เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WHY ร้ายSALMON X VANAT
24: MR. BURNS นายทุนผู้ไร้คนนิยม
  • PROFILE
    NAME:
    Mr. Burns / Mr. Charles Montgomery Burns
    FIRST APPEARANCE: The Simpsons ตอน ‘Simpsons Roasting on an Open Fire’ (1989)
    GOAL: ร่ำรวยกว่าเดิม มีอŽำนาจกว่าเดิม โด่งดังกว่าเดิม และได้รับการยอมรับมากกว่าเดิม

    ‘มิสเตอร์เบิร์นส์’ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเฮียแกร้อนแรงขนาดไหน ยิ่งประกอบกับบทบาทการเป็นเจ้าของโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งเมืองสปริงฟิลด์ ยิ่งทำให้มิสเตอร์เบิร์นส์ ‘แรง’ เข้าไปใหญ่!

    มิสเตอร์เบิร์นส์เป็นวายร้ายจาก The Simpsons ซีรีส์ยอดฮิตจากสหรัฐฯ ที่เสียดสีสังคมมานานกว่ายี่สิบปี เขาเป็นนายจ้างชาวสก็อตติชของ ‘โฮเมอร์ ซิมป์สัน’ ตัวเอกผู้มีบุคลิกเป็นตัวแทนชนชั้นกลางชาวอเมริกันที่ถูกกดขี่และกดดันจากนายจ้างด้วยความฉ้อฉลอยู่เสมอ

    แน่นอนว่าเบิร์นส์ย่อมต้องเป็นตัวแทนของนายทุนและชนชั้นสูง เขาเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของคฤหาสน์หรูราคา 200 ล้านที่ไม่เคยจะหยุดเพิ่มความมั่งคั่งให้ตัวเอง เขาทำทุกวิถีทางเพื่อเงินและชื่อเสียง หลอกใช้คนที่ตามเขาไม่ทันและชนชั้นที่ต่ำกว่า แถมยังเป็นนายจ้างที่เข้มงวด เอาเปรียบลูกน้อง บ้าอำนาจ ตวาดใส่คนอื่นอย่างไม่กลัวโดนต่อยหน้าพัง ทั้งที่ตัวเองนั้นมีร่างกายที่อ่อนแอมาก (หลักฐานคือเบิร์นส์ไล่นางพยาบาลผู้ดูแลออกตั้งแต่เขายังเป็นทารก)

    เขาเคยเป็นเด็กชายร่าเริงสดใส ไปไหนมาไหนกับตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ ทุกคนเรียกเขาว่า แฮปปี้ แต่พอเบิร์นส์ออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับปู่ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานผลิตระเบิดตอนอายุ 11 ปี เขาก็ติดนิสัยบ้าอำนาจและเย็นชามาด้วย เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย เขาเลือกเรียนวิทยาศาสตร์และการบริหารไปพร้อมกัน ทำให้เขายิ่งเก่งกาจในการแสวงหาอำนาจได้อย่างเป็นระบบบนธุรกิจสีเทาที่เขาเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานนิวเคลียร์ หรือแม้กระทั่งคาสิโน

    ด้วยความเป็นตัวแทนของนายทุนผู้โหดร้าย ทำให้ตอนที่ทุกคนต่างพากันจดจำ (และแอบสะใจ) มิสเตอร์เบิร์นส์ได้มากที่สุดก็คือตอนที่เขาถูกยิงตายนั่นเอง (แต่กระนั้นเขาก็ยังโผล่มาป่วนครอบครัวซิมป์สันอยู่เรื่อยๆ บางตอนบอกว่าเขาอายุ 155 ปี! นี่สรุปว่ารวยแล้วจะไม่ตายใช่มั้ยเนี่ย)
  • BAD LIST

    • มิสเตอร์เบิร์นส์ป้วนเปี้ยนอยู่ใน The Simpsons หลายสิบตอน ซึ่งเขาไม่เคยทำอะไรมากไปกว่าการอัพบารมีของตน เช่น เปิดคาสิโนเพื่อมอมเมาประชาชนและสนองความบ้าการพนันของตนเอง (ที่ร้ายกว่านั้นคือตราโลโก้คาสิโนของเบิร์นส์เป็นสาวหุ่นดีที่หน้าตาเหมือนเขาเป๊ะ!)

