いざ、手のなる方へと
Iza, te no naru hou e to
เอาเลย มุ่งหน้ามาทางนี้สิ★
導いたのは誰でもない自分自身なのに
michi biita no wa dare demo nai
jibun jishin nanoni
ทั้งที่เป็นคนชี้นำตัวเองไปแบบนั้น
jishin ga nai yo warat chau na
แต่ก็ไม่มีความมั่นใจเลย น่าขำสิ้นดี
mota tsuite iru
ไม่ราบรื่นเอาซะเลย
kūki ga nuketa mama no karada
ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้*
hashi redo hashi redo tsudzuku
ต่อให้วิ่งเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึง
人生という名の死ぬまでのエピソードは
jinsei to iu na no
shinu made no episōdo wa
ฉากหนึ่งก่อนตายของสิ่งที่เรียกว่าชีวิตนั้น
軽いままの身体では吹き飛ばされて
すぐに終わってしまうな
karui mama no karada dewa
fuki toba sarete
sugu ni owatte shimau na
ร่างกายที่เบาหวิวนี้คงจะถูกพัดปลิวหายไป
และจบสิ้นในชั่วพริบตา
あー、誰にもないものを
持っていたいのになぁ
aa dare nimo nai mono wo
motte itai noni nā
อา... ทั้งที่อยากจะมีในสิ่งที่คนอื่นไม่มีแท้ๆ
muri yari ni daki shime teta
kokoro wo ima hodoite
ตอนนี้ให้คลายอ้อมกอด
ที่เคยกอดรัดหัวใจเอาไว้จนแน่นออกซะ**
yasashii kokoro wo
mochitai no da keredo
ฉันอยากจะมีจิตใจที่อ่อนโยนอยู่หรอก
tokini wa gamu shara ni okotte
namida wa shin ni uke tomeru
แต่บางทีก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
จนต้องรับมือกับน้ำตาที่รินไหล
ai o shiru made wa
shinenai watashi nano da!
ฉันจะไม่ยอมตาย จนกว่าจะรู้จักความรัก!
michibi kareta unmei tadotte
ให้โชคชะตาวาสนานำทางไป
kyō mo asu mo ikite yukō
ทั้งวันนี้และพรุ่งนี้
ก็มีชีวิตอยู่กันต่อไปเถอะ
me no mae ni mieta hoshi wa
ikusen nen no kagayaki o ushinai-sō
ได้ยินว่าดวงดาวที่เรามองเห็นตรงหน้า
มันสูญเสียแสงประกายเจิดจ้า
ไปหลายพันปีก่อนแล้ว
見なくていいと自分に言い聞かせた
yume de owaru yume naraba
mina kute ii to jibun ni ii kikaseta
บอกตัวเองว่า ถ้าเป็นความฝันที่ทำได้แค่ฝัน
ก็ไม่ต้องไปฝันถึงมันหรอก
花のような毎日だなぁ
aa mada saki kirenai
hana no yōna mai-nichi danā
อา.. ช่างเป็นคืนวันที่เหมือนกับ
ดอกไม้ที่ยังเบ่งบานได้ไม่เต็มที่เลยนะ
mucha kucha ni hashiri tsudzuke ta
karada o ima yasu mete
ร่างกายที่เดินทางมาเนิ่นนานเกินเหตุนั้น
ตอนนี้พักให้หายเหนื่อยเถอะ
maji waru koto no nai
dareka to meguri-ai
การได้พานพบกับใครสักคนที่ไม่เคยคบหา
mugen ni hiro garu kumo ni notte
ได้ล่องลอยไปกับปุยเมฆ
ที่แผ่ขยายตัวไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
mita koto no nai niji o mitai
ฉันอยากจะมองดูสายรุ้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ai o shiru made wa
shinenai watashi nano da!
ฉันจะไม่ยอมตาย จนกว่าจะรู้จักความรัก!
導かれる運命頼って
michibi kareru unmei tayotte
แล้วแต่พรหมลิขิตจะนำพา
kyō mo asu mo ikite ikou
ทั้งวันนี้และพรุ่งนี้
ก็มีชีวิตอยู่กันต่อไปเถอะ
aa dare nimo nai mono wo
motte itai noni nā
อา... ทั้งที่อยากครอบครองสิ่งที่คนอื่นไม่มีแท้ๆ
muri yari ni daki shime teta
kokoro wo ima hodoite
หัวใจที่เคยฝืนกอดรัดเอาไว้จนแน่น
ตอนนี้คลายอ้อมกอดนั้นออกเถอะ
yasashī kokoro wo
mochitai no da keredo
ฉันอยากจะมีจิตใจที่อ่อนโยนอยู่หรอก
tokini wa gamu shara ni okotte
namida wa shin ni uke tomeru
แต่บางทีก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
จนต้องรับมือกับน้ำตาที่รินไหล
ai o shiru made wa
shinenai watashi nano da!
