“พี่นาย…”
ไม่มีเสียงตอบจากหนุ่มผมหยิกที่นั่งอยู่ข้างๆผม พี่นายนั่งนิ่ง สายตาดูเหม่อคิดอะไรๆอยู่
“พี่นายฮะ–“
ผมสะกิดไหล่พี่เบาๆ นิ้วสัมผัสเสื้อยีนส์สีฟ้าบาง
พี่นายหันมาสบตาผม เลิกคิ้วให้
“ไปน่ารักไกลๆได้มั้ยอ่า…” ผมว่า ลากปากกาเป็นเส้นยุ่งพันกันบนชีทเรียน “แบร์อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องนะเนี่ย”
พี่นายกลอกตา ยีผมยุ่งของผมจนผมหลุดหัวเราะออกมากลางคาเฟ่
“ก็ใครบอกให้เราชวนพี่มานั่งด้วยละ…. เด็กดื้อ” พี่นายควงปากกาเล่นในมือหนึ่ง อีกมือ–
อีกมือ….
บ้าเอ้ย.
ผมเสยผมเก้อๆ เลียปากตัวเองขณะมองพี่นาย
“แต่แบร์พูดจริงนะ–” ผมพยายามอีกครั้ง กลืนน้ำลายลงคอ “–…ก็…. อมยิ้มสีแดงของพี่….”
อย่าหาว่าผมไม่มีสมาธิ คิดวอกแวก คิดไกลเกินเลย
ต่อให้เด็กเบอร์ท็อปของห้องมานั่งข้างเมลคิออลของผม พนันกันได้ว่าหมอนั่นก็ทนไม่ไหว
จะให้แก้โจทย์สถิติทั้งที่หูได้ยินเสียงดูดอมยิ้มทรงกลมสีแดงใส หันไปก็เห็นลิ้นสีชมพูไล่เลียตามก้อนน้ำตาลนั่น…
ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีของผมกันแน่.
——
คิดถึงเสียงแหบพร่าของพี่นายข้างหูผม
เสียงแทบขาดลมหายใจที่พร่ำเรียกแต่ชื่อผม…
ชื่อผมคนเดียวเท่านั้น
คิดถึงเสียงหายใจหอบฉับพลัน เมื่อผมลองดูดผิวที่ซอกคอพี่นายเล่น
พี่นายหลับตาสนิท กัดริมฝีปากล่าง มือทุบประตูล๊อกเกอร์โดยไม่รู้ตัว
“แบร์—“
ผมดูดผิวนั้นแรงขึ้น ตั้งใจจะทิ้งรอยไว้บนผิวขาว
ให้รู้กันซะบ้างว่าพี่นายน่ะของใคร…
— —
พี่นายดูดอมยิ้มต่อ ทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้
อยากจะเห็นคนสวยหมดท่าเหลือเกิน…
ยิ่งตอนที่เสียงพี่นายยังก้องหูผมชัดเจนอยู่นี่–
“คิดอะไรน่ะเรา” พี่นายเอียงคอ พูดเสียงล้อๆ “พี่จะกินของหวานมั่งไม่ได้รึไง”
โธ่ ได้สิฮะ
ได้เสมอ
ที่รักของผม.
แต่ไม่ใช่กินกันต่อหน้า…..ในขณะที่ผมต้องทำโจทย์แบบนี้!