    • เบิร์นส์ประกาศเลิกจ้างคนงานในโรงไฟฟ้าเพราะอ้างว่าพวกมนุษย์น่ารำคาญ ต้องมีวันหยุด มีสวัสดิการจุกจิก มีค่าใช้จ่าย มีนั่นมีนี่เยอะแยะ เขาจึงตัดสินใจหันไปใช้ฝูงลิงแทนเพราะไม่ต้องมีอะไรรุงรังอย่างมนุษย์ (อืม...)

    • โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของเขาทำให้สัตว์น้ำในย่านชุมชนกลายพันธุ์ เนื่องจากโรงงานไม่ผ่านระดับมาตรฐาน


  • IN-DEPTH
    โดย วณัฐย์ พุฒนาค


    The Simpsons เป็นการ์ตูนที่ว่าด้วยครอบครัวชนชั้นกลางแบบอเมริกันชน (ที่เต็มไปด้วยความกวนประสาทที่จงใจเสียดสีล้อเลียนวิถีชีวิตแบบอเมริกัน) ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพูดถึงชีวิตของมนุษย์ชนชั้นกลางการทำงานหาเลี้ยงชีพจึงเป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงและตัวร้ายที่พวกเขาจะต้องเผชิญก็หนีไม่พ้นเจ้านายหรือนายทุนหน้าเลือดที่คอยมาโขกสับนั่นเอง

    ‘มิสเตอร์เบิร์นส์’ เป็นเจ้าของโรงงานนิวเคลียร์ เป็นเจ้านาย ‘โฮเมอร์ ซิมป์สัน’ พระเอกของเรา ลักษณะโดยรวมของมิสเตอร์เบิร์นส์ตรงตามภาพของเศรษฐีในจินตนาการ คือเป็นชายชราร่างกายผอมแห้ง หน้าตาเจ้าเล่ห์ เป็นมนุษย์ชนิดที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ต่างอะไรกับคาแรคเตอร์ของ ‘คลูเอลลา เดอ วิล’ จาก 101 Dalmatians

    ลักษณะนิสัยของมิสเตอร์เบิร์นส์ก็เป็นไปตามหน้าตาและท่าทางของพี่แกนั่นแหละ คือเป็นเจ้านายที่ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากผลกำไร วันๆ เอาแต่นั่งจ้องจอวงจรปิดคอยสอดส่องลูกน้องทุกฝีก้าว ท่าทางเหมือนจะเอาใจใส่ดูแลลูกน้องดี แต่เอาเข้าจริงกลับจำชื่อลูกน้องไม่ได้สักคน 

    ความร้ายอีกอย่างสำหรับนายทุนผู้ร่ำรวยคือ ‘ความโลภ’ และ ‘ความงก’

    มิสเตอร์เบิร์นส์มีสินทรัพย์สูงเกือบพันล้านเหรียญแต่ไม่เคยรู้สึกพอ เขาชอบใช้กลอุบายชั่วร้ายมาเพิ่มพูนความมั่งคั่งของตัวเองตามสไตล์นายทุน ได้มาเท่าไหร่ก็ไม่เคยแบ่งปันให้ใคร ซึ่งพอรวยแล้วคนที่มักจะมาเคาะประตู ก็คือพวกองค์กรการกุศลหรือเด็กๆ พอชาวคณะผ้าป่าเหล่านี้มาเคาะประตูเมื่อไหร่ มิสเตอร์เบิร์นส์ก็จะเตรียม ‘ฝูงสุนัขล่าเนื้อสุดพิเศษ’ ไว้ต้อนรับ

