เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
bemine x seriesบีไมนฟอร์อะไวล
The Morning Show (season 1, 2019)
  • The Morning Show เป็น Original Contents ของ Apple TV+ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ Top of the Morning: Inside the Cutthroat World of Morning TV ซึ่งเขียนโดย Brian Stelter อดีตนักข่าวของ The New York Times แถมยังได้นักดัดแปลงบทอย่าง Jay Carson ที่เคยมีผลงานอย่าง House of Cards และ The Front Runner มาร่วมงานอีกด้วย


    รับชมได้ที่ Apple TV+



    ซีรีส์จะว่าด้วยรายการข่าวเช้าอย่าง The Morning Show เจอปัญหาเมื่อมิตซ์ผู้ประกาศข่าวขวัญใจผู้ชมตลอด 15 ปี โดนร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมทางเพศ ทำให้อเล็กซ์ผู้ประกาศสาวและทีมของสถานีต้องรีบกู้สถานการณ์และเรตติ้งกลับมา


    จบแบบนี้เอาซีซั่นสองมาเลยดีกว่า จริงๆไดอะล็อกในซีรีส์เยอะ แต่ไม่น่าเบื่อ เพราะมีเรื่องฉาวให้ตื่นเต้นอยู่ตลอด ซีรีส์เดือดแบบไม่ต้องมีซีนแอคชั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อมใดใดเลย แค่บทพูดกันไปมานี่แหละ ก็เดือด ไต่ระดับความพีคไปเรื่อยๆจนท้ายเรื่องมันพีคแบบสุดๆไปเลย 



    ซีรีส์ได้จุดกระแส #metoo แบบลงลึกและขยายประเด็นด้วยการทำความเข้าใจและความรู้สึกของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อและคนที่อยู่รอบข้าง กล่าวคือไม่ใช่แค่เหยื่ออย่างเดียวที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดทางเพศ ยังมีคนอีกหลายๆคนได้รับผลกระทบ อย่างเช่นในซีรีส์ ตัวนักข่าวเองที่ไปสัมภาษณ์เหยื่อก็ได้รับผลกระทบ ทุกๆคนเป็นทั้งที่รักและที่ชังได้ในเวลาเดียวกัน และทุกๆอย่างทุกๆเรื่องมีทั้งขาวทั้งดำ 



    ส่วนนักแสดง ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ คนแรกเลยก็คือ Jennifer Aniston ส่วนตัวเราแล้วติดลุคตลกๆของเจนจากซีรีส์เรื่อง Friends แต่พอมาเจอบทดราม่าแบบนี้ แรกๆก็ต้องปรับกันหน่อย หลังๆเริ่มชินและเข้าที่เข้าทาง คือซีรีส์เดือดดาลมาก Jennifer Aniston ในบท Alex Levy ก็ฟาดใส่ไม่ยั้ง ลุคชุดแดงในอีพีสามคือที่สุด และช่วงท้ายของซีซั่นหนึ่งคือสุดยอด! คนที่สองก็คือ Reese Witherspoon ที่แสดงเป็น Bradley Jackson นักข่าวและผู้ประกาศข่าวสาวที่เต็มไปด้วยจรรยาบรรณแบบสุดโต่ง ตอนแรกๆของซีซั่นยอมรับว่าไม่ค่อยชอบตัวละครนี้ จะก่อเรื่องเยอะแยะไปไหน แต่การกระทำของเธอนั้นคือการกระทำที่ควรทำ เพราะได้เผยแพร่ปัญหาและความเป็นจริง ตอนท้ายๆเรื่องก็คือรัก



    ตัวละครหญิงทั้งสองเหมือนถูกสร้างมาเพื่อคอนทราสกันอย่างมีนัยยะ กล่าวคือทั้ง Alex พยายามนำเสนอข่าวตามกระแสสังคมเพื่อเรียกเรตติ้งให้กับรายการ ต่างกับ Bradley ที่ไม่สนใจเรื่องเรสติ้ง เธอพยายามนำเสนอข่าวที่เป็นปัญหาสังคมเพื่อตีแผ่เสียมากกว่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนักข่าวแบบ Bradley คราวที่จะได้โอกาสทำงานมากกว่าเสียอีก


    ซีรีส์จบแบบอยากให้มีต่อซีซั่นสองมากๆ มันเดือดมันปังที่สุดคือช่วงท้ายๆนี่แหละ





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in