ดลอดเข้าหัวใจ ตามรูที่มันสร้างขึ้นมาเมื่อตะกี้ ทำให้เราหวั่นไหว ให้เข้าใจถึงความไม่มี และจุดยืนของครอบครัวของเรา

    ผมหันหลังกลับมานั่งที่โต๊ะหน้าทีวี สักพักแม่ค่อย ๆ เดินเอาผัดกะหล่ำมาวางตรงหน้า เรียกน้องผมมากิน ก่อนเดินขึ้นห้องอย่างเงียบ ๆ

    “ทำไมมีแต่ผัดผักละ?” น้องผมถาม ขณะที่ปากและมือของผมสั่น “จืดจัง” น้องบ่นต่อเมื่อตักมันเข้าปาก 



    น้ำตาผมค่อย ๆ ไหลมากองที่มุมปาก ก่อนที่ผมตักผัดผักกิน
    “มันเค็มเหมือนเดิมนั่นแหละ แค่ไม่หอมเหมือนจานก่อน ๆ”  





    7


    บ้านไร้ชีวิตที่เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นหน้าต่างสองบานชั้นสองเป็นดวงตาไร้ประกาย มีปากเป็นหน้าจั่วสามเหลี่ยมคว่ำลง บูดบึ้งราวกับสตรอมทูปเปอร์ในภาพยนต์เรื่องสตาร์วอร์ถูกสร้างเกือบเสร็จ

    “เอาพอให้อยู่ได้ก่อนเนอะ” ช่างพูดเหมือนเข้าใจสถานการณ์ตอนที่พ่อกับแม่ผมบอกว่าจะย้ายเข้าอยู่แล้ว ผ่านมายี่สิบกว่าปีที่เราอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ มันถูกปรับปรุงจนไม่เหลือเค้าบิดเบี้ยว กลิ่นชีวิตของพวกเราเคลือบให้บ้านมีรอยยิ้มและดูเป็นมิตรมากขึ้น

    ควันจากปลายเทียนที่ดับลอยฟุ้ง ในวันเกิดปีที่สามสิบสี่ของผม สอนผมให้รู้ว่า ความสุขของชีวิตไม่ได้อยู่ที่อาหารมื้อพิเศษในวันเกิดหรือเทศกาลงานรื่นเริง แต่มันอยู่ที่ความผูกพัน ความใส่ใจซึ่งกันและกันของคนในครอบครัว ความยากลำบากในวันวานบิดเกลียว หมุนวน มาให้เราพบเจออยู่เป็นระยะ มากบ้าง น้อยบ้างตามจังหวะแต่มันจะดับและกลายเป็นควันเหมือนเทียนตรงหน้า ไม่มีอะไรที่เราผ่านไปไม่ได้ 
    เด็ก ๆ ตักเค้กกินอย่างอร่อย หยอกล้อกันสนุกสนาน  
    วันนี้ผมไม่ได้ผัดกะหล่ำ ผมผัดไม่เป็นแม้จะรู้เคล็ดลับ เลยเลือกที่จะซื้อคัพเค้ก
    วันนั้นแม่ผมคงอยากซื้อเค้ก แต่บางอย่างทำให้แม่ได้แค่กะหล่ำ

    " กะหล่ำที่แม่เอามาผัดกับน้ำตา " 


    ----------------------------------

    ลิง
    19.7.16

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in