    การใช้หมาล่าเนื้อเป็นสิ่งที่น่าคิดว่าจริงๆ แล้วคำว่าหมาล่าเนื้อ อาจจะไม่ได้หมายถึงแค่หมาที่มิสเตอร์เบิร์นเลี้ยงไว้ไล่กัดพวกองค์กรการกุศล แต่องค์กรพวกนี้ก็ทำตัวคล้ายๆ หมาล่าเนื้อเหมือนกัน คือเมื่อมีคนรวยก็ต่างแห่แหนกันเข้ามารุมฟัดรุมทึ้งหาผลประโยชน์ไม่ต่างกันนั่นแหละ
  • ถึงอย่างนั้น การที่เบิร์นส์กลายเป็นนายทุนหน้าเลือดไร้หัวใจ ก็มีการอธิบายว่าเกิดจากการเลี้ยงดู

    ตอนเกิดมานั้น มิสเตอร์เบิร์นส์เป็นเด็กที่แสนดี แต่ดันถูกปู่รับไปเลี้ยง โดยปู่ที่ว่าเป็นอดีตเจ้านายทาสที่มาทำ ‘โรงโม่อะตอม’ (Atom Mill) ซึ่งมันต้องใช้แรงงานคนงานฟาดค้อนกับทั่งเพื่อแยกส่วนอะตอม โดยเบิร์นส์เองได้ซึมซับการกดขี่แรงงานเพื่อผลประโยชน์ในการใช้ชีวิตสุขสบายของนายทุนก็จากตรงนี้

    โรงโม่อะตอมเป็นประเด็นที่โยงกลับไปเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การค้าทาส เป็นการวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความต่อเนื่องระหว่างระบบทุนนิยมปัจจุบันเข้ากับอดีตที่สหรัฐฯ พยายามจะลืมอย่างเรื่องระบบทาสผิวดำ คือแม้ตัวเรื่องจะบอกว่าคุณปู่ของเบิร์นส์เป็นแค่อดีตเจ้านายทาส แต่โรงโม่อะตอมก็เป็นโรงงานประหลาด ดูได้จากการใช้คำว่า ‘Mill’ ที่ทำให้นึกถึง ‘Cotton Mill’ หรือโรงปั่นฝ้าย รวมถึงวิธีการทำงานก็ใช้แรงงานเหมือนกับงานของทาสผิวดำ 

    ไร่ฝ้ายและสิ่งทอเป็นอุตสาหกรรมของคนผิวขาวทางใต้ที่ใช้แรงงานทาสผิวดำอย่างสาหัสเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ถึงจะบอกว่าไม่มีทาสแล้ว แต่ดูเหมือนไร่ฝ้ายที่กลายเป็นโรงโม่อะตอมก็ยังให้ภาพอาณาจักรทุนร่วมสมัยของเบิร์นส์ไม่ต่างจากเดิม คือเต็มไปด้วยการกดขี่และการทำงานหนักเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้นายทุนที่ไม่ต่างอะไรจากยุคค้าทาสเลย

    แม้มิสเตอร์เบิร์นส์จะเป็นตัวร้ายแค่โดยตำแหน่ง คือพี่แกไม่ค่อยมีบทบาท เป็นตัวร้ายแบบที่เรามองเจ้านายในชีวิตประจำวันอยู่ไกลๆ แต่มิสเตอร์เบิร์นส์ก็เป็นตัวร้ายที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงเสียดสีระบบทุนนิยม จงใจแสดงให้เห็นว่า จริงๆ แล้วระบบทุนนิยมนั่นแหละที่เป็นตัวร้าย เป็นสิ่งที่คอยผลักดันเบิร์นส์ให้กดขี่ชาวบ้านด้วยความชอบธรรม เพื่อสะสมความมั่งคั่งของตัวเอง

    ก็เป็นเรื่องชอบธรรมธรรมดา…ตามวิถีของโลกทุนนิยม

  • “What good is money if it can’t inspire terror in your fellow man?”
    “เงินมันจะไปดีอะไร ถ้าเอามาดลบันดาลให้พวกนายหวาดกลัวไม่ได้”

    —Mr. Burns

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in