ฉันจะไม่ยอมตาย จนกว่าจะรู้จักความรัก!
michibi kareta unmei tadotte
ปล่อยให้โชคชะตาวาสนานำทาง
kyō mo asu mo ikite yukou
ทั้งวันนี้และพรุ่งนี้
ก็มีชีวิตอยู่กันต่อไปเถอะ
----------------------------------
★手のなる方へ te no naru hou e
- หมายถึง ตามเสียงฉันมา, ตามเสียงปรบมือไป
- ที่นี่อธิบายว่าคำนี้มีที่มาจากการละเล่นวิ่งไล่จับ 鬼ごっこ oni gokko โดยสมัยก่อนคนที่รับบทเป็นยักษ์จะปิดตาวิ่งไล่จับ ฝ่ายที่หนีจะปรบมือหลอกล่อให้ยักษ์ตามเสียงมาจับตน พร้อมกับพูดว่า「鬼さんこちら、手の鳴るほうへ」(oni san kochira, te no naru hou e) "คุณยักษ์มาทางนี้ ตามเสียงปรบมือมาเร็ว" คนใดที่ถูกยักษ์จับก็ต้องมารับบทเป็นยักษ์ไล่จับคนอื่นต่อ
* 空気が抜けたままの身体
kūki ga nuketa mama no karada - 空気が抜けたまま kūki ga nuketa mama = สภาพของสิ่งของที่แทบจะไม่มีอากาศอยู่ข้างใน เช่น ล้อรถที่ยางแบน, ลูกบอลที่น่วม
- 空気が抜けたままの身体 kūki ga nuketa mama no karada น่าจะหมายถึง ร่างกายที่เหนื่อยล้าทั้งกายทั้งใจ เปรียบเสมือนรถที่ล้อยางแบน วิ่งต่อไปไม่ได้ ฝืนวิ่งต่อก็เสี่ยงเกิดอันตรายแก่ชีวิต จึงแปลท่อนนี้ไปว่า "ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้" // ทีแรกแปลท่อนนี้ไปว่า
ร่างกายที่เหมือนวิญญาณหลุดจากร่าง แต่คิดว่ายังไม่ใช่
**無理矢理に抱きしめてた心を今解いて muri yari ni daki shime teta kokoro wo ima hodoite
- ติดอยู่ท่อนนี้นานมากค่ะ ทีแรกจะแปลท่อนนี้ว่า "ความฝันที่เคยบังคับตัวเองให้ยึดมั่น ตอนนี้ปล่อยวางมันลงเถอะ" เพราะคิดว่า 心 kokoro นอกจากจะหมายถึง หัวใจ จิต ใจ แล้วยังหมายถึง แก่นแท้ ได้ด้วย (ในบริบทเพลงนี้น่าจะ = ความฝัน)
- 抱きしめる daki shimeru หมายถึง กอดรัด รัดแน่น (ในบริบทเพลงนี้น่าจะ = ยึดมั่น)
- ถ้าเช่นนั้น 無理矢理に抱きしめてた心 muri yari ni daki shime teta kokoro น่าจะหมายถึง ความฝันที่เคยบังคับตัวเองให้ยึดมั่นถือมั่นเอาไว้อย่างแรงกล้า
- แต่พอไปอ่านBlog นี้ ทำให้เข้าใจกระจ่างขึ้นว่าควรจะแปลว่า "หัวใจ" ไปตรงๆ เลย ซึ่งคนเขียนBlogดังกล่าวก็ชมAimyon ว่าการเขียนเนื้อเพลงท่อนนี้ที่ว่า "ตอนนี้ให้คลายอ้อมกอดที่เคยกอดรัดหัวใจเอาไว้จนแน่นออกซะ" มันดูสมกับเป็นมนุษย์มากกว่าการบอกว่า "ให้โอบกอดหัวใจตัวเองเอาไว้แน่นๆ แล้วมีชีวิตต่อไป" ที่ดูมีพลังก็จริง แต่เหมือนสร้างภาพให้สวยหรู
// จาก
Blogนี้ เขายังชมAimyon อีกว่า การเขียนเนื้อเพลงท่อนล่างนี้ มีการเปรียบเปรยได้สมกับเป็น Aimyon มากๆ
あー、まだ咲ききれない花のような毎日だなぁ
無茶苦茶に走り続けた身体を今休めて
aa mada saki kirenai
hana no yōna mai-nichi danā
mucha kucha ni hashiri tsudzuke ta
karada o ima yasu mete
