เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เศร้ามากแค่ไหน?Lastyear2015
me before you...สำหรับเราไม่ใช่หนังรัก (เปิดเผยเนื้อหา)
  • วันเสาร์ที่แล้ว มันเป็นเสาร์ที่เชื่องช้า และน่าเบื่อ
    สำหรับเราเช่นเดิม

    ก่อนหน้านี้เรานัดกับเพื่อนสนิทไปดูหนังเรื่องนี้กัน...
    แต่มีหลายเหตุทำให้ต้องยกเลิกเพื่อนเราได้มีโอกาสไปดูมา ... 
    และบอกไม่ให้เราไปดู 
    ถ้าจะไปก็ห้ามไปคนเดียว
    เราไม่เข้าใจเลยทำไมต้องห้าม
    เพื่อนบอกว่าเราไม่เหมือนคนอื่น


    และ นั่นหล่ะ คนเรายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
    วันเสาร์ที่แสนเชื่องช้าแบบนั้น
     เราเลยแอบไปดูหนังเรื่องนี้เป็นวันเสาร์ที่เราหายไป 
    ไม่ใช้อินเตอร์เน็ต ไม่ติดต่อใคร และหายไปแบบไม่บอกใครเลย

    เมื่อเราเข้าไปดูหนัง... 
    เราร้องไห้ 
    น้ำตาไหล
    แต่ไม่ฟูมฟาย
    ต้องแอบเช็ดน้ำตาอยู่หลายรอบ

    เราไม่ได้ร้องไห้เพราะซึ้งกินใจในความรักของพระเอกกับนางเอก
    เราไม่ได้ร้องไห้เพราะการทำเพื่อคนอื่นของพระเอก
    เราไม่ได้ร้องไห้เพราะการเป็นคนร่าเริงของนางเอก ที่พยายามทำเพื่อพระเอก
    เราไม่ได้รู้สึกกับความรักที่เขามีต่อกัน

    แต่...
    เราร้องไห้กับทุกคำพูดของพระเอก
    สำหรับพระเอกการติดอยู่ในร่างกายที่เป็นแบบนั้น (อัมพาต) ทำให้เขาไม่เป็นตัวเอง
    สำหรับพระเอกเขาอยากกลับไปเป็นตัวเขาเองอีกครั้ง
    สำหรับพระเอกทุกๆคืนยังฝันถึงการออกไปทำกิจกรรมมากมายที่เคยทำ

    เรากลับรู้สึกถึงการเปลี่ยนไป และความอดทนอันมากมายของพระเอก
    เมื่อเรารู้ว่าตัวเราไม่เหมือนเดิมอีกและจะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม
    การไม่มีชีวิตอยู่แล้วอาจทำให้รู้สึกดีมากกว่า

    พระเอกเลือกการที่จะตาย โดยความสมัครใจของตนเอง
    ครอบครัวรับไม่ได้
    นางเอกรับไม่ได้
    ในความเป็นจริงไม่มีใครรับได้หรอก
    แต่ทุกคนไม่ใช่พระเอกเอง
    เมื่อเราไม่ได้อยู่ในสถานะนั้น จะไม่มีวันเข้าใจ
    เมื่อเราไม่มีวันเข้าใจ อย่าตัดสินว่าเขาเป็นอย่างไร

    ในช่วงนึงของหนัง 
    พระเอกพูดว่า ตัวเองชอบปารีสมากอยากกลับไปที่นั่น 
    ไปกินขนมปัง จิ๊บกาแฟ และมองสาวๆที่นั่น
    นางเอกจึงบอกว่าทำไมไม่ไปหล่ะพระเอกบอกว่า
    สำหรับเขาแล้วเขาอยากไปที่นั่นด้วยตัวของเขาเองไม่ใช่แบบนี้

    บทสนทนาในช่วงนี้ บีบหัวใจเรามาก 
    จนแทบจะหายใจไม่ออกเราถอนหายใจตลอดเวลาที่ดูหนัง 
    แต่ช่วงฉากนี้กลับมาผลต่อเรามาก

    เพราะตั้งแต่ที่เราป่วย 
    เราคิดเหมือนพระเอกเสมอ...
    ตลอดปีมานี้เราเลิกไปคอนเสิร์ตทุกคอน 
    ทั้งๆที่เมื่อก่อนเราชอบมาก 
    ฉายาเรา เจ้าแม่คอนเสิร์ต...
    แต่ตั้งแต่ป่วยเราไม่อยากไปคอนไหนอีก
    เราไม่อยากไปทำให้ที่ที่ๆเราเคยมีความสุขต้องแปดเปื้อน

    เรารู้ดีว่าถ้าเราไปคอนเสิร์ตในตอนนี้
    ความรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
    เมื่อเราไปถึง 
    ยืนท่ามกลางผู้คน
    ฟังเพลงแล้วเพลงเล่า
    เราจะยิ่งเศร้ากว่าเดิม 
    เพราะเรารู้สึกเสียใจที่เราไม่เป็นตัวเองแบบเมื่อก่อน

    ดังนั้นการไปคอนเสิร์ตของเราก็จะไม่ใช่ความสุขอีกต่อไป
    การที่เราเลือกจะไม่ไปเยือนที่นั่น 
    แม้จะเป็นที่ที่เราชอบ...
    เพียงเพราะเราอยากเก็บความทรงจำดีๆเหล่านัั้นไว้
    ในวันที่รู้สึกแย่ เราอยากมีความทรงจำที่ดีว่า เมื่อก่อนเราสนุกมากเลยที่คอนเสิร์ต

    เพื่อนคนที่ห้ามเราให้เหตุผลว่า 
    เขาไม่อยากให้เราดู 
    เพราะกลัวว่าสักวันเราจะทำแบบพระเอก
    กลัวว่าเมื่อดูจบ อาการของเราจะแย่กว่าเดิม
    กลัวว่าเมื่อดูจบเราจะเอาแต่ร้องไห้ และกลับหอพักเองไม่ได้

    ซึ่งถูกอย่างที่เพื่อนเราคิด 
    เรารู้สึกแย่มาก 
    จนเราเลือกที่จะไม่กลับหอ 
    เราไปเดินเล่นไปเรื่อยๆรอบๆ 
    ไปกินอะไรที่อยากกิน 
    เพราะเรากลับหอเองไม่ไหวปล่อยตัวเองให้นิ่งๆ ดีขึ้น 
    ก่อนจะไปเจอคนอื่นๆ....


    สำหรับเราคงไม่ต่างจากพระเอก...
    ใครๆก็อยากเก็บความทรงจำดีๆไว้นึกถึงในช่วงเวลาดีๆ
    นึกถึงบรรยากาศ
    กลิ่น
    รอยยิ้ม
    เสียงหัวเราะ
    ในสถานที่ที่เราชอบกันทั้งนั้น

    สำหรับเราเอง 
    เราก็อยากให้มันมีแต่ความรู้สึกดีๆ
    ในสถานที่นั้น
    มากกว่า
    การมีน้ำตา...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in