(ออกจะตอกย้ำชีวิตคนติดหวานอย่างผม)
ผมแกล้งทำหน้างอ
“พี่นาย….” มือผมกระโดดลงไปจับต้นขาพี่นายใต้โต๊ะ “อย่าถามแบร์ยังงั้นสิ–“
— —
ความทรงจำเรื่องพี่นายในหัวผมนั้นสีลูกกวาด
หวาน โดยที่ไม่ต้องพยายามหวาน แบบที่ไม่ได้ตั้งใจ
หวาน เหมือนจะหลอกผมให้อยู่ในโลกสีสวย ลืมโลกแห่งความจริงแล้วไม่ไปไหน
หวาน เป็นทางหลบเลี่ยงชีวิตชั่วคราวที่ผมจงใจหลงเข้าไป
“แบร์—“ ลมหายใจพี่นายกระทบผิวผม ขณะมือทั้งสองค่อยลูบไล้ตามร่างนั้น ตามด้วยปาก ที่บรรจงจูบ ลิ้มรสผิวพี่นายช้าๆ ให้สมที่ผมรอคอย(และฝันถึง)มานาน
“แบร์—” รู้สึกนิ้วพี่นายเกี่ยวพันเส้นผมที่หัว เสียวลงไปทั้งตัว “อย่าหยุดนะแบร์–”
“–พี่ขอ…”
— —
พี่นายสะดุ้ง อมยิ้มคาอยู่ในปาก
“แบร์—“ เสียงพี่นายต่ำลง กึ่งปราม กึ่งตกใจ “เราจะทำอะไร–“
ผมยิ้มหวาน ยังไม่หยุดลูบต้นขาพี่เค้า
“ผมอ่านหนังสือตั้งหลายชั่วโมงแล้ว…”
มือพี่นายก็รีบคว้ามือผมหมับ
“—แบร์!”
ผมมองตาพี่นาย
“ก็พี่นาย–“
เรานั่งอยู่มุมลับตาคน (ที่ฟินน์กันไว้ให้โดยเฉพาะ) คาเฟ่ก็จวนจะใกล้ปิดอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า
จะมีข้ออ้างอะไรไม่ให้ผมเล่นสนุกกะพี่นายสักพักละ
“…นะฮะ—“ ผมวางปากกาบนกองชีท ไถลตัวลงไปคุกเข่าที่พื้น หน้าตักอีกฝ่าย “คนดีของแบร์–“
เสียงอมยิ้มถูกทิ้งบนโต๊ะ พร้อมๆกับเสียงถอนหายใจเล็กๆของพี่นาย
“คิดซะว่าช่วยเด็กตาฟ้าๆพักเบรกละกั–“
พี่นายส่ายหัว ก้มตัวลงมาจูบหน้าผากผม
“นี่ถ้าไม่ดึกขนาดนี้นะ….”
— ——
เสียงฝีเท้าของใครบางคนใกล้เข้ามาหาเรา แต่ผมยังคงโฟกัสกับเสียงหายใจติดๆขัดๆของพี่นาย และมือสองข้างที่รั้งผมของผมไว้
แอบเงยหน้าขึ้นก็เห็นหน้าสวยๆร้อนรน ตาสองข้างปิด พลางกัดริมฝีปากตัวเองไว้ ไม่ให้ร้องเสียงดังออกมา
ผมยิ้มกับตัวเอง
“พี่อนายฮะ“
อ้าว เสียงน้องฟินน์นี่หว่า
ชิบหาย.
“อะ—เออ” ผมได้ยินพี่นายพูด “ว่าไง…ฟ–ฟินน์”
สวรรค์แค่ไหนที่ได้ยินคนข้างบนหายใจเข้าดังเฮือก
“เดี๋ยวร้านจะปิดแล้ว….” เสียงฟินน์ลากเก้าอี้ผมให้เข้าที่ “ว่าจะเตือนพี่ไว้น่ะฮะ”
“อื้อ” นึกแปลกใจที่พี่นายยังพูดได้ฟังออกเป็นคำๆ “ขอบ–ขอบคุณนะ”
เดาว่าฟินน์คงพยักหน้านิ่งอย่างเคย
เสียงฝีเท้าฟินน์ค่อยๆแผ่วลง พร้อมๆที่เจ้าตัวเดินจากไป แต่ผมแอบได้ยินเสียงบ่นพึมพำ
“ทำไมต้องอยากอะไรตอนนี้ด้วย– สองคนนี้ละก็…..”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in