อา.. ช่างเป็นคืนวันที่เหมือนกับ
ดอกไม้ที่ยังเบ่งบานได้ไม่เต็มที่เลยนะ ร่างกายที่เดินทางมาเนิ่นนานเกินเหตุนั้น
ตอนนี้พักให้หายเหนื่อยเถอะ
➡ เขาเล่าว่าการที่Aimyon เขียนเนื้อเพลงว่า "แต่ละวันมันช่างเหมือนกับดอกไม้ที่ยังเบ่งบานได้ไม่เต็มที่" แทนที่จะเขียนว่า "แต่ละวันช่างเหมือนกับดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา" นี่มันดีมากๆ เลย เพราะหากเปรียบเทียบว่า ชีวิตเป็นดั่งดอกไม้ที่ยังบานได้ไม่เต็มที่ ก็หมายความว่า วันที่พรสวรรค์ของเราเบ่งบานจะต้องมาถึงเข้าสักวัน
➡ อีกทั้งท่อนต่อมาที่Aimyon เขียนเนื้อเพลงว่า "พักร่างกายที่เดินทางมาอย่างเนิ่นนานให้หายเหนื่อยเถอะนะ" ที่สื่อสารในเชิงบวกได้ว่า "ตอนที่อยากจะพักให้หายเหนื่อย ก็พักไปเถอะ ไม่เห็นเป็นไร" แทนที่จะเขียนว่า "ถึงทรมานก็ต้องวิ่ง(ตามความฝัน)ต่อไป" นี่มันทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย
--------------------------------------------
★★มีข่าวดีมาให้แฟนๆ ได้ชื่นใจค่ะ
Aimyonได้รับเลือกให้นำร้องเพลงในงาน
18Fes ที่จะจัดขึ้นช่วงปีหน้า
ในธีม kido airaku (喜怒哀楽 = ความรู้สึกต่างๆ ได้แก่ ดีใจ โกรธ เสียใจ สนุกสนาน)
โดย18Fes ปีหน้าจะพิเศษกว่าปีก่อนๆ ตรงที่จะเปิดรับสมัครวัยรุ่นทั่วญี่ปุ่นที่มีอายุ 17-20 ปี จำนวน 1,000 คนมาร่วมร้องเพลงด้วยกัน เนื่องจากปีที่แล้วสถานการณ์โควิด19 ทำให้ต้องยกเลิกการจัดงานไป ส่งผลให้ปีนี้ทางรายการได้ขยายช่วงอายุให้คนที่อายุ 20 สามารถสมัครเข้าร่วมได้ด้วย โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครช่วงเดือนสิงหาคม2021 และจัดการแสดงร้องเพลงร่วมกัน 1,000 คนในช่วงเดือนมีนาคม2022 นี้
รอติดตามกันได้เลยค่า
ทางฝั่งAimyon ก็ได้พูดถึงที่ตัวเองได้รับเลือกให้ร้องนำในงาน18Fes 2022 เอาไว้ว่า
"เวทีที่จะได้ร้องเพลงร่วมกับทุกคนที่อายุ 17 18 19 20 ทั้ง 1,000 คน
จะต้องเป็นทิวทัศน์ที่สุดยอดแน่นอนค่ะ!
แค่นึกถึงวันนั้น ในตาก็ร้อนผ่าว ลำคอก็เกร็งไปหมด
ทั้งกังวลสุดๆ ตื่นเต้นมากๆ ใจเต้นตึกตักไม่หยุดเลย
18Fes ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
สนใจมาร้องเพลงด้วยกันไหมคะ?"
Ai wo shiru ma-de wa เป็นเพลงที่อยู่ในซิงเกิ้ล 愛を知るまでは/桜が降る夜は
เพิ่งวางขายไปเมื่อวันที่ 26/05/2021 อุดหนุนศิลปินได้ที่นี่
>>Click<<
// อัปเดตเพิ่มเติม 02/08/2021 Aimyonได้อัพคลิปที่เธอทั้งร้องเพลง+เล่นกีต้าร์อะคูสติกเพลง Ai wo shiru made wa ลง youtube ให้แฟนๆได้ฟังกันด้วยค่ะ เพราะมากๆเลยค่ะ โอ้ย ฟังแล้วจะร้องไห้ ;_;
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in