จากเรื่องเล่าในพุทธกาล..
วันหนึ่งขณะที่พระพุทธองค์กำลังเทศน์อยู่
พระราชาท่านฟังธรรมอยู่แล้วก็เกาเท้าไปด้วย
แต่ถ้าพระพุทธองค์หันมองมา
พระราชาก็หยุดกริยาอันไม่เหมาะสมนั้น
แต่ถ้าพระพุทธองค์หันไปทางอื่น
พระราชาก็ทำกริยาเช่นเดิม
พระพุทธองค์ : มหาบพิตร ท่านเกาเท้า
ในขณะที่ฟังธรรม ท่านรู้ตัวเองหรือไม่
พระราชา : อึ่ม ข้าพเจ้าไม่รู้สึกตัวเลยว่าทำดังนั้น
พระพุทธองค์ : แล้วท่านขาดสติในเวลาอื่นอีก
หรือไม่
พระราชา : โหบ่อยไป บางทีเวลาโกรธๆ ก็เผลอสั่งฆ่าคนผิดไปมากมาย
.
.
ในชีวิตคนเรา สติ การระลึกรู้มีความสำคัญมาก
หากเราไม่มีสติ การตัดสินใจต่างๆ
ที่ใช้เพียงอารมณ์ที่ปะทุเข้ามา
ดังพายุพัดรุนแรงที่กวาดเอาบ้านเรือนพังราบ
แล้วพอลมสงบ ก็เห็นแต่ซากปรักหักพัง
.
.
มีนิทานเซน บอกว่า
คนเรามีหมาจื้งจอกในตัว 2 แบบ
แบบที่อ่อนโยน และ แบบหมาบ้า
ยามเรามีสติ อารมณ์เย็น เบาสบาย
หมาจิ้งจอกใจเย็น ก็มีความสงบเป็นอาหาร
ส่วนหมาจิ้งจอกใจร้อน ก็มีความโกรธเป็นอาหาร
เราเลือกที่จะเลี้ยงตัวเราด้วยอาหารแบบไหน
เราต้องรู้เท่าทันนะ และมีสติระงับความโกรธได้
เมื่อมีสติ ความคิดปรุงแต่งจะมีน้อย
ขอพวกเราหมั่นเจริญสติ เป็นปกติกันเถิด
ปล. ธรรมะจากโครงการสามเณร
ปลูกปัญญาธรรมปี 8
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in