“แบร์”
“หือ”
“ไอ้แบร์….“
แฮซผลักผมเข้าให้
สองนิ้วชี้ตาสองข้างแล้วกลับมาที่ผม
"ไอ้คุณแบร์ครับ” เสียงคำลงท้ายเพราะแปร่งหูแทบจะทำให้ผมหยุดฟังมันจริงจัง
หัวที่หมอกควันโดปามีนลงหนาจัดนี่หาทางออกยากชะมัด
(ใช่ว่าผมจะอยากออก–)
รู้ตัวอีกที ผมก็ยืนพิงล๊อกเกอร์ฝั่งหนึ่ง มือกำนวมมวยอยู่ข้าง ส่วนผ้าขนหนูพาดบ่าลงไปกองกับพื้น
“ตะกี้มึงฮัมเพลง ละต่อยทีซัดกูซะหมอบทุกยก–”
แฮซจ้องผมจากแถวล๊อกเกอร์ฝั่งตรงข้ามของห้อง
ตาคอยสอดส่องพิรุธจากตาผม
อย่างกับว่าสิ่งที่จับต้องไม่ได้จะปรากฏให้เห็นถ้าเพ่งมองหนักพอ
“–ใครอะไรสิ่งใดเกิดกับมึงมิทราบครับ”
ฉากเมื่อเย็นวานเล่นรัวเร็วผ่านตา ราวหนังสั้นที่ถูกกรอด้วยความเร็วสูง
ผมย่ำเท้าอยู่กับที่ ยอมสบตาแฮซ
ได้ยินตัวเองทำเสียง ‘หึ’ ในลำคอ
“ก็พี่นาย–”
เจ้าเพื่อนสนิทหายใจฮวบใหญ่ โผเข้ามาเขย่าไหล่ผม
“มึงจะบอกว่า–”
ช่างบ้าที่น้ำเสียงตกใจของมันตอนนี้ฟังเพราะกว่าคำสุภาพไหนๆ
“อือ”
ผมขยิบตา พยายามแกะแขนมันออกจากตัว แต่แฮซกลับจับผมแน่นขึ้น
“มึงอย่าบอกว่า–”
หนุ่มสถาปัตย์ไหวตัวหลบทันก่อนผมจะเฮดบล๊อกมัน กลายเป็นยืนเกาหัวยิกๆ ต่อหน้าผมแทน
“ไม่ต้องมาโกหก”
หากสายตางุนงงที่มองผมเต็มไปด้วยคำถามนับล้าน
ชนิดถ้าสกิดมันอีกนิด เครื่องหมายคำถามคงหล่นออกจากลูกตา
ผมโยนนวมทิ้งที่ม้านั่งไม้กลางห้อง ฮัมเพลง 'my junk’ เบาๆ
“กูจะโกหกมึงเพื่อ–”
แค่หลับตา เสียงครางของพี่นายก็แว่วเข้าหูแล้ว
—-
ห้องล๊อกเกอร์เงียบสงัด ไร้คน ผมเดินลากเท้าหนักๆ ออกจากบริเวณอาบน้ำ ตัวเปล่าเว้นผ้าขนหนูที่พันเอวไว้
“ชมแต่พี่ เราเองก็เก่งใช่เล่นนี่”
ผมหยุดที่มุมห้อง เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเจ้าของเสียงยืนพิงประตูห้องอยู่
“พี่นาย–”
พระเอกละครเวที(ที่เพิ่งลาโรงไป) ส่ายหน้า เสยผมหยิกยุ่งนั้นให้ยุ่งขึ้นไปอีก
“พี่–ว่าจะมายินดีด้วยที่เราชนะแมทช์” พี่นายพูดยิ้มๆ
รู้สึกตัวอุ่นขึ้นมาใต้สายตาพี่นาย ทั้งๆที่เพิ่งอาบน้ำเย็นระดับขั้วโลกไปแท้ๆ
“ไม่คิดว่าห้องจะร้างขนาดนี้” เมลคิออลของผมก้าวเข้ามาครึ่งทาง ข้างฝั่งล๊อกเกอร์เดียวกับที่ผมยืนอยู่
—
“พี่นายแม่งร้ายว่ะ” แฮซตบเข่าฉาด ผมนั่งพิงหลังล๊อกเกอร์ เหยียดขายาวกับพื้น ไอ้แฮซเท้าคางอยู่บนม้านั่ง พร้อมรับประทานเผือกเรื่องผมแทนข้าวเย็น
“ทำมาเป็นไม่ร่งไม่รู้!” มันบ่น “เย็นขนาดนั้นหลังแมทช์ ก็ไม่มีใครอยู่ละว้า…”
เอียงตัวมาใกล้ ดีดกล้ามหน้าท้องผมดัง ป้าบ!
