เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WILD SIDE ในนามของธรรมชาติSALMONBOOKS
๐๒: ผู้พิทักษ์ป่ากับปืนมือสองไร้ลูกปืน


  • เวลาที่ผู้คนต้องการความสงบทางจิตใจ หลายคนมักเดินเข้าวัด แต่ผมมักเดินเข้าป่า ยิ่งลึก ยิ่งห่างไกลผู้คน

    ป่าใหญ่ในธรรมชาติมีพลังดึงดูดให้เข้าไปค้นหา และเมื่อกลับออกมา ก็ได้รับพลังจากความสงบแทบทุกครั้ง

    ผมมีโอกาสเดินทางเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก อำเภออุ้มผาง จังหวัดตากหลายครั้ง

    ครั้งแรกเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ร่วมเดินทางกับเจ้าหน้าที่ด้วยเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งข้ามภูเขามาลงบริเวณที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรในช่วงปลายปี อากาศเย็นยะเยือก นั่งรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าขับลึกเข้าไปในป่า ผ่านซากหมู่บ้านชาวม้งที่เพิ่งอพยพออกไปไม่นาน หลังจากรัฐบาลได้จัดหาที่ทำกินให้ชาวม้งผู้อาศัยอยู่ใจกลางป่าแห่งนี้ได้มีที่ดินทำกินอยู่นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

    ผมจำได้แม่นว่าเย็นนั้นเห็นเสือลายเมฆตัวหนึ่งนอนบนทางในป่าห่างจากเราไม่ถึงห้าสิบเมตร ก่อนจะลุกเดินออก เมื่อเราเข้าใกล้มากขึ้น
  • แน่นอนว่าป่าลึกขนาดนี้ จึงไม่เคยคิดจะเดินป่าเอง ทุกครั้งเราต้องออกไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่เดินลาดตระเวนเป็นประจำตามเส้นทางของพวกเขา

    เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก เดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร แต่เนื่องจากมีพื้นที่กว้างใหญ่กว่าสองล้านไร่ ตั้งแต่จังหวัดกาญจนบุรีมาถึงจังหวัดตาก ยากต่อการเดินทางและบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ จึงมีการแบ่งออกเป็นเขตฯ ป่าทุ่งใหญ่ตะวันตกและตะวันออก

    ปลายฝนของปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ผมได้กลับไปป่ามรดกโลกแห่งนี้อีกครั้ง

    ผมติดตามเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไปทำภารกิจแทนคนทั้งประเทศ คือการปกป้องดูแลมรดกโลกแห่งนี้ให้พ้นจากภัยคุกคามของการล่าสัตว์ การตัดไม้ทำลายป่า และการบุกรุกผืนป่า

    เจ้าหน้าที่เหล่านี้คือกำลังสำคัญ แต่พวกเขาไม่ใช่ข้าราชการ มีสถานะเพียงลูกจ้างของทางการ อาจจะเป็นชาวบ้านรอบๆ ผืนป่าที่มาสมัครงาน ไปจนถึงคนต่างถิ่นผู้มีหัวใจอยากดูแลป่า

    รถกระบะสีขาวตอนเดียว Toyota Hilux 4WD LN ส่งเสียงคำรามแต่เช้าตรู่ แม้อายุจะเก่าพอๆ กับการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้ แต่ด้วยความแข็งแกร่ง พละกำลัง ช่วงล่างอันทนทาน และเครื่องยนต์ที่ง่ายต่อการบำรุงรักษา จึงกลายเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ชิตชัย นิ่มเล่ห์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า นักขับรถในป่าอันดับต้นๆ นำเรามุ่งสู่ป่าลึกพร้อมกับเจ้าหน้าที่อีกหลายนาย
  • ยิ่งลึกหนทางยิ่งสูงชัน เป็นการเดินทางที่ลำบากกว่าที่คิด จากฝนตกหนัก เส้นทางเละเป็นโคลน เราต้องออกมาช่วยกันผลัก ช่วยกันดันรถตกหล่ม ขับฝ่าดงหญ้า กิ่งไม้ระเกะระกะ บางขณะมีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางทาง ก็ต้องช่วยกันตัด ช่วยกันเลื่อย

    สองชั่วโมงผ่านไป เราไปได้ไม่กี่กิโลเมตร

    ชิตชัยหยุดรถ พาพวกเรามาดูกล้องที่พวกเขาตั้งไว้ดักถ่ายสัตว์ป่าที่เดินผ่านไปมา

    กล้องสามารถบันทึกภาพช้างป่าได้ และตรงที่เราหยุดรถก็เห็นรอยตีนเสือดาว

    “รอยยังใหม่มาก น่าจะเดินล่วงหน้าเราไปไม่นานนัก สัตว์ป่าก็ชอบเดินตามเส้นทางแบบคนนะครับ มันเดินง่ายกว่า” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดขึ้นมาขณะกำลังเอาตลับเมตรวัดขนาดของรอยเท้า ก่อนจะบันทึกลงและเปิดเครื่องจีพีเอสหรือเครื่องบันทึกพิกัดทางภูมิศาสตร์ พล็อตตำแหน่งที่เจอสัตว์ เก็บไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานต่อไปว่าบริเวณใดที่เจอสัตว์ป่า

    ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าหลายเขตได้รับการฝึกฝนให้มีความรู้ทางเทคโนโลยีด้านสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลาดตระเวน เมื่อเก็บข้อมูลแล้วพบว่าพื้นที่ใดมีปัจจัยเสี่ยงในการล่าสัตว์หรือตัดไม้ ก็จะเพิ่มการลาดตระเวนกันให้มากขึ้น

    ขับรถต่อไปสักพัก เราเห็นไก่ฟ้าหลังเทาสองตัวกระโดดหลบออกนอกเส้นทาง ตลอดเส้นทางสำรวจ เรายังเจอรอยเท้าสัตว์อีกหลายชนิด อาทิ กระทิง หมูป่า

    ขณะที่รถติดหล่มโคลนอย่างสาหัส ตุ๊ดตู่ สัตว์เลื้อยคลานวงศ์เดียวกับเหี้ย ก็ค่อยๆ เดินอาดๆ หายลับไปในป่าข้างทาง สักพักมีคนชี้ให้เห็นรอยหมี
  • “เป็นหมีควายครับ หากยืนขึ้นมาก็น่าจะร่วมสองเมตร”

    แต่รอยตีนสัตว์ที่เราตื่นเต้นมากที่สุด คือรอยตีนสมเสร็จ สัตว์ป่าสงวนที่หายากมาก และเป็นสัตว์ที่แทบจะป้องกันตัวเองไม่ได้ จึงไม่ค่อยปรากฏให้ใครเห็นบ่อย

    เย็นนั้นก่อนจะถึงหน่วยพิทักษ์ป่ากระแง่สอด เราตามมาสมทบกับทีมลาดตระเวนที่เดินป่ามาแล้วหลายวัน พวกเขากำลังตั้งแคมป์ ก่อกองไฟหุงข้าวกันกลางป่า

    เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจะออกเดินป่ากันเฉลี่ยเดือนละ ๑๕ วัน การลาดตระเวนป่าบ่อยๆ มีส่วนสำคัญทำให้การลักลอบตัดไม้ล่าสัตว์ลดน้อยลง และเป็นการเพิ่มปริมาณสัตว์ป่าด้วย

    ป่าผืนใดมีการพบเสือโคร่งหรือเสือดาวจะเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่ามาก

    ผืนป่าที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าออกพื้นที่บ่อยๆ จะมีแนวโน้มว่ามีสัตว์ป่าชุกชุมกว่า เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งมีเสือโคร่งอาศัยอยู่เกือบร้อยตัว มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ๒๕๐ คน และออกลาดตระเวนป่า ๒๐๐ คน

    ขณะที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แทบไม่มีเสือโคร่งอาศัยเลย ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ๔๐๐ คน แต่ออกลาดตระเวนป่าเพียง ๖๐ คน เพราะภารกิจของเจ้าหน้าที่คือการดูแลนักท่องเที่ยว

    เมื่อไม่มีการลาดตระเวนอย่างเข้มข้น การลักลอบตัดไม้และล่าสัตว์จึงมีบ่อย ในที่สุดเสือโคร่งที่เคยมีชุกชุมในป่าเขาใหญ่ก็จะค่อยๆ หายไป

    สำหรับป่าทุ่งใหญ่ตะวันออก มีเจ้าหน้าที่ร่วมร้อยคนออกลาดตระเวนป่ากันส่วนใหญ่ สัตว์ป่าที่นี่จึงชุกชุมโดยเฉพาะสัตว์ป่าหายาก
  • “ผมทำงานในป่าทุ่งใหญ่มายี่สิบกว่าปีแล้วครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยรับจ้างอยู่กรุงเทพฯ ทำทุกอย่าง จนเบื่อความวุ่นวาย เลยอยากมาอยู่เงียบๆ ในป่า ก็มาสมัครเป็นพิทักษ์ป่า ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรมาก เพียงแต่อยากมีงานทำ”

    หลังมื้อค่ำ ชิดชัยเล่าเรื่องราวให้ฟังรอบกองไฟ

    “ทำงานไปนานๆ ก็รู้สึกรักป่า รักสัตว์ในป่า มันค่อยๆ ซึมซับเห็นความสำคัญของผืนป่า เห็นใครตัดไม้ ล่าสัตว์ ผมจะรู้สึกแย่ ต้องออกมาเจอสักหน่อย ตอนนั้นมีข่าวเสือถูกยิง ผมยังรู้สึกใจหายเหมือนรู้ว่าเพื่อนถูกยิงเลย

