header: งานจาก @hatoribaka บนทวิต เจ้าของคำรีเควส teddy bear ค่ะ :)
——
หน้างอนๆของแฮซเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่แปดของโลก สำหรับคนที่อารมณ์ร่าเริงเป็นปกติแล้ว ปากคว่ำๆนั้นแปลกตา ดูไม่เข้ากับหน้าแสนหวาน
“ทำไมน้องไม่เรียกชื่อกูวะ” แฮซบ่นดังๆ จิบมอคค่าในมือ
ผมกลอกตา เอียงตัวไปมองบาริสต้าหนุ่มแว่นหลังเคาน์เตอร์ วันนี้ฟินน์ผมยุ่งกว่าปกติ แต่ยังคงต่างหูที่ใส่ประจำ ผมเดาเอาเล่นๆว่าบาริสต้าคนหล่อเงียบ อาจเป็นสาเหตุที่คิวซื้อกาแฟยาวออกไปนอกร้านหัวมุมเล็กๆ ในเวลาสิบโมงเช้าที่เลยชั่วโมงกาแฟยามเช้ามาแล้ว
“เค้าคงเชื่อแหละว่ามึงชื่อ ‘น้องฟินน์ไปเดทกับพี่วันศุกร์นะครับ’”
แฮซผิวปาก ไม่วางตาจากน้อง “ความรักเป็นสิ่งต้องห้ามงั้น–”
ผมไล่นิ้วไปตามขอบแก้วเล่น “กูละแปลกใจว่าเค้าปล่อยให้มึงลอยนวล จะมากินบาริสต้าเค้าแทนกาแฟอยู่แล้ว”
“อ้าว ก็คนจริง จีบจริง”
“ตรงเนอะ”
“โห” แฮซซดกาแฟหยดสุดท้ายแล้วถอนใจ “ใครจะไปโชคดีได้พี่นายเหมือนมึงละ–“
เจอประโยคนี้เข้าไป ผมพูดไม่ออกเลย
——
เคยหัวหมุนทั้งๆที่โลกหยุดนิ่งมั้ยฮะ
เหมือนทรงตัวได้ ทั้งๆที่ในหัวปั่นป่วน
เหมือนได้ยินเสียงรอบตัวระดับปกติ ทั้งๆที่ในหูอื้ออึง
เหมือนอะไรๆเคลื่อนไหวช้าลง จากมุมมองของผมคนเดียว
……
เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเฉพาะในหนังไม่ใช่เหรอ
เรื่องแบบนี้คือจินตนาการที่ผ่านการตัดต่อมาอย่างดี เพิ่มเอฟเฟกซ์และเสียงประกอบ ตามสตอรี่บอร์ดที่วางแผนไว้ คือลูกเล่นไม้นึงที่บิดเบือนเวลาและความรู้สึกคนดู
….คือสิ่งที่กำลังเกิดกับผมในโลกแห่งความจริงเมื่อพี่นายสบตาผม
“ขอบคุณที่มานะ”
เสียงเทเนอร์นุ่มกล่าวสั้นๆ ดวงตาเขียวแก่คู่นั้นเหมือนจะสะกดผมอยู่กับที่
(ซึ่งก็ทำได้จริงๆแหละ จะเปรียบเทียบไปไหน
………
………….เลิกเพ้อได้แล้วมั้ย แบร์
เลิกเพ้อกับความจริงสักที.)
