เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WHY ร้ายSALMON X VANAT
25: BRAIN หนูตะเภาที่พยายามยึดครองโลก
  • PROFILE
    NAME: Brain
    FIRST APPEARANCE: Animaniacs ตอน ‘Win Big’ (1993)
    GOAL: ครองโลก

    * หลังจากปรากฏตัวครั้งแรกในการ์ตูนเรื่อง Animaniacs แล้ว ซีรีส์ Pinky and the Brain (ซึ่งมี Brain เป็นตัวเอกของเรื่องเอง) ถึงได้เริ่มฉายในปี 1995

    ในโลกวิทยาศาสตร์ จะมีสัตว์ชนิดไหนซวยเท่าหนูตะเภาที่ตกเป็นตัวทดลองของมนุษย์เสมอมา Steven Spielberg ผู้กำกับระดับหัวแถวจึงหยิบเรื่องราวของเจ้าหนูเหล่านี้มานำเสนอเป็น Pinky and the Brain การ์ตูนแอนิเมชั่นจิกกัดสังคมที่ยกสถานการณ์ปัจจุบันของสหรัฐฯ ในขณะนั้นมาแขวะ จับบุคคลในประวัติศาสตร์มาล้อเลียนอย่างสนุกสนาน

    แทนที่หนูจะเป็นฝ่ายถูกทดลอง ในโลกของ Pinky and the Brain มนุษย์ต่างหากที่กำลังจะถูก ‘เบรน’ และ ‘พิงกี้’ ซึ่งอาศัย (หรือพูดให้ถูกคือโดนขัง) อยู่ใน Acme Lab ห้องทดลองในเมืองแคลิฟอร์เนีย วางแผนเตรียมถล่มและยึดครองโลก
  • เบรนเป็นหนูหัวโจก ทุกลมหายใจเข้าออกของมันนึกถึงแต่การเทคโอเวอร์โลก หัวที่ใหญ่โตของเบรนแสดงถึงมันสมองมากมายเหลือล้น ซึ่งที่เบรนฉลาดได้ขนาดนี้ก็เป็นผลมาจากการถูกจับไปทดลองในโปรเจกต์ B.R.A.I.N. (Biological Recombinant Algorithmic Intelligence Nexus) อันเป็นที่มาของชื่อตัวมันนั่นเอง

    เมื่อกลางคืนเดินทางมาถึง เจ้าหนูทั้งคู่จะเริ่มคุยกัน พิงกี้—หนูหนุ่มไฮเปอร์ผู้ใสซื่อจะปรึกษาเพื่อนร่วมกรงว่า วันนี้จะทำอะไรกันดี เบรนก็จะตอบอย่างไม่ลังเลว่า จะยึดครองโลก (โดยพิงกี้มักทำหน้างงๆ ว่ามึงจะครองโลกไปทำไมกัน) แล้วก็เริ่มอธิบายแผนการที่ดูแล้วช่างเยอะแยะรุงรังเกินความสามารถของหนูตะเภาไปมาก 

    เบรนออกแบบวิธีการครองโลกประหนึ่งว่ามันช่างง่ายดาย แล้วทั้งคู่ก็จะแหกกรงฉกเอาสิ่งของนั่นนี่นู่นในห้องทดลองมาประกอบเข้าด้วยกัน และออกไปก่อความไม่สงบได้ทุกคืน แต่สุดท้ายทั้งสองก็จะตกหลุมพรางของตัวเอง แผนการล้มเหลวไม่เป็นท่า พาให้พวกมันกลับเข้ากรงมานั่งอยู่ที่เดิม



    และไม่นานพิงกี้ก็จะถามเบรนอีกครั้งว่าคืนนี้พวกมันจะทำอะไรกันดี
  • BAD LIST

    • หากจะบอกว่าเบรนใช้พิงกี้เป็นเครื่องมือในการครองโลกก็คงไม่ผิดนัก ครั้งหนึ่งมันขโมยเครื่องขยายขนาดวัตถุจากห้องทดลอง ดัดแปลงและจัดการทำให้พิงกี้ตัวใหญ่ กลายเป็น ‘Pinkyzilla’ (ล้อเลียนก็อดซิลล่า) ออกไปทำลายเมือง ก่อนจะขยายตัวเองตามไปปราบพิงกี้ เพื่อคนทั่วโลกจะได้คิดว่ามันคือฮีโร่!