“แต่ถ้าพ่อเทพบุตรอยากเป็นอมตะวิธีนี้ ใครจะไปห้าม”
ผมเขม่นมองมัน
“ไอ้นี่ มึงจะฟังต่อมะ”
—-
“ถ้าแบร์ยังไม่พร้อม–” เสียวในหัวใจ เมื่อรู้สึกตาพี่นายไล่ตามตัวผมแต่หัวจรดเท้า
พี่นายเพิ่งจะเริ่มเรียกชื่อเล่นผมสองสามวันที่ผ่านมา
ครั้งแรกที่ได้ยินผมแทบสำลักมาร็อคชิโน่คาร้านกาแฟใจกลางลอนดอน (ต่อหน้าพี่นายอีกนั่นแหละ)
“–พี่ไปรอข้างนอกก่อนได้นะ”
—-
“มึ๊งงงงง" ไอ้แฮซทำเสียงสูง “เค้าแ-กมึงทางสายตาแล้วมั้ย–”
มันหัวเราะเสียงดัง
“ประโยคอ่อยชัดๆไอ้เ-ี้ย!”
ผมเลียริมฝีปาก นึกถึงรสปากคู่นั้นที่ผมบรรจงจูบเมื่อเย็นวาน
—-
ยอมรับว่าผมเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาพี่นายเอง โอบร่างจากข้างหลัง แล้วแอบพักคางที่ไหล่พี่เค้า
“เห็นหน้าพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว…” ผมอ้อน จูบเบาๆที่ฐานคอ “…อยู่ต่อสักพักนะฮะ–“
พี่นายปล่อยให้ผมกอด ยอมเอนคอให้ผมซุกไซ้
ไฟเขียวเปิดทางขนาดนี้แล้ว จะรออะไรอีก
หอม กลิ่นผิวขาวๆที่ผมพรมจูบตรงซอกคอ
หวาน กับเสียงครางเบาๆใต้ลมหายใจของพี่นาย เมื่อปากผมสัมผัสจุดอ่อนที่คอเข้า
ฝ่ามือผมค่อยๆไล่ลงอกพี่นาย ปลดกระดุมเสื้อขาวตัวบาง พอดีเจ้าตัวหันกลับมาหาผม
ช่วยถอดเสื้อออก สองมือประคองแก้มผมไว้
ริมฝีปากหาปากของผมจนเจอ
เหมือนเราเต้นรำถอยหลังไปชนล๊อกเกอร์
หลังเปลือยเปล่าของพี่นายกระทบตู้สีแดงดัง โครม! ขณะเราทั้งคู่ยังหลับตา
รู้รสแต่ปากของกันละกันในความมืด
— —
“งั้นที่เค้าเม้าท์กันเรื่องพี่นายใส่ผ้าพันคอในห้องเรียน…” ไอ้แฮซอ้าปากค้าง
ผมยักไหล่ นิ้วชี้แตะริมฝีปากตัวเอง
“เออ ฝีมือกู.”
———
notes: ฟฟฟฟฟฟ
เขียนมากกว่านี้จะเลือดออกหมดตัวค่ะ
แอบติดภาษาด้วย อยากบรรยายให้สลวยกว่านี้ แต่สู้อังกฤษที่ลื่นกว่าไม่ไหว
ติดประโยคทีนี่เขินไปนาน555 เหมือนภาพค้างในหัวเลย
รอติดตามตอนต่อไป: lollipop สีลูกกวาดนะคะ <3
x
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in