“ขอบคุณอะไรกัน พี่นาย” ผมว่า ยืนมองสุดหล่อของผมบนเวที มือสองข้างซ่อนของที่เตรียมมาให้พี่นายไว้ข้างหลังตัว ทั้งๆที่อยากรีบจะเข้าไปกุมมืออุ่นคู่นั้นอีก
เข้าไปโอบร่างพี่ …แนบสนิทไว้กับตัว ใกล้กลิ่นที่จดจำได้ ใกล้เสียงหัวใจที่เกือบได้ยินทุกจังหวะ–
“ยังไงผมไม่พลาดงานนี้อยู่แล้ว”
พระเอกละครเวที(ของผม… อีกนั่นแหละ– คงไม่ว่ากันนะ–ก็… พี่นายทั้งคน…) ยิ้มเขินๆ แก้มสองข้างที่ถูกแต่งเติมเพื่อแสงของเวทีดูแดงระเรื่อขึ้นมาอีก ผมสีดำหยิกสลวยที่เจ้าตัวจับทรงไม่รู้กี่ครั้งระหว่างสวมบทเมลคิออลดูน่าลูบไล้ใต้สปอตไลท์
หลังจบการแสดง ผมยืนรอจนฝูงคนแยกย้ายออกจากหอประชุมไปแล้ว ถึงขึ้นเวทีไปถามหาพี่อนาย
พี่คนผมบลอนด์กระแอมกระไอ เมื่อได้ยินชื่อพี่อนายเต็มๆจากปากผม แล้วหลีกทางให้ เขาหันไปเรียกพี่นาย ที่ถูกรอบล้อมไปด้วยกลุ่มแฟนๆสาวๆรุ่นน้อง มือสองข้างประคองช่อดอกไม้ที่ได้รับไว้
“ ‘บี’ มาหาน่ะ พี่อนาย”
พี่คนนั้นพูดเสียงดัง เน้นคำว่า ‘บี’ จนผมกระพริบตารัวๆ แทบจะก้มมองรองเท้าตัวเอง
ไม่มีความลับหลังเวทีละครสินะ
แต่ผมก็ไม่สบถกับตัวเองแรงเท่านาทีที่พี่นายก้าวออกจากเด็กสาวกลุ่มนั้นมาหาผม
(ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองจริงๆ…)
“แบร์รี่–“
(ผิดไหมที่ผมจะเพ้อ ถ้ายังไม่ชินกับความจริงที่ได้ยินพี่นายเรียกชื่อผมด้วยโทนเสียงนี้เต็มสองหู เสียงที่ผมอยากได้ยินตอนเช้าและก่อนเข้านอน
เสียงหวานที่ผมอยากฟังซ้ำไปมาในหัว เหมือนแผ่นเสียงตกร่องที่ผมจงใจไม่ดึงออกจากเครื่องเล่น
….เรียกผมซ้ำๆอีกก็ได้ฮะพี่)
ผมยิ้มกว้าง สองมือยื่นตุ๊กตาหมีที่อุ้มไว้ให้พี่นาย
“เก่งที่สุดเลย เมลคิออลของผม”
พี่นายมองซ้ายขวาไม่นาน พี่ผมบลอนด์ก็เดินเข้ามารับช่อดอกไม้สองช่อใหญ่ไป ให้พี่นายรับตุ๊กตาหมีจากผมได้สะดวก
ปลื้มใจจังที่หมีสีเทาตัวนุ่มขนปุยได้อยู่ในอ้อมกอดเจ้าของซะที
“ไม่เห็นต้องลำบากเลย” พี่นายพึมพำ มือลูบแขนตุ๊กตาหมี สายตาแทบจะฟ้องถึงปากที่พูดตรงข้ามกับใจ
ผมคว้าแขนตุ๊กตาหมีข้างเดียวกับมือพี่นาย
“แบร์เห็นละนึกถึงพี่” ผมอธิบายสั้นๆ ปลายนิ้วไล้ไปตามนิ้วทั้งห้าของอีกฝ่าย “รับไว้เถอะฮะ”
พี่นายพยักหน้า ตายังคงมองผมอยู่
ผมขยับเข้าใกล้ มือยังไม่ปล่อยจากมือพี่นาย
“ฮั่นแน่” ผมเรียก ไม่สนละว่าบนเวทีเหลือเราสองคนหรือใครอื่นอีก “พี่ไม่ท้วงแบร์–“
นิ้วพี่นายสอดคล้องช่องระหว่างนิ้วของผมพอดี
“—พี่ยอมเป็นเมลคิออลของผมแล้วนะ…”
เรายืนอยู่อย่างนั้น จับมือกันกลางเวที ตุ๊กตาหมีขนาบกลางระหว่างเราสองคน
ไฟยังส่องสว่าง
“ใช่สิ” พี่นายตอบเรียบๆ “จะว่างั้นก็ได้…”
ผมทำเป็นเอียงหูฟัง “ว่าไงนะฮะ พูดอีกทีได้มั้ย–”
ปากจุมพิตเบาที่สันจมูกพี่นาย
เมลคิออลของผมย่นจมูกใส่ เอ่ยทันที “พี่พูดกับน้องแบร์ตัวนี้ตังหาก”
ผมหัวเราะ แขนอีกข้างเอื้อมไปโอบเอวนั้น
“แล้วแบร์คนนี้ละ”
กระซิบข้างหูพี่นายซ้ำๆ ไล่ลิ้นไปตามใบหูให้อีกฝ่ายขนลุกเล่น
“แล้วแบร์คนนี้ละ….”
——
notes: กรีสสสสสส คนเขียนเขินมากค่ะ > <”
เด็กแบร์!!!!!
มาคอยดูคู่นี้ในตอนต่อไปที่ใช้ชื่อใสใส “ล๊อกเกอร์รูม” นะคะ
อิอิ.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in