    • เบรนและพิงกี้ถูกย้ายไปถึงรัสเซียเพื่อทดลองของเล่น เบรนพบหนูสาวชาวรัสเซียซึ่งเป็นสายลับ หนูอเมริกันนามเบรนจึงร่วมมือกับเธอ ทรยศชาติ หักหลังบ้านเกิดและเริ่มวางแผนครองโลก

    • เมื่อตระหนักว่าประธานาธิบดีคือคนที่เกือบจะมีอำนาจมากที่สุดในโลก และการเมืองมีผลอย่างยิ่งในแผนการครองโลก เบรนจึงวางแผนที่จะเล่นการเมืองโดยมุ่งหมายจะเป็นประธานาธิบดีเสียเอง

    • เบรนขโมยเครื่องมือปรับระดับความฉลาดจากห้องทดลองมาใช้กับพิงกี้ มันต้องการให้เพื่อนร่วมกรงฉลาดขึ้นเพราะจะได้ตามแผนของมันทันบ้าง แต่เมื่อพิงกี้ฉลาด เบรนก็ไม่พอใจที่มีคนชาญฉลาดเท่าตัวมัน มันจึงทำให้พิงกี้กลับไปฉลาดน้อยดังเดิม...
  • IN-DEPTH
    โดย วณัฐย์ พุฒนาค


    ‘พิงกี้’ และ ‘เบรน’ สองหนูคู่หูที่วันๆ ไม่ทำอะไรนอกจาก ‘พยายามยึดครองโลก’ ซึ่งคนดูอย่างเราก็จะไม่รู้หรอกว่าเบรนอยากยึดครองโลกไปทำไม แต่ที่แน่ๆ การยึดครองโลกเป็นคอนเซปต์สำคัญของตัวร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย (ส่วนจะครองไปทำอะไรนั้น... อืม ไว้ว่ากันอีกที)

    เมื่อดูปีที่สองหนูในห้องทดลองปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรกใน Animaniacs ก็พบว่าปี 1993 เป็นเพียงสองปีหลังจากสงครามเย็น (1947-1991) จบลง แนวคิดเรื่องการครองโลกหรือแผ่ขยายอาณาเขตของสองค่ายคือ ‘เสรีนิยม’ และ ‘คอมมิวนิสต์’ เพิ่งจะซาลง ซึ่งจะว่าไปสงครามดังกล่าวก็ดูคล้ายๆ การพยายามยึดครองโลกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะจากสายตาของโลกเสรีประชาธิปไตยที่มองโลกคอมมิวนิสต์ (จริงๆ ก็ต้องการจะยึดครองกันทั้งสองฝ่าย แต่ฝ่ายโลกเสรีจะใช้แนวคิดเรื่องเสรีประชาธิปไตยมาอ้างว่าไม่ได้ยึดนะโว้ย แค่เข้ามาช่วยต้านพวกคอมมิวนิสต์เฉยๆ)

    และไม่ใช่แค่ผลของการสู้เชิงอุดมการณ์ในช่วงสงครามเย็นเท่านั้นที่ติดเป็นภาพจำของการ ‘พยายามแผ่อาณาเขตไปทั่วโลก’ เพราะไอคอนที่สำคัญต่อแนวคิดเสรีนิยมประชาธิปไตยคือจอมเผด็จการต่างๆ เช่น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์, นโปเลียน โบนาปาร์ต, พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช คนเหล่านี้ต่างพยายามแผ่ซ่านอาณาเขตเพราะต้องการปกครองโลกด้วยกันทั้งนั้น