    “ครั้งหนึ่ง ขณะออกเดินลาดตระเวน ผมเคยเห็นหมาในสองสามตัวกำลังไล่ล่ากวางในหนองน้ำ เห็นเขาค่อยๆ ถูกกัดลากเอาไส้ออกมา โดนกัดลูกตา เห็นเขาค่อยๆ ตาย ผมรู้สึกสงสารมาก ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นธรรมชาติ แต่ก็จะรู้เลยว่าไม่อยากให้สัตว์ป่าต้องตายอีก”

    ปะละทะ เหล้าข้าวเหนียวกะเหรี่ยง หมักกันเองตามประสาชาวป่า ถูกรินใส่จอกไม้ไผ่เวียนกันชิม แก้ความหนาวเหน็บกลางป่าอย่างดี

    เราพบกับหนุ่มฉกรรจ์ช่างเครื่องประจำหน่วยจากปักษ์ใต้ที่บ้านพอมีฐานะ แต่อาสามารับจ้างเฝ้าป่าด้วยค่าตัวเดือนละ ๗,๕๐๐ บาท โดยไม่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลใดๆ กำลังทำความสะอาดปืนเอชเค ปืนมือสองที่ทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้รับมอบจากกองทัพบกให้เป็นอาวุธประจำกายแม้สภาพจะไม่ค่อยสมบูรณ์

  • อาวุธประจำกายของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า หากไม่ใช่ปืนเอชเคก็คือปืนลูกซอง อายุใช้งานเกินสิบปี ล้าสมัยกว่าอาวุธอย่างอาก้าหรือคาร์บินของบรรดานายพราน ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้ใช้ชีวิตในป่าสมบุกสมบันมากกว่าทหาร ตำรวจ และเสี่ยงภัยเช่นเดียวกัน

    แต่ที่แย่ไปกว่านั้น คือพวกเขาต้องหาซื้อลูกกระสุนจากตลาดมืดเอง ในราคาลูกละ ๕ บาทสำหรับกระสุนปืนเอชเค และ ๒๐ บาทสำหรับกระสุนปืนลูกซอง เพราะระบบราชการอันโบราณด้วยระเบียบคร่ำครึ ทำให้ไม่มีใครกล้าทำเรื่องขอเบิกลูกกระสุน เพราะยิงแต่ละครั้งต้องทำเรื่องชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการขอเบิกกระสุน และต้องเก็บปลอกกระสุนมาให้ครบด้วย

    เหตุผล ความจำเป็น และปลอกกระสุนอาจจะใช้ได้กับสนามซ้อมยิงปืน แต่ไม่ใช่ชีวิตจริงกับการปะทะกันในป่าลึก

    แถมเวลาเจอผู้ต้องสงสัยในป่าก็ห้ามยิงก่อน ต้องโดนยิงก่อนจึงมีสิทธิ์ตอบโต้ ซึ่งทำให้ความตายปรากฏขึ้นที่ป่าทุ่งใหญ่ฯ มาแล้ว

    “เมื่อสองปีก่อน มีรายงานว่าพรานชาวม้งที่ลักลอบล่าเสือโคร่งตามใบสั่งในป่าห้วยขาแข้ง จะผ่านมาทางป่าทุ่งใหญ่ พวกเราได้รับมอบหมายให้ไปดักจับ ตอนนั้นมืดแล้ว พอพรานม้งห้าคนโผล่ออกจากป่า เพื่อนผมเป็นหัวหน้าชุดก็ร้องตะโกนให้หยุดจะทำการตรวจค้น ปรากฏว่าพรานเอาปืนอาก้ากราดใส่ทันที เพื่อนตายสองคน บาดเจ็บอีกสามคน เรายิงสวนไป แต่พรานตายไปคนเดียว ที่เหลือหนีรอด”

    เจ้าหน้าที่เหล่านี้ทราบดีว่าทุกครั้งที่เกิดการปะทะ พวกเขาเสียเปรียบเสมอ ไม่รู้ว่าใครจะเป็นรายต่อไปที่ต้องสังเวยเพื่อปกป้องป่าผืนนี้

    ใกล้เที่ยงคืน ทุกคนแยกย้ายกันไปนอนเปล

    มีแต่ความมืดมิดบนพื้นดิน แต่เมื่อมองขึ้นท้องฟ้า ดาวนับแสนดวงระยิบระยับส่องประกายเป็นทางช้างเผือกพาดผ่านฟ้าคืนนั้น

    ทางยิ่งมืด ยิ่งเห็นดาวพราวแสง

    ชีวิตยิ่งมืดมน เพียงแค่ขอเงยหน้า

    ยิ่งเห็นแสงสว่างอยู่รำไร

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in