    ลักษณะดังกล่าวส่งผลให้เกิดแนวคิดหรือจินตนาการเรื่องการครองโลก ทำให้มีการนึกถึงโลกที่ถูกยึดครองในการ์ตูนและภาพยนตร์บ่อยๆ แต่ภาพการยึดครองที่ว่าก็เป็นภาพโลกที่ย้อนกลับไปสู่ยุคก่อนเสรีนิยมประชาธิปไตย คือในจินตนาการเมื่อโลกโดนยึดปุ๊บ ต้องหมุนย้อนกลับไปเป็นโลกแบบโบราณ เป็นปกครองแบบเผด็จการโดยผู้นำบ้าอำนาจ ประชาชนกลายเป็นทาส ถูกล่ามโซ่ เฆี่ยนตีเพื่อสร้างอะไรใหญ่โตอย่างพวกอนุสาวรีย์ทำด้วยทองคำประมาณนั้น
  • จินตนาการประหลาดๆ พวกนี้มักมาจากฝ่ายสหรัฐฯ และมาในรูปแบบของการ์ตูนที่ให้ภาพผู้พยายามยึดครองโลกดูเป็นคนงี่เง่าไร้สาระ พวกที่ยึดได้ก็เอาไปทำอะไรบ้าบอ ก่อนจะถูกซูเปอร์ฮีโร่ซิวไปในตอนจบ

    ในแง่หนึ่ง การยึดครองโลกและหมุนโลกกลับไปยุคก่อน ‘ประชาธิปไตย’ มุ่งทำลายแนวคิดเรื่อง ‘เสรีนิยม’ อันเป็นอุดมการณ์หลักที่สหรัฐฯ เชิดชู ภาพพวกนี้เลยมักถูกวาดออกมาให้ล้าหลัง น่าขบขัน และทำอะไรไม่สำเร็จอยู่เสมอ เพราะสำหรับสหรัฐฯ แล้วโลกหรืออุดมการณ์ที่เหมาะสมทันสมัยคือโลกทุนนิยมเสรีที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย

    ในกรณีของเบรนและพิงกี้ก็เหมือนกัน เนื้อเรื่องกำหนดให้หนูมีแนวคิดอยากจะครองโลก ทั้งที่เป็นแค่หนูตัวเล็กจิ๋วในห้องทดลอง แผนการทั้งหลายก็ดูเหมือนจะฉลาดแต่ที่จริงโคตรจะไร้สาระ แถมยังมีความปัญญาอ่อนของพิงกี้ที่มักทำให้แผนของเบรนล่มจมลงแบบโง่ๆ เซ่อๆ ทุกที 

    ลักษณะทำนองนี้ไม่ต่างกับตัวร้ายแนวครองโลกอื่นๆ แต่จะแสบสันกว่าตรงที่ไม่ต้องมีฮีโร่ออกมาพังแผน แต่แผนพังเพราะตัวเองหรือพรรคพวกเสมอ

    ทั้งนี้ อุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตยที่สหรัฐฯ เชิดชูก็เป็นเครื่องมือในการยึดครองครอบงำโลกเหมือนกัน แต่เป็นการครอบงำผ่านระบบเศรษฐกิจทุนนิยมและวัฒนธรรมเป็นหลัก แนวคิดที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออุดมการณ์ดังกล่าวก็มักจะถูกนำเสนออย่างเหยียดๆ ให้เป็นเพียงตัวตลกไร้สาระที่ไม่คู่ควรกระทั่งจะนับว่าเป็นคู่แข่งหรือศัตรู

    การนำเสนอภาพการพยายามปกครองโลกโดยตรงของตัวร้ายต่างๆ จึงอาจเป็นการกลบเกลื่อนการครอบงำโลกทางอ้อมของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ก็เป็นได้

    ไม่รู้ว่าเบรนที่แสนฉลาดจะคิดถึงเรื่องนี้เหมือนกันมั้ยนะ
  • “The same thing we do every night, Pinky—try to take over the world!”
    “ก็เหมือนทุกคืนแหละพิงกี้ เราจะมายึดครองโลกกัน!”

    —Brain

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in